เพจดังแฉส่วยมูโนะ อาจเป็นกลไกทำพลุระเบิด จ่ายเดือนละ 5 หมื่นจบ ? - เจ้าของจ่อมอบตัว


          เพจดังแฉเหตุพลุระเบิดที่ตลาดมูโนะ อาจมีจ่ายส่วยให้ตำรวจเดือนละ 5 หมื่น ส่วนเจ้าของโกดังจ่อมอบตัววันนี้ ส่วนพรรคเป็นธรรม จี้ ให้แก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรก

          เป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลด เมื่อโกดังเก็บพลุในตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ระเบิด เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บเกิน 100 ราย ที่น่าสลดยิ่งกว่านั้นคือ มีครอบครัวหนึ่งเสียชีวิตไป 5 คน โดยที่ผู้รอดชีวิตสามารถช่วยเหลือยายได้เพียงแค่คนเดียว


อ่านข่าว : เหยื่อระเบิดโกดังเก็บพลุเศร้าใจ สูญเสียพ่อ ญาติ 5 คน ช่วยยายทันคนเดียว

ค้นบ้านเจอพลุอีก 1 พันตัน ห่างจุดเกิดเหตุ 150 เมตร โชคดีไม่ระเบิดซ้ำ


          ล่าสุด วันที่ 1 สิงหาคม 2566 ข่าวช่องวัน รายงานว่า เจ้าหน้าที่มีการค้นบ้านเจ้าของพลุซึ่งตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย พบว่า ในบ้านยังมีพลุเพิ่มอีก 1 ตัน ห่างจากจุดที่ระเบิดเพียง 150 เมตร ดังนั้นจึงรีบย้ายไปเก็บรักษาที่ค่ายกัลยานิวัฒนา อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อความปลอดภัย ขณะที่ชาวบ้านต่างนึกหวาดเสียวว่า ในวันเกิดเหตุ หากสะเก็ดพลุไปถูกพลุอีก 1 ตันนี้เข้า เท่ากับว่าจะเกิดโศกนาฏกรรมซ้อนกันในวันเดียว

          นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุยังมีหลุมขนาดใหญ่ลึก 3 เมตร กว้าง 5 เมตร อยู่ห่างกันประมาณ 5 เมตร มีเศษพลุ ประทัดกระจัดกระจาย ความเสียหายกระจายเป็นวงกว้างมาก


เจ้าของโกดังอยู่มาเลเซีย ปิดเฟซบุ๊กหนี เจ้าหน้าที่เพิ่งมาตรวจก่อนเกิดเหตุ 3 วัน


          ส่วนทางการมีการยืนยันว่า เจ้าของโกดังแจ้งขอเปิดร้านขายของชำ และขออนุญาตเก็บของที่ขาย แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นพลุ ถ้าเข้าข่ายนี้ถือว่าผิดกฎลักลอบนำเข้าดอกไม้ไฟโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งโกดังจุดนี้เพิ่งสร้างเสร็จไม่นาน มีเจ้าหน้าที่มีตรวจสอบก่อนเกิดเหตุเพียง 3 วัน แต่การลักลอบนำเข้าพลุ เพื่อส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย เกิดขึ้นหลังการตรวจสอบไปแล้ว

          ด้านเจ้าของโกดัง เดินทางไปเยี่ยมญาติที่ประเทศมาเลเซียก่อนเกิดเหตุ จนบัดนี้ติดต่อไม่ได้ และปิดเฟซบุ๊กหนีไปแล้ว เพราะรถทัวร์มาจอดเทียบท่าบอกให้มารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย

         
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เจ้าของโกดังจะเดินทางมามอบตัวในวันนี้ และในปี 2559 เคยถูกจับในข้อหาครอบครองดอกไม้ไฟมาแล้ว 1 ครั้ง ตำรวจสั่งฟ้องไปแล้ว ก่อนจะเกิดเรื่องแบบนี้อีก เตรียมสอบเส้นทางการเงินที่มาที่ไปของธุรกิจ


เลขาฯ พรรคเป็นธรรมจี้ต้องรีบแก้ เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรก


          นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม มีการเขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์ @nolkannavee ว่า ก่อนที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ มีข้อมูลบางส่วนที่อยากแชร์ให้ประชาชนทราบว่า กรณีโกดังพลุมูโนะระเบิด ไม่ใช่เหตุการณ์แรกและจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย หากไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง เพราะในช่วงปี 2549-2559 มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเกือบ 80 ครั้ง และถ้านับมาถึงปัจจุบันคงเกิดเกือบ 100 ครั้งแน่นอน

          เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้ เนื่องจากอันตรายจ่อใกล้ชุมชนเรื่อยมา และทางการก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีกฎหมายควบคุม มีกฎหมายหลายฉบับที่ออกมาเพื่อป้องกันโดยเฉพาะ ทั้ง พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535, พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ 2490, พ.ร.บ. ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ฯลฯ

          แม้มีกฎหมายมากมาย เหตุการณ์ก็ยังควบคุมไม่ได้ จึงขอสรุปเรื่องการบังคับใช้ตัวกฎหมายนี้ว่า

          1. ทบทวนแนวปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกันที่ส่วนราชการระดับพื้นที่

          2. กระจายให้เห็นถึงกระบวนการในการกำกับควบคุม ตั้งแต่ตั้งสถานประกอบการ ระบบป้องกันที่มีมาตรฐานระดับสากล ไปจนถึงการความพร้อมรับมือและเยียวยาฟื้นฟู

          นี่เป็นสิ่งแรกที่จำเป็นต้องทำ เพื่อจะให้เห็นถึงการทับซ้อน เหลื่อมกันของกฎหมายแต่ละฉบับของส่วนราชการ และมีช่องโหว่ของการดำเนินการที่ยังไม่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ โดยเฉพาะเรื่อง หลักเกณฑ์สถานที่ตั้งของสถานประกอบการ จะต้องมีระยะห่าง และมั่นใจว่าไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนที่ห้อมล้อม และเปิดพื้นที่ให้ชุมชนมามีส่วนร่วมในการตัดสินใจถึงประโยชน์ของพวกเขา


          ถ้าทำแบบนี้ได้ จะนำไปสู่ 2 อย่าง ได้แก่

          1. การกำหนดกติกากำกับโดยชุมชนในรูปของธรรมนูญชุมชน ที่จะต้องได้รับการรับรองสถานะในทางกฎหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นขั้นต่ำ

          2. การทำประชาพิจารณ์ให้ชุมชนตัดสินใจร่วมกันก่อนการจัดตั้งสถานประกอบการดอกไม้เพลิง

          ข้อเสนอเหล่านี้คือสารตั้งต้นที่ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องครุ่นคิดถกแถลงกัน เพื่อวางโครงสร้างระบบควบคุมกำกับที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน เราต้องถอดบทเรียนร่วมกันอย่างจริงจังเสียที


แฉ ที่เกิดเรื่องเพราะมีการรับส่วย ?


          เฟซบุ๊ก Golok Spotlight มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องพลุระเบิดเช่นกันว่า สิ่งที่ประชาชนสงสัยคือ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จะไม่รู้จริง ๆ หรือว่า ตรงนั้นเป็นแหล่งเก็บพลุ และโกดังลักลอบเก็บก็ไม่ได้เพิ่งมี แต่มีมานานแล้ว

          ส่วนเจ้าของโกดัง มีอาชีพเปิดขายของเบ็ดเตล็ดบังหน้า แต่ธุรกิจหลักคือค้าขายประทัดและพลุส่งออกไปยังประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าใหญ่ และเคยถูกจับโดย กอ.รมน. ในปี 2559 ตอนนี้หลุดคดีมาก็ถือว่าไม่ธรรมดา

          นอกจากนี้ ยังมีการระบุว่า เจ้าของจ่ายเงินให้ตำรวจในพื้นที่เพื่อดูแลธุรกิจสีเทาเดือนละ 3-5 หมื่นบาทต่อเดือน โดยมีจ่าฟาโรเป็นคนเก็บเงินทั้งหมดส่งให้ผู้กำกับ ขณะเดียวกัน เหตุการณ์นี้ผ่านมาหลายวันแล้ว ก็ยังไม่มีการย้ายตำรวจ สภ.มูโนะแม้แต่นายเดียว

          ตอนนี้กลายเป็นว่า ชาวบ้านต้องมารับกรรมเสียทรัพย์สิน เสียคนรัก ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของตัวเอง แต่เป็นเพราะข้าราชการชั่ว ๆ บางนายที่ละเลยยอมรับเงินส่วย จนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ถ้าหากยังไม่มีการตรวจสอบหรือดำเนินการใด ๆ ถึงเวลาที่ประชาชนควรจะต้องหมดศรัทธาแล้ว

          สำหรับข้อความดังกล่าว มีคนแชร์อย่างล้นหลามกว่า 4,000 ครั้ง และคอมเมนต์วิจารณ์เรื่องส่วยด้วยความปวดร้าว





ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เพจดังแฉส่วยมูโนะ อาจเป็นกลไกทำพลุระเบิด จ่ายเดือนละ 5 หมื่นจบ ? - เจ้าของจ่อมอบตัว โพสต์เมื่อ 1 สิงหาคม 2566 เวลา 10:46:15 8,894 อ่าน
TOP
x close