เจ้านายตั้งรางวัลแข่งดวลเหล้า ใครชนะให้เงินแสน พนักงานชายกระดกเหล้าขาวจำนวนมากใน 10 นาที จุดจบชะตาดับ
เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2566 เว็บไซต์ Hk01 เผยเรื่องราวน่าตกใจจากประเทศจีน เมื่อบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองเซินเจิ้น ได้จัดเลี้ยงอาหารค่ำแก่พนักงาน แต่ปรากฏว่าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น มีพนักงานรายหนึ่งรับข้อเสนอแข่งดื่มแอลกอฮอล์จากเจ้านายเพื่อรางวัลเงินแสน จึงกระดกเหล้าขาวที่มีดีกรีสูงมาก ปริมาณเกือบลิตรไปใน 10 นาที จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิต
เมื่อเห็นว่าเสี่ยวจางเงียบไม่รับข้อเสนอ นายหยางจึงเพิ่มเงินเป็น 10,000 หยวน (ราว 50,000 บาท) คราวนี้เสี่ยวจางเริ่มสนใจ จึงถามกลับไปว่าหากเขาชนะจะเป็นอย่างไร นายหยางจึงตอบว่า ถ้าเสี่ยวจางชนะจะให้ 20,000 หยวน (ราว 100,000 บาท) แต่ถ้าแพ้ก็จะให้เงิน 10,000 หยวน (ราว 50,000 บาท) มาเลี้ยงชาทั้งบริษัทแทน เขาจึงยอมตกลง ในขณะที่นายหยางให้คนอื่น ๆ อีก 2-3 คนมาร่วมแข่งดวลด้วย รวมถึงคนขับรถของตน
เสี่ยวจางดื่มเหล้าขาวที่มีระดับแอลกอฮอล์สูงถึง 52 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าเขาจะดื่มทีละแก้ว แต่ก็กระดกเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง เขาดื่มเข้าไปมากเกือบลิตรในเวลาเพียงแค่ 10 นาที ก่อนที่จะล้มลงไปนอนกับพื้น จากนั้นเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ก่อนเข้ารับการรักษาในห้องผู้ป่วยวิกฤต
อย่างไรก็ดี หลังจากความพยายามช่วยเหลือล้มเหลว แพทย์ได้ประกาศการเสียชีวิตของเสี่ยวจาง ในวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตามรายงานระบุว่า ผู้ป่วยเกิดภาวะสุราเป็นพิษเฉียบพลัน ปอดบวมจากการสำลัก หัวใจหยุดเต้น นอกจากนี้ยังพบว่ามีอาหารในกระเพาะอาหารไหลย้อนเข้าไปในทางเดินหายใจ และเกิดการติดเชื้อ ส่งผลให้อวัยวะหลายระบบล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด
ทางด้านครอบครัว น้องชายของเสี่ยวจางเปิดเผยว่า โดยปกติแล้วพี่ชายของเขาเป็นคนดื่มเหล้า ซึ่งก็ดื่มแบบพอประมาณที่บ้าน แต่ในงานเลี้ยงบริษัทพี่กลับถูกชักชวนให้ดื่มต่อ ทั้งที่เขาดื่มไปจนเมาแล้ว โดยทางเจ้านายของบริษัทใช้เงินรางวัลมาหลอกล่อ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เสี่ยวจางดื่มจนเกินขนาดและถึงแก่ความตาย
ภายหลังจากเกิดเหตุทางบริษัทได้ส่งข้อความแจ้งพนักงานระบุว่า "เนื่องจากปัจจัยบางอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเกิดขึ้นที่งานเลี้ยงอาหารค่ำในวันนั้น ทางบริษัทจะหยุดดำเนินการอย่างเป็นทางการ และกำลังจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่" ขณะที่รายงานเผยว่า ทางตำรวจในพื้นที่ได้เข้ามาสอบสวนเรื่องนี้แล้ว เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Hk01
