x close

แม่เซ็ง จ่ายประกันลูกปีละ 50,000 ป่วยจริงไม่รับเคลม เพราะเคลมถี่ไป ชาวเน็ตเสียงแตก

          แม่สุดเซ็ง จ่ายประกันลูกเกือบ 50,000 บาท สุดท้ายเมื่อลูกป่วย ประกันกลับไม่รับเคลมเพราะเคลมถี่เกินไป ด้านชาวเน็ตเสียงแตกรู้สึกแปลก ๆ บางคนบอกเคลมง่ายมาก จนมีผู้เคยใช้จริง เบิกจ่าย RSV พ่วงโควิด 19 ยอดเกินกว่าเบี้ยประกัน 2 เท่าก็ผ่านฉลุย มอง ตัวแทนประกันอาจมีปัญหา

ลูกป่วย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          การเลือกซื้อประกัน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลดความเสี่ยงเสียค่าใช้จ่ายหนัก ๆ ในยามที่เกิดเคราะห์ร้าย เช่น อาจจะเกิดอุบัติเหตุ หรืออาจมีปัญหาสุขภาพที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก เงินที่เราซื้อประกันไว้ จะมาช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายตรงนี้แทน


คอมเมนต์

          วันที่ 13 กันยายน 2566 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เล่าประสบการณ์การซื้อประกันยี่ห้อดังให้แก่ลูกสาว โดยจ่ายค่าประกันประมาณ 48,000 บาทต่อปี มีเงื่อนไขการประกันดังนี้

          - OPD (ผู้ป่วยนอก) อยู่ที่ 30 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1,500 บาท

          - IPD (ผู้ป่วยใน) ครั้งละ 50,000 บาท (ต้องคนละโรคเท่านั้น โรคเดียวกันนับรวมในก้อน 50,000) ระยะเวลารักษาโรคเดิมได้วงเงิน 50,000 คือ 3 เดือน ไม่รวมค่าห้อง

          เรื่องของเรื่องคือ ลูกสาวเธอป่วยติดเชื้อไวรัส RSV ซึ่งตอนนี้กำลังระบาดหนัก ทำให้เธอใช้ OPD ผู้ป่วยนอกไป 8 ครั้งในระยะเวลา 3 เดือน และ 2 ครั้งจากจำนวนนี้คือการนัดต่อเนื่องจากการรักษา ส่วนการใช้ผู้ป่วยในมีการใช้ 2 ครั้ง ได้แก่

          - ครั้งที่ 1 ใช้วันที่ 12 สิงหาคม เนื่องจากลูกไอมีเสมหะ แพทย์ลงว่าปอดอักเสบ ตรวจไม่พบเชื้ออะไร เคลมยอด 18,000 บาท

          - ครั้งที่ 2 วันที่ 8 กันยายน ประกันไม่อนุมัติ ต้องจ่ายเองที่ยอด 32,000 บาท

          สำหรับเหตุผลที่ตัวแทนประกันปฏิเสธ เพราะขอตรวจเอกสารการรักษาอย่างละเอียด มีการเคลมที่ต่อเนื่องกันเกินไป เรื่องนี้ทำให้คนเป็นแม่งงว่า เธอไม่ได้ผิดสัญญาหรือผิดเงื่อนไข ก็มีสิทธิ์ที่จะเคลมได้ในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งการเคลมแต่ละครั้ง เราต้องมาเกรงใจประกันหรือ ต้องมากังวลว่าเคลมถี่ไปหรือ ?

          ถ้าหากครั้งล่าสุดเธอไม่มีเงินติดตัวเลย จะต้องทำยังไง เธอกับลูกจะต้องอยูในโรงพยาบาลจนกว่าประกันจะพิจารณา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะอนุมัติให้หรือไม่ อีกอย่างหนึ่งคือ อาการป่วยของลูกคือการติดเชื้อไวรัส ไม่ใช่โรคเรื้อรัง การที่เธอทำประกันให้ลูก เพราะลูกมีความเสี่ยงติดเชื้อ ยอมจ่ายเงินครึ่งแสน จะได้ไม่ต้องกังวลกับค่ารักษา

          ส่วนในตอนนี้ ตัวแทนแจ้งให้เธอเขียนจดหมายแนบขอความเห็นใจจากฝ่ายพิจารณา เขียนไป 2 ครั้งถูกปฏิเสธทั้ง 2 ครั้ง รู้สึกเหมือนขอเศษบุญมาก

          สำหรับข้อความในจดหมาย มีการระบุว่า ปัจจุบันลูกรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งตั้งแต่ 8 กันยายน โดยแพทย์ระบุว่าลูกป่วยเป็น RSV ดิฉันตกใจมากเพราะเฝ้าระวังบุตรเป็นอย่างดี เป็นครั้งแรกที่ป่วยเป็นโรคนี้ การไปโรงเรียนอาจเป็นสาเหตุ เพราะดิฉันก็ได้ติดตามข่าวสารว่า เชื้อ RSV กำลังแพร่ระบาดในโรงเรียนเป็นอย่างมาก  ดังนั้น จึงขอความเห็นใจกับทางบริษัทในการพิจารณาอนุมัติสินไหมให้กับบุตรสาว และขอยืนยันว่าข้อมูลทุกอย่างเป็นความจริงทุกประการ

          อย่างไรก็ตาม ความเห็นของชาวเน็ตเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่อนข้างเสียงแตก เพราะคนส่วนใหญ่ระบุว่า ค่อนข้างเคลมประกันได้ง่าย หรือกรณีนี้ที่เคลมได้ยาก อาจจะเป็นเพราะความสามารถของตัวแทนประกันด้วย ตัวแทนอาจจะแจ้งข้อมูลตอนทำประกันเอาไว้ไม่ครบ ส่วนบางคนที่เล็งไว้ว่าจะทำประกันค่ายดังกล่าว ก็มีการลังเลขึ้นมาเมื่อเห็นโพสต์นี้

ลูกค้าจริง เผยป่วย RSV พ่วงโควิด ยอดเกินเบี้ยประกัน 2 เท่ายังผ่านฉลุย

คอมเมนต์

          ทั้งนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เล่าถึงประสบการณ์การใช้ประกันเจ้าดังกล่าว และได้เคลมประกันจากการป่วย RSV และโควิด พร้อม ๆ กัน มีค่าใช้จ่ายในการรักษา 73,281 บาท แต่ก็สามารถเคลมได้อย่างรวดเร็ว เธอจึงมองว่า เคสนี้ได้แต่สงสัยในใจว่า มีอะไรพลาดไป เพราะตอนที่ตัวเองใช้ประกัน ยอดการรักษาก็พุ่งทะลุเบี้ยประกันเป็น 2 เท่า แต่ทางประกันก็อนุมัติอย่างรวดเร็ว

          ที่สำคัญ บริษัทนี้เวลาจะปฏิเสธอะไรสักอย่าง จะต้องมีเอกสารชี้แจงออกมาว่าทำไมถึงเบิกไม่ได้ ทุกอย่างมีที่มาที่ไป หากทำอะไรถูกต้องแต่แรกก็ไม่มีอะไรต้องกังวล

          เธอยังแสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวอีกว่า "พ้นระยะรอคอยปุ๊บ เข้า รพ. อาทิตย์ละครั้ง 2 ครั้งเลย เป็นใครไม่สงสัยบ้างคะ อย่าว่าแต่บริษัท แต่ก่อนทำประกันดันไม่เคยป่วย มันก็ต้องให้เขาสืบบ้าง ถ้าไม่ปกปิดอะไร ยังไงก็ได้เงินคืนครบ แต่มองในมุมลูกค้าเขาก็คงไม่โอเคที่ต้องเขียนจดหมายเหมือนร้องขอให้บริษัทจ่ายเงินแบบนั้นค่ะ ก็เป็นบทเรียนว่าตัวแทนอย่างเรา ต้องทำงานรัดกุมกว่านี้ และจริง ๆ จดหมายพิพาท ตัวแทนเขียนเองได้ ไม่ต้องให้ลูกค้ามาน้อยเนื้อต่ำใจเขียน"

          สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตัวแทนประกันคือด่านหน้าที่ต้องทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกโดดเดี่ยว และต้องอธิบายความเชื่อมั่นในตัวบริษัทให้อีกฝ่ายรับรู้ให้ได้

คอมเมนต์

คอมเมนต์


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แม่เซ็ง จ่ายประกันลูกปีละ 50,000 ป่วยจริงไม่รับเคลม เพราะเคลมถี่ไป ชาวเน็ตเสียงแตก โพสต์เมื่อ 13 กันยายน 2566 เวลา 16:46:03 24,618 อ่าน
TOP