สำรวจไซต์ก่อสร้าง จุดหมายรถบรรทุกทำถนนถล่ม ล่าสุดเงียบผิดปกติ ขับเข้า-ออก ไร้สติ๊กเกอร์ดาว B เขียว ด้าน กทม. ฮึ่มตั้งจุดจับกลางดึก 2 คัน
อ่านข่าว : ส่อคดีพลิก รถตกหลุมอาจน้ำหนักเกิน โป๊ะแตกถอดป้ายทะเบียน - สติ๊กเกอร์ส่วย - เทดินคืนที่เดิม
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 เรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า วานนี้ (9 พฤศจิกายน) จากการสำรวจพื้นที่บริเวณไซต์งานก่อสร้างของรถบรรทุกที่ตกถนนสุขุมวิท ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงมองว่า มีความผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด เพราะที่ผ่านมา ช่วงเวลา 11.00 น. จะเห็นรถบรรทุกเข้า-ออก หลายคัน และต้องมีรถมาจอดเพื่อต่อคิวเข้าไซต์งาน แต่ล่าสุดกลับไม่มีรถบรรทุกมาจอดเลย อีกทั้งตั้งแต่ช่วงเช้าเห็นรถบรรทุกบางตามาก
ชาวบ้านยังบอกอีกว่า ไซต์งานดังกล่าว สร้างมาหลายปีแล้ว และที่ผ่านมาเห็นรถบรรทุกวิ่งเข้า-ออกทั้งวัน ตั้งแต่ช่วงเช้า 7-8 โมง และช่วงเย็นที่กฎหมายห้าม ก็ยังเห็นวิ่งขนดินขนปูนกันปกติ ในแต่ละวันมีรถวิ่งไม่ต่ำกว่า 50 คัน วิ่งโดยไม่สนเวลากันเลย ส่วนสติ๊กเกอร์ที่ติดหน้ารถบรรทุกตนไม่เคยสังเกตเลย จนกระทั่งออกข่าว
เมื่อสำรวจรถบรรทุกที่วิ่งเข้า-ออกไซต์งาน พบว่ารถวิ่งไม่เยอะ และจากที่สังเกตรถบรรทุก ไม่มีสติ๊กเกอร์ตัวบี รูปดาวสีเขียวแล้ว มีเพียงอักษร STP 2023 ซึ่งคาดว่าจะเป็นอักษรย่อของบริษัท
นายธราพงษ์ เพ็ชร์คง ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตพระโขนง ลงพื้นที่ไซต์งานก่อสร้าง ภายในซอยสุขุมวิท 64/2 พบว่าดินภายในโครงการฯ มีดินเหลือไม่เยอะแล้ว เพราะเป็นช่วงท้ายของการก่อสร้างโครงสร้างแล้ว เมื่อถามว่าที่ผ่านมาทางเขตมีการตรวจสอบบ้างหรือไม่ นายธราพงษ์ ยืนยันว่า มีการตรวจสอบอยู่แล้ว
ด้านนายเฉลิมพล พรมทอง ผู้จัดการโครงการฯ กล่าวว่า หลังจากนี้จะยังมีการขนดินออกไปอยู่บ้าง แต่ไม่เยอะเท่ากับช่วงแรกแล้ว จากนี้หากมีการขนดินอีก ก็จะต้องมีการตรวจชั่งน้ำหนักให้เข้มงวดรัดกุมและชัดเจนมากขึ้น
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ต่อมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าตรวจสอบรถบรรทุกดินทั้ง 2 คัน พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า หลังเกิดเหตุรถบรรทุกดินน้ำหนักเกิน ทำให้พื้นถนนทรุดตัวที่ถนนสุขุมวิท ทางกรุงเทพฯ ได้ร่วมกับกรมทางหลวง สนธิกำลังการเพื่อตรวจสอบสกัดจับกุมรถที่บรรทุกน้ำหนักเกิน โดยกรณีนี้เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง มาตรา 61 ข้อหา บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีโทษปรับ 1,000 บาท โดยยึดรถไว้ก่อน
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ จับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกิน เป็นการทำงานแบบไร้รอยต่อ ร่วมกันกับทางกรมทางหลวง และตำรวจพร้อมที่จะรับดำเนินคดี จากนี้จะต้องดูแลในเรื่องความปลอดภัยจากการบรรทุกน้ำหนักเกิน รวมถึงฝุ่น PM2.5 ตนสงสารคนขับที่หาเช้ากินค่ำเขามีเพียงหน้าที่ขับรถเท่านั้น ต้องฝากถึงเจ้าของรถด้วยว่า มันเป็นบาปกรรม ที่ความผิดมาลงอยู่ที่คนขับ ทั้งที่เป็นเพียงคนรับจ้าง ต่อไปจะต้องมีการเพิ่มโทษเพื่อดำเนินคดีกับทางเจ้าของรถด้วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, ข่าวช่อง 3