โวยหมอทำเด็กหลอดแก้ว ใช้อสุจิผิดคน โยนบาปอ้างผู้หญิงมีชู้ แถมเอาผิดไม่ได้

          ผัวเมียทำเด็กหลอดแก้ว ช็อก DNA ไม่ตรงกับสามี เหตุใช้อสุจิผิดคน คลินิกยืนกรานไม่รับรู้ โยนบาปให้ฝ่ายเมีย อ้างมีชู้จนท้อง


          วันที่ 28 กันยายน 2566 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า คู่สามีภรรยาจากรัสเซีย ต้องช็อกและทุกข์ระทมหลังพบว่าลูกสาวที่คลอดออกมานั้นมีภาวะดาวน์ซินโดรม แถมยังมีดีเอ็นเอไม่ตรงกับสามี ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นความผิดพลาดของคลินิกเจริญพันธุ์ที่พลาดสลับอสุจิผิดระหว่างการผสมเทียม ในการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) แต่นอกจากคลินิกจะไม่ยอมรับผิด พวกเขายังกล่าวหาว่าภรรยาไปมีชู้จนตั้งครรภ์ 

          เป็นเวลานานหลายปีที่ อเล็กซานเดอร์ ลีเซนโก กับ เอเลน่า ซามารินา คู่สามีภรรยาจากเมืองสตาฟโรปอล พยายามมีลูกกันด้วยวิธีธรรมชาติ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากภรรยามีภาวะมีบุตรยาก ทำให้ตัวเขาตัดสินใจจะมีลูกกันด้วยวิธี IVF จากคลินิกแห่งหนึ่ง

          คู่รักเข้าไปรับคำปรึกษาจากคลินิกตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งตลอดการตั้งครรภ์ เอเลน่านั้นได้รับการดูแลอย่างดีรวมถึงมีการทดสอบหลาย ๆ ครั้ง เพื่อตรวจเช็กทารกในครรภ์ แต่แล้วเมื่อถึงเวลาคลอด ทั้งคู่ก็ต้องอึ้งเมื่อพบว่าลูกสาวที่เกิดมา มีภาวะดาวน์ซินโดรม

          ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการตรวจเลือดและดีเอ็นเอของทารกเพื่อยืนยันผล แต่ผลลัพธ์กลับนำไปสู่ข้อกังวลใหญ่กว่านั้น เมื่อเอเลน่าพบว่าทารกมีกรุ๊ปเลือดไม่ตรงกับเธอและสามี เธอจึงขอตรวจดีเอ็นเอซ้ำทันทีเพราะคิดว่าคลินิกพลาดนำตัวอ่อนทารกมาฝังให้เธอผิด แต่ผลที่ออกมากลับระบุว่า เอเลน่าคือแม่โดยสายเลือดของทารก แต่พ่อนั้นไม่ใช่อเล็กซานเดอร์

          คู่รักอึ้งหนัก แต่คำตอบที่ได้จากทางคลินิกกลับทำให้พวกเขาอึ้งกว่า เพราะทางคลินิกยืนกรานว่าไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความผิดพลาดระหว่างทำ IVF พร้อมชี้ว่าคำอธิบายเดียวสำหรับกรณีนี้ ก็คือเอเลน่านอกใจสามีของตัวเอง

          อเล็กซานเดอร์ เผยว่า ทางคลินิกยืนกรานว่าภรรยาของเขา ไม่ได้ให้กำเนิดลูกของเขาแต่พยายามจะปิดบังความจริง พวกนั้นโยนความผิดทั้งหมดไปให้พ้นตัว บอกเป็นไปไม่ได้ที่ความผิดพลาดจะมาจากคลินิก และอ้างว่าแม้เอเลน่าจะมีท่อนำไข่หายไป 1 ท่อ แต่ก็ยังสามารถตั้งครรภ์ตามธรรมชาติได้

          คู่สามีภรรยาต้องจับมือกับต่อสู้นานเป็นปีเพื่อหาคำตอบ จนในที่สุดก็สามารถนำตัวแพทย์ที่รับผิดชอบมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ แต่อัยการกลับแจ้งพวกเขาว่า แพทย์รายนี้จะไม่ถูกดำเนินคดี เพราะไม่ได้กระทำการละเมิดกฎหมายข้อใด

          จนกระทั่งในปี 2565 เอเลน่าได้เข้าตรวจกับแพทย์ด้านการเจริญพันธุ์อีกครั้ง และได้ข้อสรุปจากผู้เชี่ยวชาญว่าเธอไม่สามารถตั้งครรภ์เองตามธรรมชาติได้ ซึ่งค้านกับคำกล่าวอ้างจากคลินิก และนั่นแสดงให้เห็นว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เกิดจากทางคลินิกที่มีการสลับตัวอย่างอสุจิ ระหว่างการทำเด็กหลอดแก้วให้พวกเขา

          แต่ถึงอย่างนั้นทางคลินิกก็ปฏิเสธที่จะรับรู้ความผิดพลาดใด ๆ และยืนกรานคำเดิมว่าเอเลน่ามีชู้กับชายอื่น


          ในที่สุดคู่สามีภรรยาก็สามารถลากตัวแพทย์และคลินิกมาเข้ารับการดำเนินคดีจนได้ ในข้อหาประมาทเลินเล่อทางการแพทย์ แต่แม้จะมีหลักฐานเรื่องการสลับอสุจิ แต่ท้ายที่สุดคดีก็ถูกปิดลง เมื่ออัยการระบุว่าไม่มีการก่ออาชญากรรมใด ๆ แม้แต่แพทย์รายดังกล่าวก็ยังไม่ถูกพักงานด้วยซ้ำ ระหว่างมีการสอบสวน

          อย่างไรก็ตาม คู่รักยังคงไม่ยอมทิ้งความหวังที่จะเอาผิดทางคลินิก ซึ่งก็ยังต้องใช้ความพยายามอีกมากหลังจากนี้ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้รับความร่วมมือใด ๆ จากชายที่ถูกระบุว่าเป็นพ่อโดยสายเลือดของทารก โดยอีกฝ่ายทั้งไม่ติดต่อ และไม่สนใจถึงชะตากรรมใด ๆ ของทารกรวมถึงคดีที่เกิดขึ้น




ขอบคุณข้อมูลจาก The Sun