เรื่องราวความเชื่อหรือเคล็ดต่าง ๆ ยังคงมีอยู่คู่สังคมไทย ซึ่งในบางครั้งถ้าหากทำแล้วสบายใจก็คงไม่มีใครว่า แต่ถ้าความเชื่อนั้นไปสร้างความกระทบกระเทือนจิตใจให้กับคน ๆ หนึ่ง แบบนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่
วันที่ 23 กันยายน 2566 เฟซบุ๊ก ตามติดชีวิตแม่บ้านแขก โพสต์เล่าเรื่องราวที่เพื่อนส่งมาให้อ่าน อ่านแล้วรู้สึกเศร้ามาก ๆ เรื่องมีอยู่ว่า มีเด็กคนหนึ่งประกาศมอบเม่นที่ตัวเองรักให้กับคนอื่นที่สนใจ เนื่องจากคนในครอบครัวป่วย และคนที่บ้านอยากให้เธอทำทานด้วยการมอบน้องเม่นให้คนอื่น เพื่อที่คนในครอบครัวจะได้หายป่วย
เม่นตัวนี้ชื่อแคสเปอร์ นิสัยชอบปีนป่าย วิ่งจักรได้ทั้งวัน กินแต่มาซูริ คนที่จะมารับเลี้ยงต่อขอให้มีความพร้อมจริง ๆ และขอคนที่เลี้ยงได้ดีกว่าเรา อยากให้น้องมีบ้านหลังใหม่ที่อบอุ่น เพราะเราเองก็รักน้องเช่นกัน
เรื่องนี้ ทางเพจได้ตั้งคำถามว่า เหตุใดครอบครัวถึงขอให้ส่งต่อเม่นให้คนอื่น และยังเชื่อว่าการให้เม่นคนอื่นไปเลี้ยงเป็นการทำทาน การที่ทิ้งสัตว์เพื่อให้ตัวเองหายป่วย จึงเป็นจุดที่ไม่เหมาะสมหลายข้อ
1. หวังพึ่งบุญ พึ่งปาฏิหาริย์จากสิ่งที่มองไม่เห็น แบบนี้ไม่ต้องไปหาหมอแล้ว และการทำแบบนี้ก็ไม่ใช่การทำบุญ แต่เป็นการทำบาป เอาสัตว์ที่คน ๆ หนึ่งรักไปทิ้งเฉย
2. มันเป็นเรื่องเศร้าที่ต้องอ่านคนเอาสัตว์ไปทิ้ง ทั้งที่สัตว์ก็มีหัวใจ ผูกพัน ซื่อสัตย์กับเรา บางครั้งมีมากกว่ามนุษย์กันเอง แต่ทำเหมือนกับเขาเป็นของเล่น เบื่อเมื่อไหร่ก็ทิ้ง
กรณีแบบนี้เหมือนกับครอบครัวที่ต้องการเอาใจเด็กเล็กที่กำลังเห่อน้องหมาก็ซื้อหมาให้ พอเขาหมดความสนใจ หมาก็ถูกทิ้ง เพราะผู้ใหญ่ไม่ได้อยากเลี้ยง ดังนั้นถ้าจะทำแบบนี้ ควรดูว่าลูกรักสัตว์ไหม มีความรับผิดชอบหรือเปล่า ถ้าหากไม่มีก็ต้องถามตัวเองว่าสามารถเลี้ยงเขาแทนได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ควรจะเลี้ยง ความจริงแล้ว สัตว์ไม่ต่างจากคนเลยด้วยซ้ำ อยากให้คิด ก่อนที่จะมีสัตว์ไว้ครอบครอง
ด้านชาวเน็ตเห็นโพสต์ดังกล่าวต่างสลดใจ มองว่า น้องคงรักเม่นตัวนี้มากจริง ๆ และเม่นก็คงรักน้องด้วยเช่นกัน ถึงยอมให้จับง่าย ๆ แบบนี้ การที่ผู้ใหญ่ไปพรากเม่นกับเด็กมันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องแถมเป็นเหตุผลที่ประหลาดด้วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ตามติดชีวิตแม่บ้านแขก
วันที่ 23 กันยายน 2566 เฟซบุ๊ก ตามติดชีวิตแม่บ้านแขก โพสต์เล่าเรื่องราวที่เพื่อนส่งมาให้อ่าน อ่านแล้วรู้สึกเศร้ามาก ๆ เรื่องมีอยู่ว่า มีเด็กคนหนึ่งประกาศมอบเม่นที่ตัวเองรักให้กับคนอื่นที่สนใจ เนื่องจากคนในครอบครัวป่วย และคนที่บ้านอยากให้เธอทำทานด้วยการมอบน้องเม่นให้คนอื่น เพื่อที่คนในครอบครัวจะได้หายป่วย
เม่นตัวนี้ชื่อแคสเปอร์ นิสัยชอบปีนป่าย วิ่งจักรได้ทั้งวัน กินแต่มาซูริ คนที่จะมารับเลี้ยงต่อขอให้มีความพร้อมจริง ๆ และขอคนที่เลี้ยงได้ดีกว่าเรา อยากให้น้องมีบ้านหลังใหม่ที่อบอุ่น เพราะเราเองก็รักน้องเช่นกัน
เรื่องนี้ ทางเพจได้ตั้งคำถามว่า เหตุใดครอบครัวถึงขอให้ส่งต่อเม่นให้คนอื่น และยังเชื่อว่าการให้เม่นคนอื่นไปเลี้ยงเป็นการทำทาน การที่ทิ้งสัตว์เพื่อให้ตัวเองหายป่วย จึงเป็นจุดที่ไม่เหมาะสมหลายข้อ
1. หวังพึ่งบุญ พึ่งปาฏิหาริย์จากสิ่งที่มองไม่เห็น แบบนี้ไม่ต้องไปหาหมอแล้ว และการทำแบบนี้ก็ไม่ใช่การทำบุญ แต่เป็นการทำบาป เอาสัตว์ที่คน ๆ หนึ่งรักไปทิ้งเฉย
2. มันเป็นเรื่องเศร้าที่ต้องอ่านคนเอาสัตว์ไปทิ้ง ทั้งที่สัตว์ก็มีหัวใจ ผูกพัน ซื่อสัตย์กับเรา บางครั้งมีมากกว่ามนุษย์กันเอง แต่ทำเหมือนกับเขาเป็นของเล่น เบื่อเมื่อไหร่ก็ทิ้ง
กรณีแบบนี้เหมือนกับครอบครัวที่ต้องการเอาใจเด็กเล็กที่กำลังเห่อน้องหมาก็ซื้อหมาให้ พอเขาหมดความสนใจ หมาก็ถูกทิ้ง เพราะผู้ใหญ่ไม่ได้อยากเลี้ยง ดังนั้นถ้าจะทำแบบนี้ ควรดูว่าลูกรักสัตว์ไหม มีความรับผิดชอบหรือเปล่า ถ้าหากไม่มีก็ต้องถามตัวเองว่าสามารถเลี้ยงเขาแทนได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ควรจะเลี้ยง ความจริงแล้ว สัตว์ไม่ต่างจากคนเลยด้วยซ้ำ อยากให้คิด ก่อนที่จะมีสัตว์ไว้ครอบครอง
ทั้งนี้ มีอัปเดตคืบหน้าเกี่ยวกับน้องเม่นว่า ตอนที่เจ้าของโพสต์เรื่องนี้ก็มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นว่า มันเป็นการทอดทิ้ง ไม่ได้เป็นการทำบุญ อย่าไปเชื่อครอบครัวให้มาก ทำให้เจ้าของตัดสินใจเก็บน้องเอาไว้ และไม่ฟังครอบครัว
ด้านชาวเน็ตเห็นโพสต์ดังกล่าวต่างสลดใจ มองว่า น้องคงรักเม่นตัวนี้มากจริง ๆ และเม่นก็คงรักน้องด้วยเช่นกัน ถึงยอมให้จับง่าย ๆ แบบนี้ การที่ผู้ใหญ่ไปพรากเม่นกับเด็กมันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องแถมเป็นเหตุผลที่ประหลาดด้วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ตามติดชีวิตแม่บ้านแขก