อนุทิน ขอฟังรายละเอียดก่อน ร่วมรัฐบาลเพื่อไทยหรือไม่ ลั่นต้องชัดเจน มีพรรคไหนร่วมบ้าง ล่าสุดยังไม่มีใครติดต่อมา
จากกรณีที่พรรคเพื่อไทย ประกาศผลการหารือกับพรรคก้าวไกล โดยเตรียมฟอร์มรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อการเริ่มต้นในการร่วมผ่าทางตัน หาทางออกให้ประเทศ โดยจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และยืนยันว่าจะไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 โดยจะไม่มี "พรรคก้าวไกล" ในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยนั้น
อ่านข่าว : สรุปแถลง พรรคเพื่อไทย ให้ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ใครจะร่วมก็ตามมา จับตาพรุ่งนี้แถลงขั้วใหม่ !
ล่าสุด ช่อง 3 รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงท่าทีของพรรคในการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 สิงหาคม 2566 ว่าจะต้องมีการพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ ก่อนว่าเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้พรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนกรณีที่ สว. ตั้งข้อสังเกตกับนายเศรษฐา ทวีสิน ที่เคยพูดถึงการแก้ ม.112 นั้น นายอนุทิน ระบุว่า ต้องรอดูว่านายเศรษฐาจะชี้แจงเรื่องนี้เพื่อความชัดเจนกับประชาชนอย่างไร แต่ส่วนตัวแล้วพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ติดใจกับนายเศรษฐา เพียงแต่ต้องรอดูในวันโหวตนายกรัฐมนตรีว่าจะมีการชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยยังคงเป็นพรรคอันดับ 3 อยู่ ขอให้เป็นไปตามมารยาททางการเมือง เพราะขณะนี้พรรคอันดับ 2 กำลังจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอให้จัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อยก่อน
โดยวันนี้เป็นการประชุมพรรคตามปกติ ซึ่งก่อนการประชุมสภา 1 วัน ก็จะต้องดูว่าพรรคเพื่อไทยเชิญพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมรัฐบาลแล้วหรือยัง แต่จนถึงขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการส่งสัญญาณอะไรมาที่พรรคภูมิใจไทย
ส่วนกรณีที่ น.ต. ศิธา ทิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ออกมาระบุว่า พรรคภูมิใจไทยได้โทรหา. พรรคก้าวไกลเพื่อขอเข้าร่วมรัฐบาลนั้น นายอนุทิน ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ทราบว่าใครเป็นคนติดต่อไป แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ตนหรือกรรมการบริหารพรรคแน่นอน การที่ให้ข่าวแบบนี้ต้องระวัง เพราะทำให้เกิดความเสียหายกับพรรคภูมิใจไทย แม้จะอยากเป็นข่าว แต่ก็ควรให้ข่าวที่ไม่พาดพิงให้ใครเสียหาย แต่ส่วนตัวแล้วตนกับ น.ต. ศิธา เป็นพี่น้องกัน ตอนนี้ประเทศกำลังไปด้วยดี หนักนิดเบาหน่อยก็ควรให้อภัยกันได้
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลจะยอมโหวตให้นายกรัฐมนตรีและไปเป็นฝ่ายค้านนั้น นายอนุทินทำท่าตกใจ พร้อมระบุว่า สมาชิกพรรคก้าวไกลบอกว่าไม่มี เพราะถ้าเป็นฝ่ายค้านก็ต้องเป็นฝ่ายค้านตลอด และก็ต้องตรวจสอบกัน ยกเว้นว่าทำแล้วประชาชนได้ประโยชน์ ประเทศชาติได้ประโยชน์ ฝ่ายค้านมาสนับสนุนรัฐบาลก็เป็นเรื่องที่น่าชมเชย
นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีที่ สว. มีข้อเป็นห่วงว่าถ้าได้นายกรัฐมนตรีแล้วจะเอาพรรคก้าวไกลกลับมาร่วมรัฐบาลว่า พรรคที่ไปร่วมรัฐบาลต้องแถลงให้ชัดเจน เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ใช่โหวตไปก่อน เพราะต้องให้ประชาชนรับทราบ เรื่องการบริหารราชการแผ่นดินทุกอย่างต้องมีความชัดเจน
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3
จากกรณีที่พรรคเพื่อไทย ประกาศผลการหารือกับพรรคก้าวไกล โดยเตรียมฟอร์มรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อการเริ่มต้นในการร่วมผ่าทางตัน หาทางออกให้ประเทศ โดยจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และยืนยันว่าจะไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 โดยจะไม่มี "พรรคก้าวไกล" ในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยนั้น
อ่านข่าว : สรุปแถลง พรรคเพื่อไทย ให้ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ใครจะร่วมก็ตามมา จับตาพรุ่งนี้แถลงขั้วใหม่ !
ล่าสุด ช่อง 3 รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงท่าทีของพรรคในการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 สิงหาคม 2566 ว่าจะต้องมีการพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ ก่อนว่าเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้พรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนกรณีที่ สว. ตั้งข้อสังเกตกับนายเศรษฐา ทวีสิน ที่เคยพูดถึงการแก้ ม.112 นั้น นายอนุทิน ระบุว่า ต้องรอดูว่านายเศรษฐาจะชี้แจงเรื่องนี้เพื่อความชัดเจนกับประชาชนอย่างไร แต่ส่วนตัวแล้วพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ติดใจกับนายเศรษฐา เพียงแต่ต้องรอดูในวันโหวตนายกรัฐมนตรีว่าจะมีการชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยยังคงเป็นพรรคอันดับ 3 อยู่ ขอให้เป็นไปตามมารยาททางการเมือง เพราะขณะนี้พรรคอันดับ 2 กำลังจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอให้จัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อยก่อน
โดยวันนี้เป็นการประชุมพรรคตามปกติ ซึ่งก่อนการประชุมสภา 1 วัน ก็จะต้องดูว่าพรรคเพื่อไทยเชิญพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมรัฐบาลแล้วหรือยัง แต่จนถึงขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการส่งสัญญาณอะไรมาที่พรรคภูมิใจไทย
ส่วนกรณีที่ น.ต. ศิธา ทิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ออกมาระบุว่า พรรคภูมิใจไทยได้โทรหา. พรรคก้าวไกลเพื่อขอเข้าร่วมรัฐบาลนั้น นายอนุทิน ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ทราบว่าใครเป็นคนติดต่อไป แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ตนหรือกรรมการบริหารพรรคแน่นอน การที่ให้ข่าวแบบนี้ต้องระวัง เพราะทำให้เกิดความเสียหายกับพรรคภูมิใจไทย แม้จะอยากเป็นข่าว แต่ก็ควรให้ข่าวที่ไม่พาดพิงให้ใครเสียหาย แต่ส่วนตัวแล้วตนกับ น.ต. ศิธา เป็นพี่น้องกัน ตอนนี้ประเทศกำลังไปด้วยดี หนักนิดเบาหน่อยก็ควรให้อภัยกันได้
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลจะยอมโหวตให้นายกรัฐมนตรีและไปเป็นฝ่ายค้านนั้น นายอนุทินทำท่าตกใจ พร้อมระบุว่า สมาชิกพรรคก้าวไกลบอกว่าไม่มี เพราะถ้าเป็นฝ่ายค้านก็ต้องเป็นฝ่ายค้านตลอด และก็ต้องตรวจสอบกัน ยกเว้นว่าทำแล้วประชาชนได้ประโยชน์ ประเทศชาติได้ประโยชน์ ฝ่ายค้านมาสนับสนุนรัฐบาลก็เป็นเรื่องที่น่าชมเชย
นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีที่ สว. มีข้อเป็นห่วงว่าถ้าได้นายกรัฐมนตรีแล้วจะเอาพรรคก้าวไกลกลับมาร่วมรัฐบาลว่า พรรคที่ไปร่วมรัฐบาลต้องแถลงให้ชัดเจน เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ใช่โหวตไปก่อน เพราะต้องให้ประชาชนรับทราบ เรื่องการบริหารราชการแผ่นดินทุกอย่างต้องมีความชัดเจน
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3
