ผู้กำกับ สน.พญาไท แจงสาเหตุไปร่วมงานเลี้ยง กำนันนก เล่าชัดนาทียิงเพราะปมนี้ เผยเป็นคนช่วยพา สารวัตรแบงค์ ส่ง รพ.
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
จากกรณีที่เกิดเหตุนายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา วัย 45 ปี ลูกน้องของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ผู้กว้างขวางแห่ง จ.นครปฐม ก่อเหตุยิง พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว สารวัตรตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง กลางงานเลี้ยงของกำนันนกจนเสียชีวิต ซึ่งกลายเป็นประเด็นเพิ่มเติมเนื่องจากในงานนั้นมีตำรวจอยู่จำนวนมากถึง 21 นาย หนึ่งในนั้นคือ พ.ต.อ. กฤษฎาพร จงอักษร ผกก. สน.พญาไท ซึ่งอยู่คนละพื้นที่ แต่ก็มาร่วมงานและอยู่ในโต๊ะที่เกิดเหตุด้วยนั้น
อ่านข่าว : ส่องผังที่นั่ง งานเลี้ยงกำนันนก ตำรวจระดับ ผกก. ยังมา - จำลองนาทียิงสารวัตร ส่อชัดมีคนสั่ง
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 8 กันยายน 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า พ.ต.อ. กฤษฎาพร จงอักษร ผกก. สน.พญาไท เล่านาทีเกิดเหตุว่า ตนไปร่วมงานดังกล่าวเนื่องจากได้รับการชักชวนจากผู้กำกับ 2 ของทางหลวง เนื่องจากตนเคยเป็นตำรวจทางหลวงที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาก่อน จะมาปฏิบัติหน้าที่ในกองบัญชาการตำรวจนครบาล
ตอนเกิดเรื่องขึ้นมาจากการที่ กำนันนก เดินเข้ามาเจรจาขอโยกย้ายตำแหน่งตำรวจนายหนึ่งซึ่งอ้างว่าเป็นหลาน แต่ พ.ต.ต. ศิวกร เหมือนจะไม่ยินยอม เชื่อว่าเป็นการทำให้ กำนันนก รู้สึกเสียหน้า ไม่ใช่เรื่องของการดวลการดื่มสุราตามที่มีกระแสข่าว เพราะหลังจากการพูดคุยเรื่องการโยกย้ายตำแหน่งและมีการปฏิเสธกลับไปก็เกิดการยิงเกิดขึ้นในเวลาต่อมาทันที
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
เมื่อถึงที่โรงพยาบาล ตนก็เป็นผู้ประสานงานกับทางโรงพยาบาลและพยายามประสานติดต่อไปที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพื่อให้ช่วยดำเนินการผ่าตัด พ.ต.ต. ศิวกร เพื่อช่วยชีวิต ส่วนรายละเอียดในจุดเกิดเหตุหลังจากเกิดเรื่องตนเองไม่ทราบ เนื่องจากไม่ได้มีการกลับไปถึงจุดเกิดเหตุ แต่ได้โทร. ไปสั่งการให้อดีตลูกน้องที่เป็นตำรวจทางหลวงในพื้นที่ นำรถสายตรวจไปปิดบริเวณทางเข้า-ออกของบ้านเกิดเหตุแต่เมื่อลูกน้องไปถึงได้มีการรายงานกลับมาว่าตัวมือปืนออกจากจุดเกิดเหตุไปแล้ว
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
กรณีที่ตนเองไปร่วมงานเพราะในเวลาดังกล่าวถือว่าเป็นช่วงเวลานอกเวลางานของหัวหน้าสถานี และสถานที่เกิดเหตุก็อยู่ใกล้กับบ้านพักของตน ที่อยู่ในย่านพุทธมณฑล สาย 3 เชื่อว่าหากเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ ก็สามารถกลับเข้ามาในพื้นที่ได้ทันตามระเบียบของหัวหน้าสถานีที่จะต้องกลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ หากมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในพื้นที่ภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งตนได้มีการทำหนังสือชี้แจงถึงเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมดไปที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นที่เรียบร้อย ต่อจากนี้คงเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาที่จะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับตนอีกครั้ง







