หมอผิวหนังมาเอง แฉด้านมืดของคลินิกเสริมความงาม 3 อันดับสยอง หมอถึงกับขอลาออก ขนาดเข้าคลินิกดังยังไม่พ้นหมอกระเป๋า จะบ้าตาย
ภาพประกอบไม่่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
การชะลอวัยนั้นสามารถทำได้ด้วยหลากหลายวิธีต่างกันไป
เริ่มตั้งแต่ใส่ใจสุขภาพ ออกกำลังกาย ไปจนถึงเข้าคลินิกเสริมความงาม
ที่ในยุคหลังเริ่มเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเพราะเห็นผลไว
อยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ทว่าล่าสุด (5 ตุลาคม 2566) คุณหมอคนหนึ่งซึ่งเป็นแพทย์ด้านความงาม
ก็ออกมาแฉถึงเรื่องราวด้านมืดของคลินิก
โดยเฉพาะสิ่งที่ทำกับลูกค้าที่คุณหมอยังรับไม่ไหว ถึงกับต้องขอลาออก
ทั้งนี้ คุณหมอพราว จาก TikTok @proud_leia ได้มาแชร์เหตุการณ์ 3 อันดับแรกที่แย่ที่สุดของการเป็นหมอความงาม เริ่มจากน้อยที่สุดไปมากที่สุด
ทั้งนี้ คุณหมอพราว จาก TikTok @proud_leia ได้มาแชร์เหตุการณ์ 3 อันดับแรกที่แย่ที่สุดของการเป็นหมอความงาม เริ่มจากน้อยที่สุดไปมากที่สุด
นักต้มตุ๋นในคราบเซลส์ : คุณหมอเคยทำคลินิกเสริมความงามตามห้าง
ประเภทที่ชอบมาตั้งบูธและบุกเข้าประชิดตัวลูกค้า
และพูดชวนให้เข้าบูธก่อนพาตัวเข้าคลินิก ซึ่งสิ่งที่ได้ยินคือ
เมื่อลูกค้าบอกว่าไม่มีเงิน เซลส์ก็จะบอกว่าไม่เชื่อหรอกคุณพี่
ทองเต็มคอเลย เอาบัตรเครดิตมาดู เมื่อได้บัตรเครดิตมาก็เอาบัตรไปรูด
แต่ปรากฏว่าวงเงินบัตรเครดิตลูกค้าไม่พอ เซลส์ก็เลยโทร.
หาธนาคารเพื่อเปิดวงเงินฉุกเฉิน จะได้เอาบัตรลูกค้ามารูดได้
นักปลอมตัวในตำนาน : คุณหมอได้ทำงานที่คลินิกแห่งหนึ่ง
และต้องมาเข้างานประมาณช่วงเที่ยงถึงบ่ายโมง แต่พอวันหนึ่งเมื่อคุณหมอเข้างาน กลับเห็นผู้ช่วยแพทย์ใส่เสื้อกาวน์และเดินออกมา
และบอกหมอว่า "หมอ เมื่อกี้หนูทำตัวเป็นหมอด้วยแหละ เคสหนึ่ง" จนหมอก็อึ้ง
ทำให้หมอต้องลาออก เพราะรู้สึกว่าชีวิตตัวเองไม่ปลอดภัย
ดังนั้น เวลาที่ใครไปคลินิก ให้เช็กก่อนว่าเป็นหมอจริงหรือเปล่า
หน้าหมอตรงกับป้ายหน้าคลินิกจริง ๆ หมอกระเป๋าไม่มีทางเก่งเท่าหมอจริง
และหมอจริงไม่ค่อยอยากรับเคสแก้ของหมอกระเป๋า เพราะมันเป็นภาระชีวิต ดังนั้น
ต้องเลือกคลินิกที่มีคุณภาพด้วย
ขยะแขยง : คลินิกนั้นเป็นคลินิกที่หมอไปรับงานพาร์ตไทม์
ตอนนั้นคลินิกอยู่ในย่านพระราม 2 ก่อนที่จะย้ายไปที่อื่น
ตอนนั้นมีเคสเข้ามาประปราย จนมีเคสหนึ่งเข้ามาจะฉีดฟิลเลอร์
หมอได้จัดการพูดคุยเสร็จสรรพเตรียมฉีด พนักงานก็ไปเอาฟิลเลอร์มาให้หมอดู
แต่พบว่าฟิลเลอร์ที่ให้ดูนั้นอยู่ในหลอดที่ใช้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง