หนุ่มหวังดี เห็นรุ่นพี่ที่ทำงานยุ่ง ซื้อข้าวกลางวันติดมาให้ จน 2 วันผ่านไป ไม่เห็นให้เงิน พอไปทวงถามดี ๆ โดนด่าว่ายากจนซะงั้น
แน่นอนว่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลหรือความจำเป็นใด ๆ หากได้รับน้ำใจจากคนอื่นแล้ว
ก็ควรที่จะรีบชดใช้คืนให้เร็วที่สุด ทว่าในความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม
เพราะส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นฝ่ายให้นั้น
ดันเป็นฝ่ายที่ต้องรู้สึกเดือดร้อนรำคาญใจเสียเอง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ เผยเรื่องราวสุดอัดอั้นของชายรายหนึ่ง (ไม่เปิดเผยชื่อ) ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้มาโพสต์ระบายผ่านทางกลุ่มเฟซบุ๊ก เผยว่า ปกติแล้วที่ทำงานของเขามักจะไปกินอาหารกลางวันกันแบบกลุ่ม จนเมื่อไม่นานมานี้ มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ของเขาคนหนึ่ง ไม่ได้ออกไปกินด้วย เนื่องจากมีงานสำคัญที่ต้องเคลียร์จำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มรายนี้ก็ได้แสดงน้ำใจ เขาสั่งเซตข้าวกล่องมาให้เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ที่ยุ่งมาก 1 ชุด ในราคาประมาณ 13 ริงกิตมาเลเซีย (ราว 98 บาท) โดยหลังจากที่เขากลับเข้ามาในที่ทำงาน เขาก็วางข้าวกล่องให้เพื่อนรุ่นพี่ที่ข้างโต๊ะ โดยที่ไม่ได้คิดเงินกับรุ่นพี่ในทันทีขณะนั้น เพราะเห็นว่ารุ่นพี่กำลังปั่นงาน และคิดว่าหากมีเวลาว่างแล้ว ก็จะจ่ายเงินค่าข้าวคืนให้
แต่ปรากฏว่าหลังจากผ่านไป 2 วัน รุ่นพี่คนนี้ก็ไม่ได้คืนเงินให้เขาหรือพูดถึงเรื่องนั้นแต่อย่างใด ชายหนุ่มจึงเข้าใจว่ารุ่นพี่อาจจะลืมไปแล้ว จึงได้เข้าไปทวงถามอย่างสุภาพว่า "ผมเกรงว่าคุณจะลืมเรื่องเงินค่าข้าวไป เลยมาบอกให้คุณรู้" ทว่าน้ำใจของเขาดูท่าจะสูญเปล่า นอกจากรุ่นพี่ของเขาจะไม่รู้สึกขอบคุณ แต่ยังแสดงความไม่พอใจและทำเหมือนกับว่าไม่เคยติดหนี้ใคร
"มันแค่ 13 ริงกิต คุณยากจนขนาดนั้นเลยเหรอ ? คุณไม่คิดว่ามันคือการเลี้ยงข้าวเหรอ ?" รุ่นพี่ กล่าว
ชายหนุ่มรู้สึกไม่พอใจกับคำตอบของรุ่นพี่อย่างมาก จนเกือบจะโต้กลับด้วยอารมณ์ แต่โชคดีที่ตอนนั้นมีเพื่อนร่วมงานอีกคนอยู่ด้วย ซึ่งรับรู้ได้ว่าเขากำลังถูกเอาเปรียบ จึงเข้ามาช่วยพูดก่อนที่สถานการณ์จะบานปลาย โดยกล่าวว่า "อย่าโง่ไปหน่อยเลยคุณ ทำไมเขาจะต้องเลี้ยงข้าวคุณด้วย ต่อให้เขามีเงินก็เถอะ คุณควรจะคืนเงินเขานะ แค่ 13 ริงกิตนั่น"
ในที่สุด เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่คนนั้นจึงคืนเงินให้เขา โดยสแกนจ่ายผ่านทางคิวอาร์โค้ด ด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่นัก
หลังจากนั้นไม่นาน เรื่องราวนี้ก็กลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ได้รับความสนใจ และตกเป็นประเด็นถกเถียงอย่างดุเดือด หลายคนเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นตำหนิการกระทำของรุ่นพี่รายนี้ กล่าวว่า "แค่ 13 ริงกิตเองไม่ใช่เหรอ ก็คืนเขาไปสิ ทำไมไม่คืนล่ะ คุณยากจนขนาดนั้นเลยเหรอ ?" และ "คนแบบนี้ใจดำเกินไป ไม่สมควรได้รับน้ำใจจากคนอื่นเลยด้วยซ้ำ"
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายมองว่า รุ่นพี่คนนั้นไม่ได้ขอให้เขาซื้อข้าวมาให้ แต่เป็นเขาที่ซื้อมาให้เอง จะโทษรุ่นพี่ฝ่ายเดียวก็อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด…
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก World of Buzz