สุดหดหู่ เด็ก ป.6 ถูกคนร้ายปลอมเป็นครู บังคับถ่ายรูปโป๊ ก่อนโพสต์ว่อนโซเชียล ตำรวจอ้างเหตุคดีเงียบ เพราะแค่ลงบันทึกประจำวัน ทีมช่วยเหลือฉุกใจ แปลกไปซะทุกจุด
วันที่ 20 สิงหาคม 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า จากกรณีมีผู้ปกครองร้องเรียนให้เพจเรื่องจริงนครนายก (มูลนิธิองค์กรทำดี) ช่วยเหลือลูกสาววัย 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ที่ถูกกลุ่มคนใช้ไลน์แอบอ้างเป็นครูผู้หญิง บังคับให้ถ่ายภาพเปลือย อ้างว่าเพื่อตรวจร่างกาย หากไม่ทำจะไล่ออกจากโรงเรียน ก่อนนำภาพไปโพสต์ว่อนโซเชียล ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นรุ่นพี่ 7 คนในโรงเรียน แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ แม้จะเคยแจ้งตำรวจไว้แล้วก็ตาม
คืบหน้าวานนี้ (19 สิงหาคม) ทีมเพจเรื่องจริงนครนายก (มูลนิธิองค์กรทำดี) พาแม่และเด็ก ป.6 ผู้เสียหาย เข้าให้ปากคำแล้ว หลัง ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้เข้าพบ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ช่วยติดตามคดี กระทั่งมีคำสั่งด่วนมายัง สภ.แก่งคอย ให้เร่งสอบสวนดำเนินคดี
โดนทางตำรวจ ร่วมกับนักสหวิชาชีพ พมจ.สระบุรี และอัยการ ร่วมกันสอบสวนแม่และเด็กนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้ทีมของ ดร.บุ๋ม ปนัดดา เข้าร่วมฟังการสอบสวน
การปฏิบัติงานดังกล่าวทำให้ทีมช่วยเหลือเกิดความกังวล เนื่องจากตำรวจพาครูเข้าสอบสวนเด็กภายในบ้าน โดยไม่มีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพและอัยการ ก่อนจะเรียกแม่และเด็กมาสอบที่ สภ.แก่งคอย พร้อมกับนักสหวิชาชีพ พมจ.สระบุรี และอัยการ อีกครั้ง
นอกจากนี้พบว่าชุดสืบสวนได้มีการเรียกแม่และเด็กสอบสวนก่อน โดยยังไม่ให้ไปพบร้อยเวร ต้องให้ปากคำกับชุดสืบสวนก่อนถึงจะไปให้ข้อมูลกับร้อยเวร ทั้งที่ตามขั้นตอนปกติ ร้อยเวรควรจะสอบสวนก่อนส่งสำนวนให้กับชุดสืบสวนต่อไป
แม่เด็กผู้เสียหาย กล่าวว่า ทางตำรวจแจ้งว่าเหตุผลที่คดีเงียบก่อนหน้านี้ เป็นเพราะที่แม่เคยมาแจ้งความไว้นั้น เป็นเพียงการลงบันทึกประจำวันเท่านั้น ไม่ได้แจ้งแบบดำเนินคดี ทั้ง ๆ ที่ตอนมาแจ้งความก่อนคดีเงียบ ทั้งแม่และเด็กได้ถูกเรียกเข้าห้องสอบสวน และให้ข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ จนทางชุดสืบสวนในครั้งแรกสืบทราบแล้วว่า มีผู้ก่อเหตุ 7 คน แต่จากนั้นคดีกลับเงียบหายไป จนต้องมาร้องขอความช่วยเหลือผ่านเพจ
ด้าน ทีมช่วยเหลือของ ดร.บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ตามกฎหมายเกี่ยวกับเด็กนั้น ยิ่งโดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับเพศ เมื่อแจ้งความเด็กจะได้รับการคุ้มครองโดยทันที และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องแจ้ง นักสหวิชาชีพ และอัยการ เข้าร่วมสอบสวนในทันที อีกทั้งคดีเกี่ยวกับเด็กเยาวชนไม่สามารถลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานอย่างเดียวได้ แต่จะต้องเร่งดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาในทันที
ดังนี้ กรณีนี้จึงแปลกมากที่ตำรวจตอบว่าแม่เด็กแค่ลงบันทึกประจำวันไว้เฉย ๆ แถมแม่เด็กยังยืนยันว่า ถูกชุดสืบสวนสอบจนทราบผู้ก่อเหตุแล้ว 7 คน
ในส่วนของเด็กนั้นมีสภาพจิตใจย่ำแย่ ไม่อยากไปโรงเรียน มีอาการซึมเศร้า นอกจากนี้เด็กยังมีพี่น้องที่เกิดห่างกันไม่มาก หน้าเหมือนกัน ได้รับผลกระทบตามไปด้วย ในขณะที่ตำรวจยังไม่ชี้แจงหรือให้ข้อมูลขั้นตอนการปฏิบัติงานใด ๆ กับทีมช่วยเหลือของ ดร.บุ๋ม ปนัดดา และผู้สื่อข่าวที่มารอติดตามข้อมูล
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
วันที่ 20 สิงหาคม 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า จากกรณีมีผู้ปกครองร้องเรียนให้เพจเรื่องจริงนครนายก (มูลนิธิองค์กรทำดี) ช่วยเหลือลูกสาววัย 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ที่ถูกกลุ่มคนใช้ไลน์แอบอ้างเป็นครูผู้หญิง บังคับให้ถ่ายภาพเปลือย อ้างว่าเพื่อตรวจร่างกาย หากไม่ทำจะไล่ออกจากโรงเรียน ก่อนนำภาพไปโพสต์ว่อนโซเชียล ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นรุ่นพี่ 7 คนในโรงเรียน แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ แม้จะเคยแจ้งตำรวจไว้แล้วก็ตาม
คืบหน้าวานนี้ (19 สิงหาคม) ทีมเพจเรื่องจริงนครนายก (มูลนิธิองค์กรทำดี) พาแม่และเด็ก ป.6 ผู้เสียหาย เข้าให้ปากคำแล้ว หลัง ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้เข้าพบ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ช่วยติดตามคดี กระทั่งมีคำสั่งด่วนมายัง สภ.แก่งคอย ให้เร่งสอบสวนดำเนินคดี
โดนทางตำรวจ ร่วมกับนักสหวิชาชีพ พมจ.สระบุรี และอัยการ ร่วมกันสอบสวนแม่และเด็กนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้ทีมของ ดร.บุ๋ม ปนัดดา เข้าร่วมฟังการสอบสวน
การปฏิบัติงานดังกล่าวทำให้ทีมช่วยเหลือเกิดความกังวล เนื่องจากตำรวจพาครูเข้าสอบสวนเด็กภายในบ้าน โดยไม่มีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพและอัยการ ก่อนจะเรียกแม่และเด็กมาสอบที่ สภ.แก่งคอย พร้อมกับนักสหวิชาชีพ พมจ.สระบุรี และอัยการ อีกครั้ง
นอกจากนี้พบว่าชุดสืบสวนได้มีการเรียกแม่และเด็กสอบสวนก่อน โดยยังไม่ให้ไปพบร้อยเวร ต้องให้ปากคำกับชุดสืบสวนก่อนถึงจะไปให้ข้อมูลกับร้อยเวร ทั้งที่ตามขั้นตอนปกติ ร้อยเวรควรจะสอบสวนก่อนส่งสำนวนให้กับชุดสืบสวนต่อไป
แม่เด็กผู้เสียหาย กล่าวว่า ทางตำรวจแจ้งว่าเหตุผลที่คดีเงียบก่อนหน้านี้ เป็นเพราะที่แม่เคยมาแจ้งความไว้นั้น เป็นเพียงการลงบันทึกประจำวันเท่านั้น ไม่ได้แจ้งแบบดำเนินคดี ทั้ง ๆ ที่ตอนมาแจ้งความก่อนคดีเงียบ ทั้งแม่และเด็กได้ถูกเรียกเข้าห้องสอบสวน และให้ข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ จนทางชุดสืบสวนในครั้งแรกสืบทราบแล้วว่า มีผู้ก่อเหตุ 7 คน แต่จากนั้นคดีกลับเงียบหายไป จนต้องมาร้องขอความช่วยเหลือผ่านเพจ
ด้าน ทีมช่วยเหลือของ ดร.บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ตามกฎหมายเกี่ยวกับเด็กนั้น ยิ่งโดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับเพศ เมื่อแจ้งความเด็กจะได้รับการคุ้มครองโดยทันที และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องแจ้ง นักสหวิชาชีพ และอัยการ เข้าร่วมสอบสวนในทันที อีกทั้งคดีเกี่ยวกับเด็กเยาวชนไม่สามารถลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานอย่างเดียวได้ แต่จะต้องเร่งดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาในทันที
ดังนี้ กรณีนี้จึงแปลกมากที่ตำรวจตอบว่าแม่เด็กแค่ลงบันทึกประจำวันไว้เฉย ๆ แถมแม่เด็กยังยืนยันว่า ถูกชุดสืบสวนสอบจนทราบผู้ก่อเหตุแล้ว 7 คน
ในส่วนของเด็กนั้นมีสภาพจิตใจย่ำแย่ ไม่อยากไปโรงเรียน มีอาการซึมเศร้า นอกจากนี้เด็กยังมีพี่น้องที่เกิดห่างกันไม่มาก หน้าเหมือนกัน ได้รับผลกระทบตามไปด้วย ในขณะที่ตำรวจยังไม่ชี้แจงหรือให้ข้อมูลขั้นตอนการปฏิบัติงานใด ๆ กับทีมช่วยเหลือของ ดร.บุ๋ม ปนัดดา และผู้สื่อข่าวที่มารอติดตามข้อมูล
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
