ไรเดอร์ขาหักพัก 3 เดือนเจอเพื่อนบ้านมหาภัย
เปิดเสียงสวดมนต์ดัง 3 เวลา แทบนอนไม่หลับ ตำรวจมาเคลียร์ก็ไม่สำเร็จ
แถมขู่จะเอาปืนยิง ที่เปิดเพราะต้องการส่งให้ถึงพ่อที่ตายไปแล้ว
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีที่มีชาวบ้านรายหนึ่ง ร้องเรียนผ่านเพจ กล้าที่จะก้าว เพื่อขอความช่วยเหลือเนื่องจากถูกเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันเปิดเสียงสวดมนต์ดังสนั่น 3 เวลา บางวันยังมีรอบดึกแถมให้ด้วยมานานเกือบ 2 ปี ส่งผลให้ไม่สามารถกินยาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ตามคำสั่งแพทย์ แม้จะเคยแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ พอตำรวจกลับก็ยังคงเปิดเสียงสวดมนต์เหมือนเดิม ซ้ำร้ายยังขู่อาฆาตหาตัวคนแจ้ง
วันที่ 27 สิงหาคม 2566 ช่อง 3 รายงานว่า นายอธิวัฒน์ สิริกังวานวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว ลงพื้นที่ดังกล่าวไปพบกับนายก้อง (สงวนนามสกุล) วัย 36 ปี อาชีพไรเดอร์ จากการตรวจสอบ พบว่า บ้านของนายก้องเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นอยู่ติดกับบ้านเช่า หน้าบ้านเป็นโรงจอดรถกว้าง 8 เมตร ส่วนที่นอนนายก้องอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน เหตุเป็นเพราะ นายก้องขาหักและเส้นเอ็นขาดจากอุบัติเหตุ แพทย์จึงสั่งให้หยุดงานรักษาตัว 3 เดือน ไม่สามารถขึ้นไปห้องนอนที่ชั้น 2 ของบ้านได้
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
นายก้อง เปิดเผยว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ตนต้องพักรักษาตัวอยู่บ้าน อยู่ไปประมาณ 1 เดือนกลับไม่ได้พักผ่อนตามที่แพทย์สั่ง เพราะเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันได้ปล่อยเช่าบ้านแก่นายบอล วัย 40 ปี เป็นผู้เช่าต่อ และนายบอลมักเปิดเสียงสวดมนต์ทุกวัน วันละ 3 เวลา บางวันมีรอบดึกให้ โดยไม่เกรงใจเพื่อนบ้านในซอยเลย ตนได้ยินแบบนี้ก็นอนไม่ค่อยหลับ
ที่ผ่านมาเคยแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ แต่หลังตำรวจมาตรวจแล้วกลับไปก็ถูกนายบอลตะโกนด่า ข่มขู่ต่าง ๆ นานา ดังนั้นจึงร้องเรียนไปยังเพจ กล้าที่จะก้าว อัดคลิปวิดีโอการสวดมนต์ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ผ่านลำโพงดังมาก ทำให้ตนไม่เป็นอันหลับอันนอน
ตนยังเคยได้ยินนายบอลด่าทอตำรวจกลับไปด้วยว่า ที่เปิดเสียงสวดมนต์เพราะต้องการส่งไปให้พ่อที่เสียชีวิตแล้ว ใครจะทำไม ถ้ามีปัญหามากระวังเจอลูกปืน !
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
เรื่องนายบอล ตนไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเปิดเพลงต่อเนื่องมานาน 2 ปี กระทั่งเจ็บป่วย ที่ผ่านมาคือไปทำงานนอกบ้านมาตลอดแล้วกลับมาดึก ๆ จึงไม่ได้ยินเสียงนี้ ทุกวันนี้เดือดร้อนมาก
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
นายอธิวัฒน์ กล่าวว่า ตนจะทำเรื่องประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเทศบาลในพื้นที่รับผิดชอบดูแล ให้ลงมาพูดคุยกับเจ้าของห้องเช่าและผู้เช่ารายดังกล่าว หาแนวทางในการอาศัยอยู่ร่วมกันต่อไป โดยไม่ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านในซอยอีก
