ออกหมายจับ 6 ราย กรณีพ่อฆ่าปาดคอยกครัว หลังเครียดโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงิน 1.7 ล้าน พบเป็น 5 หมายจับบัญชีม้า และอีก 1 คือพ่อ คนลงมือ สืบเส้นทางการเงิน พบเงินโดนถอนออกนอกประเทศไปแล้ว !

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญ ที่นายสาณิช วัย 41 ปี ติดหนี้เนื่องจากไปค้ำประกันให้เพื่อนร่วมงาน และบ้านกำลังจะถูกยึด ทางภรรยาคือ น.ส.วิภาพร ก็จะนำเงินไปจ่ายหนี้ให้ แต่กลายเป็นว่าโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาเงินไป 1.7 ล้านบาท ทำให้นายสาณิชฆ่ายกครัว คือ น.ส.วิภาพร ลูกอายุ 13 ปี และลูกอายุ 9 ขวบ และนายสาณิชก็จะฆ่าตัวตายตาม แต่ปรากฏว่าไม่ตาย เพราะมีคนมาช่วยชีวิตไว้ได้ทัน
อ่านเพิ่มเติม พ่อปลิดชีพลูกเมียยกครัว 3 ชีวิต เครียดโดนคอลเซ็นเตอร์หลอก 1.7 ล้าน บ้านจ่อถูกยึด

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ล่าสุด วันที่ 29 สิงหาคม 2566 เดลินิวส์ รายงานว่า พล.ต.ต. ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รอง ผบช. สอท. กล่าวถึงคดีนี้ว่า เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า เงินของผู้เสียหายถูกโอนต่อไปยังบัญชีม้า 8 บัญชี และผู้เปิดบัญชีม้านั้นมีทั้งหมด 5 ราย พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ได้ออกหมายจับไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้ง 5 รายแล้ว
เมื่อเงินของผู้เสียหายที่ถูกโอนไปยังบัญชีม้า ก็ได้ถูกเบิกออกมาเป็นเงินสด และโอนไปยังต่างประเทศ ตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวคนกดเงิน และกำลังประสานธนาคารเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินและติดตามกลุ่มดังกล่าวด้วย
ด้าน พ.ต.อ. รังสรรค์ คำสุข รักษาราชการแทน ผกก.สภ.บางแก้ว รายงานว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.วิภาพร ได้แจ้งควมาร้องทุกข์เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ว่ากูแอปฯ เงินกู้นอกระบบ หลอกให้โอนเงิน โดยเริ่มจากการที่ น.ส.วิภาพร ต้องการกู้เงิน 1 แสนบาท แต่ถูกบอกให้โอนเงินไปยังบัญชีหนึ่งเพื่อเป็นค่าเปิดระบบ ค่าดำเนินการ และอื่น ๆ จนทำให้เธอโอนเงินออกไปกว่าล้านบาท
ด้านตำรวจกล่าวว่า ในกรณีที่ต้องการกู้เงิน และไม่อยากตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผู้กู้ควรตรวจสอบกับหน่วยงานเช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าแหล่งที่จะกู้นั้นเป็นแหล่งเงินกู้ถูกกฎหมายหรือไม่ มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกำหนดหรือไม่ และหากมิจฉาชีพบอกให้โอนเงินไปก่อน อย่าเชื่อโดยเด็ดขาด ส่วนหากคนร้ายโทร. มาหลอก สามารถบันทึกเสียงไว้เพื่อเตือนภัยได้ แต่ระวังเรื่องการบันทึกภาพ เพราะหากไม่ใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาจจะผิดกฎหมาย PDPA ได้