ชาวบ้านปวดหัว เด็ก 9 ขวบขโมยเงิน 3 หมื่น เอาผิดไม่ได้เพราะเป็นเด็ก เชื่อผู้ใหญ่ให้ท้าย ผ่านไปหลายเดือนยังคงลอยนวล ในใจกลัวลึก ๆ จะเกิดเหตุร้ายอีก แม่เด็กก็ใช้เงินคืนไม่ครบ
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
จากกรณีที่มีเหตุการณ์เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ปีนบ้านขโมยเงินสดของนายสิทธิ กูลสิทธิวงศ์ วันที่ 12 มีนาคม 2566 โดยใช้ซอกตึกของบ้านเป็นจุดปีน และวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจนว่า เด็กเอาเงินให้ผู้ใหญ่อีกคนที่อยู่นอกตัวบ้าน คาดว่าสมรู้ร่วมคิดกัน
ล่าสุด วันที่ 6 ตุลาคม 2566 เที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายงานว่า นายสิทธิ ได้ไปแจ้งความที่ สน.หนองแขม แต่ตำรวจบอกว่า ทำคดีให้ไม่ได้ เพราะกฎหมายคุ้มครองเด็กอยู่ ส่วนผู้ใหญ่ก็ไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะไม่มีหลักฐานสาวไปถึงตัว มีแค่คำสารภาพจากเด็กว่า มีผู้ใหญ่ที่สนิทพาไปปีน เป็นหลักฐานที่ไม่แน่นพอในการดำเนินคดี ด้วยเหตุนี้ ตนจึงมีการติดป้ายประกาศเตือนภัยไว้ในซอยให้คนอื่นคอยระวังตัว
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ขณะที่พ่อแม่เด็กเสนอ ชดใช้ตามจริยธรรมเป็นเงินเดือน เดือนละ 1,000 บาท แต่จ่ายได้ 2,000 บาท แล้วก็ติดต่อพ่อแม่เด็กไม่ได้อีกเลย แถมเด็กก็ก่อคดีหลายครั้ง ทุกคดีรอดหมด ตำรวจดำเนินคดีไม่ได้เพราะเป็นเด็ก ปัจจุบันเด็กขาดการศึกษา ไม่ได้เรียนหนังสือในโรงเรียน และยังคงลอยนวลในชุมชน ทุกคนกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายอีก ส่วนทนายความแนะนำให้ฟ้องแพ่ง แต่ตนก็ยอมรับว่ามีความซับซ้อนในรายละเอียดจนรู้สึกเสียเวลา จึงไม่ได้ดำเนินคดี เมื่อเกิดเหตุร้ายที่เกิดจากเด็กวัย 14 กราดยิงในห้างสรรพสินค้า ตนจึงโพสต์เรื่องนี้ขึ้น อยากให้กฎหมายมีความสมดุลในการจัดการแก้ปัญหาระหว่างความเป็นเด็กกับเหยื่อเสียหาย ทุกวันนี้เด็กก็ยังก่อเหตุอยู่
นางสุมาลี แม่ค้าขายมะม่วงหน้าปากซอยของเด็กผู้ก่อเหตุ และเคยถูกขโมยเงิน 8,000 บาทในต้นปีที่ผ่านมาว่า ปกติเด็กคนนี้มักเล่นหน้าบ้านเป็นประจำ ตนก็สงสารเพราะอากาศข้างนอกร้อน จึงให้เล่นในบ้านได้ ระหว่างนั้นพอตนไปเข้าห้องน้ำ กลับมาอีกทีเงิน 8,000 บาทหาย แต่กระเป๋าตังค์ยังอยู่ในกระเป๋าสะพายเหมือนเดิม จึงสงสัยว่าเด็กขโมยไป ตนจึงตามไปถึงที่บ้าน ค้นตัว แล้วก็เห็นเงิน 7,500 บาท เชื่อว่า เด็กใช้เงินไปแล้ว 500 บาท เรื่องนี้ตนไม่ได้แจ้งความเพราะสงสารและยังได้เงินคืน
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ถ้าหากให้ลูกไปอยู่กับ พม. ลึก ๆ ในใจตนก็ไม่อยากให้ไป แต่ถ้าสามารถทำให้นิสัยเขาดีขึ้นได้ก็ไม่มีปัญหา
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปสัมภาษณ์หญิงวัย 45 ปีที่แม่เด็กบอกว่าสนิทกับเด็ก เจ้าตัวยืนยันว่า ตนไม่เคยพาเด็กไปขโมยของ หากจะสอบปากคำก็ยินดี แต่รับว่าติดพนันออนไลน์ ถ้าเล่นก็เล่นกับแม่ของเด็ก และแม่ของเด็กก็เป็นคนพาเด็กไปขโมยของ กำชับลูกว่า หากแม่ถูกตำรวจจับจะไม่มีใครอยู่ด้วย ฉะนั้นห้ามโบ้ยความผิดมาให้ ส่วนหลังจากเกิดเรื่อง พ่อเลี้ยงเด็กก็กำชับไม่ได้ตนเข้าบ้าน เพราะจะเกิดปัญหา
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์








