กัน จอมพลัง ไล่บี้แก๊งขอทานจีน เชื่อเป็นขบวนการ อึ้งแต่ละคนมีแผลไฟคลอก มือกุด เชื่อมีคนดูต้นทาง โดนจับก็มีคนช่วยเคลียร์ ล่าสุดเรื่องถึงดีเอสไอแล้ว
จากกรณี กัน จอมพลัง พร้อมตำรวจและเจ้าหน้าที่ พม. เข้าจับกุมแก๊งขอทานชาวจีนสวมใส่ชุดนักศึกษาไทย นั่งขอทานหน้าห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้า พบมีรายได้วันละ 10,000 บาท หลังถูกจับกุมมีล่ามคนจีนนั่งรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด มาที่ สน. นำพาสปอร์ตของขอทานชาวจีนมาแสดง และขอเคลียร์กับตำรวจ บอกที่ผ่านมาเวลาถูกจับจ่ายเงินให้ตำรวจ 10,000 บาท ก็ได้รับการปล่อยตัว ซึ่งพบว่าขอทานเหล่านี้หลังถูกจับจะขอเดินทางกลับประเทศ ทำให้ไม่ถูกแบล็กลิสต์ โดยมีข้อมูลว่าแก๊งขอทานชาวจีนเหล่านี้ผ่านเข้า-ออกไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีตราประทับที่ด่านไทย-มาเลเซีย
อ่านข่าว : จับโป๊ะแก๊งขอทานจีน ได้เงินวันละหมื่น 1 เดือน 2 ล้าน แฉทริกเข้าไทยได้แม้ถูกจับ
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า กัน จอมพลัง ได้รับเบาะแสเพิ่มเติมอีกว่าพบขอทานชาวจีนอย่างน้อยอีก 1 คน นั่งขอทานอยู่บริเวณบีทีเอสอโศกและนานา อยู่จุดละ 6 ชั่วโมง แล้วเปลี่ยนจุด ทำแบบนี้ทุกวัน หลังจากลงพื้นที่พบว่า ขอทานหญิงจีน 1 คน หลบหนีไปได้ และพบขอทานชายชาวจีนอีก 1 คน ตำรวจ สน.ลุมพินี จึงคุมตัวมาสอบปากคำ
กัน จอมพลัง ระบุว่า สำหรับขบวนการขอทานจีน ตัวเองมีลิสต์ข้อมูลขอทานรวม 7 คน ตำรวจสามารถจับไปดำเนินคดีได้แล้วเมื่อวานนี้ 3 คน เหลือที่ต้องตามตัวอีก 4 คน ส่วนขอทานชายที่ตำรวจ สน.ลุมพินี คุมตัวได้วันนี้ ไม่ได้มีข้อมูลมาก่อน แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าคือขบวนการเดียวกัน เพราะนั่งขอทานอยู่จุดเดียวกับที่ได้เบาะแส
ทั้งนี้ พบว่าในช่วงแรกที่ตำรวจเข้าจับกุม ขอทานมีพฤติกรรมหลบหนี จึงเชื่อว่ามีคนคอยช่วยดูต้นทางให้ จากนั้นเมื่อขอดูพาสปอร์ต ชาวจีนคนนี้บอกว่าเอกสารเดินทางหาย แต่พอค้นตัวกลับเจอพาสปอร์ตที่ไม่มีตราประทับเข้าประเทศไทย ระหว่างนี้ตำรวจกำลังขยายผลต่อว่าเป็นขอทานกลุ่มเดียวกันหรือไม่ พร้อมฝากถึงคนที่รับเคลียร์ให้ชาวจีนกลุ่มนี้ให้คิดดี ๆ เพราะอาจจะถูกดำเนินคดีไปด้วย
ต่อมาเวลา 13.25 น. กัน จอมพลัง และตำรวจ
สน.ทุ่งมหาเมฆ เดินทางมาที่บีทีเอสศาลาแดง หลังได้รับรายงานว่า
มีหญิงสาวใส่ชุดคล้ายนักศึกษา มีใบหน้าผิดรูป
ยืนขอทานที่บริเวณทางเข้าบีทีเอสศาลาแดง แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงจุดเกิดเหตุกลับไม่พบหญิงสาวที่เป็นเป้าหมาย
จึงเชื่อว่าขบวนการนี้ต้องมีทีมงานที่คอยมาดูต้นทางก่อนแล้วถึงพากันออกจากพื้นที่ได้ทัน
นอกจากนี้ยังพบว่ามีชายไทยคนหนึ่งมาเดินวนเวียนอยู่ในที่เกิดเหตุ
มักจะถ่ายภาพและคลิปส่งไปหาปลายทางซึ่งไม่รู้ว่าใคร
ภายหลังจากที่ชายคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจค้นก็ได้หายออกไปจากพื้นที่
ช่วงเย็นวันดังกล่าว กัน จอมพลัง ลงพื้นที่บริเวณริมถนนสีลม หลังได้เบาะแสว่าพบชายมีลักษณะบาดแผลที่ใบหน้า และแขนกุดทั้ง 2 ข้าง นั่งขอทานอยู่บริเวณริมทางเท้า ซึ่งระหว่างนั้นขอทานคนดังกล่าวใช้เท้าลักษณะเหมือนกดโทรศัพท์ เมื่อตำรวจเข้าตรวจสอบ ชายรายนี้ลุกขึ้นสวมเสื้อและพยายามจะลุกหนีไป ก่อนที่จะพูดเป็นภาษาจีน ใจความว่า ชื่อเฉาหลง อายุ 30 กว่าปี มาเที่ยวเมืองไทยแต่เงินหาย จึงมานั่งขอทานเพื่อขอเงินกลับบ้าน จะเดินทางกลับวันพรุ่งนี้แล้ว
เมื่อตำรวจขอดูหนังสือเดินทาง เจ้าตัวบอกว่าไม่มี แต่ได้ถ่ายเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือ และอ้างว่าโทรศัพท์เสียจึงไม่สามารถเปิดได้ ตำรวจจึงเชิญตัวไปโรงพัก แต่เจ้าตัวปฏิเสธโดยอ้างว่ากลัวโดนปรับ เพราะเคยโดนปรับมาแล้ว โดยอ้างด้วยว่า ตนมีเพื่อนเป็นคนไทยที่ทำธุรกิจ และมีเพื่อนชาวจีนที่แนะนำให้ตนมานั่งขอทานบริเวณนี้ ทำมาได้ 3 วัน ปกติจะอาศัยอยู่ในย่านเยาวราช ส่วนบาดแผลตามร่างกายเกิดจากการที่ประสบอุบัติเหตุขณะเป็นทหารตอนอยู่ต่างประเทศ
ด้าน นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ประสานดีเอสไอให้เร่งสืบสวนว่ากระบวนการเข้ามาถูกกฎหมายหรือไม่ จะเป็นกลุ่มจีนเทาที่เข้ามาหรือไม่ เพราะการทำแบบนี้เสียหายกับไทย เชื่อว่าขบวนการนี้รู้ข้อกฎหมายว่ากระทำผิดก็แค่ส่งตัวกลับ จะให้มีการคุมตัวก่อนเพื่อนำไปตรวจสอบวีซ่า พาสปอร์ต เนื่องจากไม่พบว่าเป็นนักท่องเที่ยวและไม่พบพาสปอร์ตติดตัว และต้องขยายผล
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
จากกรณี กัน จอมพลัง พร้อมตำรวจและเจ้าหน้าที่ พม. เข้าจับกุมแก๊งขอทานชาวจีนสวมใส่ชุดนักศึกษาไทย นั่งขอทานหน้าห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้า พบมีรายได้วันละ 10,000 บาท หลังถูกจับกุมมีล่ามคนจีนนั่งรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด มาที่ สน. นำพาสปอร์ตของขอทานชาวจีนมาแสดง และขอเคลียร์กับตำรวจ บอกที่ผ่านมาเวลาถูกจับจ่ายเงินให้ตำรวจ 10,000 บาท ก็ได้รับการปล่อยตัว ซึ่งพบว่าขอทานเหล่านี้หลังถูกจับจะขอเดินทางกลับประเทศ ทำให้ไม่ถูกแบล็กลิสต์ โดยมีข้อมูลว่าแก๊งขอทานชาวจีนเหล่านี้ผ่านเข้า-ออกไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีตราประทับที่ด่านไทย-มาเลเซีย
อ่านข่าว : จับโป๊ะแก๊งขอทานจีน ได้เงินวันละหมื่น 1 เดือน 2 ล้าน แฉทริกเข้าไทยได้แม้ถูกจับ
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า กัน จอมพลัง ได้รับเบาะแสเพิ่มเติมอีกว่าพบขอทานชาวจีนอย่างน้อยอีก 1 คน นั่งขอทานอยู่บริเวณบีทีเอสอโศกและนานา อยู่จุดละ 6 ชั่วโมง แล้วเปลี่ยนจุด ทำแบบนี้ทุกวัน หลังจากลงพื้นที่พบว่า ขอทานหญิงจีน 1 คน หลบหนีไปได้ และพบขอทานชายชาวจีนอีก 1 คน ตำรวจ สน.ลุมพินี จึงคุมตัวมาสอบปากคำ
กัน จอมพลัง ระบุว่า สำหรับขบวนการขอทานจีน ตัวเองมีลิสต์ข้อมูลขอทานรวม 7 คน ตำรวจสามารถจับไปดำเนินคดีได้แล้วเมื่อวานนี้ 3 คน เหลือที่ต้องตามตัวอีก 4 คน ส่วนขอทานชายที่ตำรวจ สน.ลุมพินี คุมตัวได้วันนี้ ไม่ได้มีข้อมูลมาก่อน แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าคือขบวนการเดียวกัน เพราะนั่งขอทานอยู่จุดเดียวกับที่ได้เบาะแส
ทั้งนี้ พบว่าในช่วงแรกที่ตำรวจเข้าจับกุม ขอทานมีพฤติกรรมหลบหนี จึงเชื่อว่ามีคนคอยช่วยดูต้นทางให้ จากนั้นเมื่อขอดูพาสปอร์ต ชาวจีนคนนี้บอกว่าเอกสารเดินทางหาย แต่พอค้นตัวกลับเจอพาสปอร์ตที่ไม่มีตราประทับเข้าประเทศไทย ระหว่างนี้ตำรวจกำลังขยายผลต่อว่าเป็นขอทานกลุ่มเดียวกันหรือไม่ พร้อมฝากถึงคนที่รับเคลียร์ให้ชาวจีนกลุ่มนี้ให้คิดดี ๆ เพราะอาจจะถูกดำเนินคดีไปด้วย
ช่วงเย็นวันดังกล่าว กัน จอมพลัง ลงพื้นที่บริเวณริมถนนสีลม หลังได้เบาะแสว่าพบชายมีลักษณะบาดแผลที่ใบหน้า และแขนกุดทั้ง 2 ข้าง นั่งขอทานอยู่บริเวณริมทางเท้า ซึ่งระหว่างนั้นขอทานคนดังกล่าวใช้เท้าลักษณะเหมือนกดโทรศัพท์ เมื่อตำรวจเข้าตรวจสอบ ชายรายนี้ลุกขึ้นสวมเสื้อและพยายามจะลุกหนีไป ก่อนที่จะพูดเป็นภาษาจีน ใจความว่า ชื่อเฉาหลง อายุ 30 กว่าปี มาเที่ยวเมืองไทยแต่เงินหาย จึงมานั่งขอทานเพื่อขอเงินกลับบ้าน จะเดินทางกลับวันพรุ่งนี้แล้ว
เมื่อตำรวจขอดูหนังสือเดินทาง เจ้าตัวบอกว่าไม่มี แต่ได้ถ่ายเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือ และอ้างว่าโทรศัพท์เสียจึงไม่สามารถเปิดได้ ตำรวจจึงเชิญตัวไปโรงพัก แต่เจ้าตัวปฏิเสธโดยอ้างว่ากลัวโดนปรับ เพราะเคยโดนปรับมาแล้ว โดยอ้างด้วยว่า ตนมีเพื่อนเป็นคนไทยที่ทำธุรกิจ และมีเพื่อนชาวจีนที่แนะนำให้ตนมานั่งขอทานบริเวณนี้ ทำมาได้ 3 วัน ปกติจะอาศัยอยู่ในย่านเยาวราช ส่วนบาดแผลตามร่างกายเกิดจากการที่ประสบอุบัติเหตุขณะเป็นทหารตอนอยู่ต่างประเทศ
ด้าน นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ประสานดีเอสไอให้เร่งสืบสวนว่ากระบวนการเข้ามาถูกกฎหมายหรือไม่ จะเป็นกลุ่มจีนเทาที่เข้ามาหรือไม่ เพราะการทำแบบนี้เสียหายกับไทย เชื่อว่าขบวนการนี้รู้ข้อกฎหมายว่ากระทำผิดก็แค่ส่งตัวกลับ จะให้มีการคุมตัวก่อนเพื่อนำไปตรวจสอบวีซ่า พาสปอร์ต เนื่องจากไม่พบว่าเป็นนักท่องเที่ยวและไม่พบพาสปอร์ตติดตัว และต้องขยายผล
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3