ตั้งใจซื้อบ้านอยู่กับแฟน 2 คน แต่แฟนอยากให้พ่อ-น้อง มาอยู่ ชาวเน็ตยุให้เลิก ยิ่งคุยยิ่งแรง !

          กระทู้เดือด ตั้งใจซื้อบ้านอยู่กับแฟน 2 คน แต่แฟนอยากให้เครือญาติมาอยู่ด้วย ชาวเน็ตยุให้เลิก สุดท้ายเลิกจริง ๆ พร้อมประโยคสุดพีค ผู้ชายหวังพึ่งใบบุญฝ่ายหญิง


          วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 คุณ สมาชิกหมายเลข 7827080 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีการตั้งกระทู้ปรึกษาปัญหาหนักใจ หัวข้อว่า "ตั้งใจจะซื้อบ้านอยู่กับแฟนแค่ 2 คน แต่แฟนอยากให้น้องชาย พ่อและลูกติดของพ่อแฟนอีก 2 คนมาอยู่ด้วย"

          โดยเจ้าของกระทู้กำลังจะกู้ซื้อบ้านโดยใช้เครดิตตัวเอง เพื่ออยู่กับแฟนในอนาคต สร้างครอบครัวด้วยกัน อยู่ด้วยกัน 2 คน แต่ปัญหาคือ ทัศนคติของแฟนมีความคิดว่า อยากให้ครอบครัวมาอยู่ด้วย ทั้ง พ่อ แม่ น้อง ๆ เพื่อที่จะได้กินข้าวฝีมือเจ้าของกระทู้


          เจอแนวคิดแบบนี้เข้าไป เจ้าของกระทู้ก็ได้แต่นิ่ง คิดหาคำตอบที่จะถนอมน้ำใจแฟนให้มากที่สุด เพราะแนวคิดต่างกันโดยสิ้นเชิง เธออยากอยู่อย่างสงบและส่วนตัว สุดท้ายจึงตัดสินใจบอกว่า อยากให้มีแค่เรา 2 คนที่บ้านหลังนี้ ส่วนครอบครัวแต่ละฝ่าย ค่อยไปเยี่ยมเองหรือให้พ่อแม่มาเยี่ยมหรือค้างดีกว่า

          ยังมีอีกกรณีหนึ่งที่เธอกังวลใจคือ ลูกติดของพ่อแฟนอีก 2 คน ชอบเล่นเสียงดังแต่เช้าจนดึก เป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบ เมื่อบอกเหตุผล การคุยครั้งแรกจึงหยุดชะงัก

คุยครั้งที่ 2 ก็ยังไม่เคลียร์ ทัศนคติไม่เปลี่ยน พีค อยากพึ่งใบบุญแฟน

          ต่อมามีการคุยครั้งที่ 2 เกี่ยวกับเรื่องนี้ แฟนก็ยังยืนยันคำเดิม อยากเอาพ่อ น้อง หลาน มาอยู่ด้วย เธอจึงพูดว่า งั้นสร้างบ้านให้พ่อดีกว่าไหม แล้วค่อยไปเที่ยวเล่นกับพ่อ เราจะได้มีพื้นที่ส่วนตัวกัน 2 คน แต่แฟนกลับไม่เข้าใจ บอกว่า ไม่อยากให้พ่อลำบากไปเช่าบ้านอยู่ และเธอไม่เคยเข้าใจความรู้สึกเขา

          ดังนั้น เธอจึงถามกลับแฟนว่า ถ้าหากสร้างบ้านแล้วเธอเอาพ่อแม่มาอยู่ด้วย จะยินยอมไหม แฟนเธอตอบว่า "ได้" แต่ลึก ๆ ในใจเธอคิดว่า เขาคงไม่ยินดีและอึดอัดแน่นอน จากนั้นแฟนเธอก็ยอมรับว่า บ้านหลังนี้เป็นชื่อของเธอ ในเมื่อไม่สะดวกใจให้ครอบครัวอยู่ด้วย เขาจะทำอะไรได้

          ยิ่งคุยยิ่งบานปลาย จนแฟนพูดว่า "มีแฟน ก็หวังจะพึ่งใบบุญแฟน แต่จะทำไงได้ เดี๋ยวสร้างของกูเองก็ได้วะ ต่างคนต่างซื้อ ต่างคนต่างอยู่" เธอฟังแบบนี้ก็เสียความรู้สึก บอกว่า เหตุผลแบบนี้ถึงอยากสร้างบ้านให้ครอบครัวสักหลัง ส่วนบ้านหลังที่จะสร้างก็มีแค่ 2 คน แต่ฝ่ายชายก็ยังไม่เข้าใจ ตอบมาอีกว่า "ช่างเถอะ จะไม่คุยเรื่องนี้อีกแล้ว ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างซื้อ เดี๋ยวกูหาทางของกูเอง ดิ้นรนของกูเอง"

ชาวเน็ตยุให้เลิกสถานเดียว

          ด้านความเห็นชาวเน็ต ต่างโพสต์มาแนวเดียวกันว่า ทัศนคติไม่ตรงกันแบบนี้ต้องเลิกอย่างเดียว ถ้ายังคบกันต่อคือเสียเวลาชีวิต อีกทั้งผู้ชายคนนี้ไม่สามารถฝากผีฝากไข้ได้ ยังมีการทำร้ายจิตใจกัน ตอนนี้ต้องรักตัวเองแล้ว ถ้ายังคบอยู่ก็เหมือนพายเรือรั่ว ต้องคอยวิดน้ำออกตลอดเวลา ห้ามเมื่อย ห้ามขี้เกียจวิดน้ำ มิเช่นนั้นเรือจม

          จุดสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่แย่มากคือ มีแฟนก็อยากจะพึ่งแฟน นี่ไม่ใช่ความคิดผู้นำครอบครัวที่ดี และอย่าเพิ่งตัดสินใจซื้อบ้านเด็ดขาด ถ้าหากหาจุดตรงกลางไม่ได้

คุยอีกกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิม แถมยิ่งแรงขึ้น จนถึงประโยคแตกหัก

          แม้ชาวเน็ตจะมีความคิดเห็นทำนองนี้ ก็ยังคงมีการปรึกษาพูดคุยในครั้งอื่น ๆ อีก ฝ่ายชายยังมีการยกเหตุผลบางอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่า การนำครอบครัวมาอยู่ด้วยไม่ใช่ปัญหา เช่น พ่อไม่ได้เป็นคนหัวโบราณ เป็นคนทำงานบ้าน เธอจึงถามกลับว่า แล้ววันเสาร์อาทิตย์ถ้าอยากนอนตื่นสายสบาย ๆ แล้วน้อง ๆ หลาน ๆ ทำเสียงดังหรือพาใครมาบ้านในวันหยุด จะทำยังไง เรื่องนี้ ฝ่ายชายตอบว่า เดี๋ยวจัดการเอง แต่ในมุมของเธอคือ เป็นคำตอบที่ปัดความรับผิดชอบ ให้เรื่องเกิดแล้วค่อยจัดการ ทางที่ดีที่สุดคือ ไม่พาใครเข้ามาเลย

          ทัศนคติที่ไม่ตรงกัน ทำให้ความสัมพันธ์ร้าวฉาน บรรยากาศค่อนข้างตึง ไม่มีการพูดคุยกัน เพราะอีกฝ่ายต่างไม่พอใจในแนวคิด เวลานอนก็นอนหันหลังใส่กัน พอเธอถามตรง ๆ ว่า จะเป็นแบบนี้อีกนานไหม แฟนเธอก็ตอบว่า ก็ไม่ได้เป็นอะไร ก็เลื่อนดูอะไรไปเรื่อย ๆ

          ผ่านไป 3-4 วัน บรรยากาศก็ยังคงตึงเช่นเดิม จนเธอทนไม่ไหวเอาความเห็นที่ปรึกษาในพันทิปไปเล่า แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่า เขาใช้ชีวิตกับคนที่อคติครอบครัวเขาไม่ได้จริง ๆ ยังไม่ทันรู้นิสัยใจคออะไร ก็อคติไปก่อน แต่ในมุมของเธอก็ได้ยินเรื่องไม่ดีของครอบครัวอีกฝ่ายมากมาย เช่น น้องชายเป็นหนี้สิน พ่อก็ถูกหลอกให้ลงทุนและมีลูกติด

          ความพยายามเฮือกสุดท้าย เธอเสนอว่า ลองเช่าบ้านดูก่อนไหมว่าอยู่ด้วยกันได้ทั้งหมดจริง ๆ แต่ฝ่ายชายก็ปฏิเสธ อ้างว่า เธอมีความเห็นอคติ ยังไงก็ไม่รอด และการพูดคุยก็ยังคงไม่มีข้อสรุปต่อไป จนแฟนเธอพูดว่า "บอกครอบครัวกูด้วยความอคติ ไม่เห็นใจครอบครัวกูเลย เดี๋ยวจะไปจากที่นี่ ไปสร้างไปหาอะไรของกูเอง อดทนเอาอีกหน่อย มีแฟนก็กะว่าจะสร้างด้วยกัน แต่ในเมื่อมันเป็นงี้ก็ตามนั้น"

          ได้ยินแบบนี้เธอก็จุก แต่ก็ยื่นข้อเสนอไปว่า สร้างบ้านให้ครอบครัวก็ได้ แต่แฟนก็ตอบกลับมาว่า จะเป็นหนี้ 2 ทางทำไม ในเมื่ออยู่ร่วมกันได้ เป็นหนี้ก้อนเดียวไม่ดีกว่าหรือ ? เธอยืนยันว่า ไม่สะดวกใจที่จะอยู่แบบนี้จริง ๆ

          "งั้นก็แยกย้าย เดี๋ยวกูไปของกูเอง" แฟนเธอกล่าวมาแบบนี้ แล้วก็มีย้ำด้วยว่า "ยังคิดได้อยู่เหรอว่ากูเป็นแฟน" จากนั้นทั้งคู่ก็ยังมีการถกเถียงกัน จนแฟนกล่าวประโยคสุดท้ายว่า "งั้นก็เลิก แยกย้าย ตามนั้น จะไปอยู่ไป ทำอะไร หรือจะกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่อะไรก็ตามแต่"

          และความสัมพันธ์ของคู่นี้ก็จบลง ทั้งที่ไม่อยากเริ่มหาใครคนใหม่ แค่คิดว่าแฟนจะปรับตัวได้ ปรับทัศนคติเข้ากันได้ แต่ความจริงมันไม่ใช่ เพราะเขาบอกว่า "กูเปลี่ยนไม่ได้หรอก กูก็เป็นของกูแบบนี้แหละ"

          ด้านชาวเน็ตก็อวยพรขอให้เจ้าของกระทู้โชคดี และหวังว่าผู้ชายคนนี้จะไปจริง ๆ ไม่มาตามรังควาญชีวิตของเธออีก เรื่องนี้ไปไกลถึงโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่น ๆ เช่น ทวิตเตอร์ มีแคปชั่นว่า "เค้าเลิกกันแล้วววว คุ้มละอินเทอร์เนตวันนี้"