สาวสุดอาย แฟนบ่นน้องสาวกลิ่นแรง แต่หมอไม่ได้กลิ่น จนเผยอาชีพแฟน หายงงทันที

          สาวสุดอายไปหาหมอ หลังแฟนบ่นน้องสาวกลิ่นแรงมาก แต่ทั้งหมอ-พยาบาล บอกไม่ได้กลิ่น ทำเอาสงสัย จนเผยอาชีพแฟน หายงงไปตาม ๆ กัน

          วันที่ 22 ตุลาคม 2566 เว็บไซต์ ETtoday เผยเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่งจากเมืองเกาสง ในไต้หวัน เมื่อไม่นานมานี้ เธอได้เดินทางไปเข้ารับการปรึกษากับทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะ เธอเล่าด้วยความเขินอายว่า ตอนที่เธอมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม แฟนบอกว่า "น้องสาวของเธอมีกลิ่นแรงมาก" ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ และเป็นกังวลว่าอาจจะมีปัญหาสุขภาพภายใน

          แพทย์หญิงจาง เหม่ยอวี้ ผู้ดูแลเคสของหญิงสาวรายนี้ ได้ให้เธอถอดกางเกงชั้นในออก เพื่อที่จะทำการตรวจภายในเบื้องต้นดูว่ามีการอักเสบหรือติดเชื้อใด ๆ หรือไม่ แต่ปรากฏว่าเมื่อคุณหมอตรวจดูก็พบว่าอวัยะเพศของเธอไม่มีกลิ่น แม้ว่าจะเข้าไปใกล้ ๆ ก็ไม่ได้กลิ่น ถึงขนาดให้พยาบาลหญิงเข้ามาช่วยพิสูจน์ ต่างก็ยืนยันว่าไม่มีกลิ่นเลยจริง ๆ

          อย่างไรก็ตาม หญิงสาวยังคงข้องใจ เธอบอกว่าแฟนของเธอมีนิสัยชอบใช้ลิ้นกับอวัยวะเพศของเธอ จมูกของเขาจึงเข้าไปใกล้กับจุดนั้นมาก และทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้ เขาจะบอกว่ามีกลิ่นแรง

          เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทางคุณหมอก็ยิ่งสงสัยว่าทำไมจมูกของแฟนคนไข้หญิงรายนี้ถึงได้กลิ่นที่ว่า จึงพยายามพูดคุยให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย เผื่อว่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จนกระทั่งหญิงสาวเผยว่า แฟนของเธอมีอาชีพเป็นเชฟ คุณหมอถึงได้เข้าใจถึงสาเหตุในทันที จึงบอกกับคนไข้ว่า "จริง ๆ แล้วท่อนล่างของเธอไม่ได้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์แต่อย่างใด แต่เพราะแฟนของเธอทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับอาหาร จึงอาจมีประสาทสัมผัสด้านการรับรู้รสชาติและกลิ่นได้ดีกว่าคนปกติทั่วไป"

          ทั้งนี้ คุณหมอจางยังได้อธิบายเพิ่มเติมว่า เช่นเดียวกับการที่คนเข้าไปในโรงกล้วยไม้ หรือโรงเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อ ในตอนแรกก็จะได้กลิ่นแรง แต่เมื่ออยู่ไปนาน ๆ จมูกก็จะคุ้นเคยและไม่รู้สึกถึงกลิ่นของมัน ดังนั้นจึงแนะนำแบบติดตลกให้หญิงสาวไปบอกแฟนว่า ให้เขา "ทำความคุ้นเคย" กับตรงนั้นให้นานขึ้น เขาอาจจะไม่ได้กลิ่นอีกต่อไป นั่นทำให้หญิงสาวถึงกับหัวเราะออกมา

          เกี่ยวกับประเด็นนี้ ทางด้าน ดร. โหว หงจือ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลซินเจิ้งซิน เผยว่า จริง ๆ แล้วอวัยวะเพศย่อมมีกลิ่นเป็นเรื่องปกติ ซึ่งไม่ใช่กลิ่นที่ไม่ดี เนื่องจากในช่องคลอดจะมีทั้งแบคทีเรียชนิดที่ดีอย่าง แลคโตบาซิลัส (Lactobacillus) และชนิดที่ไม่ดี เช่น แอนแอโรบส์ (Anaerobes) แต่หากปริมาณแบคทีเรียภายในช่องคลอดเสียสมดุล ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบ จนทำให้เกิดกลิ่นคาวขึ้นได้ แนะนำให้ผู้หญิงดูแลสุขอนามัย รักษาความสะอาด รวมถึงระมัดระวังในการทำออรัลเซ็กส์ หรืออาจเสริมด้วยโปรไบโอติกบางชนิด ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพช่องคลอดและยังช่วยลดการอักเสบติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ


ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ ETtoday