จตุพร วิเคราะห์ ทักษิณ ชินวัตร อาจถูกหลอก เรื่องกลับบ้าน 10 ส.ค. ถ้าไม่ถึงสนามบิน อย่าเพิ่งเชื่อ 100% แต่ถ้ากลับมาจริง สิ่งที่รออยู่คือต้องติดคุก
ภาพจาก โหนกระแส
เป็นประเด็นที่หลายฝ่ายต่างจับตามอง สำหรับกรณีที่ ทักษิณ
ชินวัตร อดีตนายกฯ ประกาศกลับเมืองไทย 10 สิงหาคมนี้ จนคนสงสัยว่าจะกลับมาจริงไหม
เกิดอะไรขึ้น มีเบื้องลึก เบื้องหลัง ดีลลับอะไรหรือไม่
กลับมาแล้วจะโดนอะไรไหม แล้วการเมืองไทยจะเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า ?
อ่านข่าว : ยืนยัน ทักษิณ ชินวัตร เตรียมกลับไทย 10 ส.ค. นี้-ย้อนเส้นทาง 17 ปีลี้ภัย พิษรัฐประหาร
ภาพจาก Instagram thaksinlive
โดยล่าสุด (27 กรกฎาคม 2566) รายการโหนกระแส ทางช่อง 3 ดำเนินรายการโดย
"หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ได้มีการสัมภาษณ์ ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ซึ่งได้มาร่วมวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ภาพจาก โหนกระแส
- พี่ตู่สัมภาษณ์หลายสื่อ สิ่งหนึ่งที่พูดออกมา ยังไม่มั่นใจว่าท่านทักษิณจะกลับมาด้วยซ้ำ ?จตุพร : ตราบใดที่ไม่เห็นนายกฯ ทักษิณอยู่ที่สนามบินดอนเมือง ก็อย่าเพิ่งไปเชื่อว่าจะกลับจริง เพราะตลอดท่านพูดว่าจะกลับบ้านนับสิบ ๆ ครั้ง ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ เกิน 20 ครั้งเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นการประกาศของท่านนายกฯ ทักษิณทุกครั้ง ท่านไม่เคยทำตามคำประกาศแม้แต่เพียงครั้งเดียว ฉะนั้นในรอบนี้ ตราบใดที่ไม่เห็นตัวท่านนายกฯ ทักษิณตัวเป็น ๆ ที่สนามบินดอนเมือง อย่าเพิ่งเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์
- ถ้าเป็นอย่างพี่ตู่พูดว่าอย่าไปคาดหวังว่าใช่หรือเปล่า ถ้าไม่ได้กลับมาจริง ๆ การที่ท่านประกาศว่าจะกลับมา 10 ส.ค. คิดว่าท่านประกาศเพื่ออะไร ?
จตุพร : ณ วันนี้ต้องยอมรับความเป็นจริงว่ากระแสจัดตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้ว ตระบัดสัตย์ ผิดคำพูดที่ให้ไว้กับประชาชน ขณะหาเสียงเลือกตั้งว่าจะไม่จับมือพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ และภูมิใจไทย รวมทั้งมีท่าทีว่าหลังรับไม้ต่อจากก้าวไกล ถ้าดำรงความมุ่งหมายเดิม 8 พรรค ผลลัพธ์ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากคุณพิธา จนเกิดกระแสมิ้นต์ช็อกไปช่วงที่ผ่านมา ความเชื่อต่าง ๆ ประชาชนก็ไปในทิศทางว่าจะข้ามขั้ว ข้ามขั้วก็ต้องแลกกับสิ่งที่เรียกว่าตระบัดสัตย์ มันใหญ่กว่า MOU นะ ทั้งเพื่อไทยและก้าวไกลต่างให้สัญญากับประชาชนว่าจะจับมือกับใคร ไม่จับมือกับใคร แม้แต่เรื่อง 112 ทั้งก้าวไกลและเพื่อไทยพูดเหมือนกัน แต่คนไปจำเฉพาะส่วนของพรรคก้าวไกลเท่านั้น ท่ามกลางกระแสนี้ ไม่มีข่าวไหนมากลบหรือเฉลี่ยพื้นที่ข่าวได้ดีไปกว่าการกลับมาของนายกฯ ทักษิณ
ภาพจาก โหนกระแส
จตุพร : เป็นการเฉลี่ยในพื้นที่ข่าว เพียงแต่ว่าเรื่องตระบัดสัตย์ทางการเมือง ต่อให้ร้อยนายกฯ ทักษิณ ก็ไม่สามารถปิดความรู้สึกประชาชนในส่วนนี้ได้ ยกตัวอย่างในวันที่เพื่อไทยชนะแบบเบ็ดเสร็จ วันที่กระแสสูงสุด ท่านยังกลับมาไม่ได้ แต่วันนี้คนที่ไม่เอาท่าน ยังไงก็ไม่เอาอยู่แล้ว สิ่งที่เคยรักท่านก็มาหารสอง และไม่รู้ว่าจะหารไปอีกเท่าไร วันเวลาที่การเมืองก็ไม่เบ็ดเสร็จ ความรักประชาชนก็สูญหาย ความชังยังคงที่ อยู่ดี ๆ ท่านประกาศว่าจะกลับมา มันไม่สมเหตุสมผล เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่าการเดินเกมนี้เพื่อเดินเข้าสู่อำนาจรัฐเท่านั้นเอง เพียงแต่ว่ามันต้องแลกกับการล้มละลาย เรื่องความน่าเชื่อถือ
- จะบอกว่าเขามีการคุยกันไปแล้วเหรอ ?
จตุพร : ถูกต้อง มันมาตั้งแต่เรื่องบัตรสองใบแล้ว เป็นกติกาที่พรรคเพื่อไทยถนัดที่สุด แล้ว พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ท่านจัดให้ ต้องเอ่ยชื่อเลย แต่ผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามคิด ที่ผิดแผนคือพรรคก้าวไกลมาแรงแซงโค้ง
- พี่ตู่บอกว่าจริง ๆ แล้วคุณทักษิณอาจถูกหลอก ถูกหลอกจากใคร ?
จตุพร : การต้มทางการเมือง มันมีทฤษฎีอยู่ว่า ถ้าต้มตามความอยากจะประสบความสำเร็จ เช่นต้มว่าอยากกลับบ้าน อยากเป็นรัฐบาล อยากอะไรก็ต้มอย่างนั้น ฉะนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกคนที่รู้จักนายกฯ ทักษิณ ก็รู้ว่าท่านมีคุณสมบัติอยู่อย่าง หูเบา ปากเร็ว การตัดสินใจหลากหลายครั้งก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดระยะเวลา
ภาพจาก โหนกระแส
- แล้วใครหลอก ?จตุพร : คนที่ไปคุยกับนายกฯ ทักษิณ นายกฯ ทักษิณรู้ดี (หัวเราะ) วันที่คุณแข็งแรงที่สุด คุณชนะเลือกตั้งเขายังไม่ยอม ณ วันนี้คุณอ่อนแอที่สุดแล้ว แล้วจะไปเชื่ออะไรเขา อย่างที่บอกว่ายืมมือมาจัดการพรรคก้าวไกล จะไปจัดการก้าวไกลได้ยังไง ก็เริ่มต้นด้วยการตระบัดสัตย์ ความเชื่อทางการเมืองมันหายไป ต้องสร้างความเชื่อที่เหนือกว่าถึงจะไปสู้ก้าวไกลได้ แต่นี่ตระบัดสัตย์ต่อคำพูดตัวเองว่าไม่จับมือกับพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ
- จะบอกว่าเพื่อไทยโดนวางงาน ?
จตุพร : เรียกว่าต้มตามความอยาก อยากอะไรเขาก็ต้มตามสิ่งนั้นแหละ
เวลาเขาวางแผนทางการเมือง เช่น เขารู้ว่าคุณหนุ่มจะเชื่อใคร
เขาก็วางงานผ่านคนนั้นไป เพราะคุณหนุ่มต้องเชื่อ ทฤษฎีทางการเมือง
ผมอยู่มาตั้งแต่เด็ก นายกฯ ทักษิณที่เจอมาหลายครั้ง
ประกาศกลับบ้านก็เป็นแบบนี้ แต่พอความจริงสุดท้ายไม่ใช่
ท่านก็เปลี่ยนใจทุกครั้ง
ภาพจาก โหนกระแส
- ถ้าท่านกลับมาจริง ๆ จะโดนอะไร ?จตุพร : ท่านก็ต้องติดคุก เพราะโทษจำคุก 10 ปีนี้คดีถึงที่สุด คดีไม่มีอายุความ เช่นไปติดแล้ว ท่านอายุ 70 ความจริงผมไปเจออดีตผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจ ที่ไปช่วยเหลือท่านในทางธุรกิจ อายุ 80 แล้วยังติดคุกอยู่ ทำเรื่องช่วยนายกฯ ทักษิณ ก็ยังอยู่ข้างใน นายกฯ ทักษิณ เมื่อติดคุก หนึ่งก็รอการอภัยโทษตามปกติ คดีทุจริตเขาจะกั๊กชั้นไว้ เช่นว่าชั้นกลางอาจไม่ได้เลยก็ได้ ชั้นดีต้องได้ 1 ใน 4 ก็อาจต้องได้ 1 ใน 5 ซึ่งถ้าไปยื่นถวายฎีกาเฉพาะตัว ตัวนายกฯ ทักษิณ สามารถยื่นถวายฎีกาเป็นการเฉพาะตัวได้ บุตรธิดาสามารถยื่นถวายฎีกาได้ แต่ต้องมีคนไปยื่นถวายฎีกาคัดค้านในทางปฏิบัติกันอยู่แล้วชัดเจน การขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะตัวก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย รวมทั้งการไปขังคุกที่บ้าน คนอื่นได้ แต่กับนายกฯ ทักษิณคงไม่ได้
แล้วยังมีคดีเหลือที่ท่านต้องไปขึ้นศาล ใส่ชุดนักโทษไปขึ้นศาล ที่เหลืออยู่ 1 คดีในศาลฎีกา ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่านต้องติดคุกอย่างน้อย 3 ปีเศษ ใครไม่รู้ว่าคดีที่เหลือ 1 คดี จะลงโทษอีกเท่าไหร่ แล้วให้รับโทษต่อกันหรือไม่ ดังนั้นนายกฯ ทักษิณโดยหลัก การติดคุกเฉลี่ย 1 ใน 3 ของโทษ ท่านมีโทษ 10 ปีก็จะตก 3 ปีเศษ ๆ หรืออาจได้มากกว่านั้น หรือกรมราชทัณฑ์บอกว่าเต็มที่แล้ว ให้ไปอยู่ที่ รพ. ปกติแล้ว 10 กว่าปีที่แล้ว เขาเตรียมห้องไว้ให้ท่าน ผมติดคุกครั้งที่ห้า เขาซ่อมแซมห้องกักกันโรค เขาก็ให้ผมไปนอนอยู่ห้องท่านทักษิณ แต่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ท่านอาจมาอยู่ที่ รพ.ราชทัณฑ์ แต่ถ้าจะอยู่ข้างนอก ต้องหาโรคที่ท่านเป็นแล้ว รพ.ราชทัณฑ์ รักษาท่านไม่ได้ ท่านก็ต้องไป รพ.ตำรวจ
- สิ่งที่พูดคือสิ่งที่คุณทักษิณอาจคาดหวังว่าถ้ากลับมาแล้ว แต่อาจไม่มีอยู่จริง ?
จตุพร : ติดคุกแล้วจะเอาอะไรอีกคุณหนุ่ม (หัวเราะ)
- โดนหลอก แต่บอกไม่ได้ว่าใครหลอก ?
ภาพจาก โหนกระแส