ผัวโหดเปิดปมฆ่าโบกปูน อบต. สาว โมโหมีใจให้ชายอื่น - พูดดูถูก ชี้จุดนำของไปทิ้งอำพรางคดี รับวางแผนใช้จดหมายปลอมลวงตำรวจ
ภาพจาก ช่อง 3
จากคดีที่ น.ส.กวินณา บุณเมศวร์ หรือ ฝน อายุ 38 ปี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ ถูกอดีตสามีก่อเหตุฆ่าโบกปูน โดยเพิ่งมีการพบร่างที่สงสัยว่าจะเป็นของ น.ส.กวินณา ขณะที่ นายประสิทธิพร พัฒน์มาก อายุ 39 ปี ผู้ก่อเหตุได้เปิดปากรับสารภาพแล้ว
อ่านข่าว : พบร่าง อบต. สาว หายตัว 12 วัน อดีตผัวจนมุมยอมสารภาพ ฆ่าโบกปูนอำพราง
ล่าสุด (26 พฤศจิกายน 2566) ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ขุนทะเล และ สภ.บ้านนาสาร ได้นำตัวนายประสิทธิพรไปชี้จุดต่าง ๆ ที่ก่อเหตุฆ่าอดีตภรรยา โดยจุดแรกคือ ร้านขายวัสดุก่อสร้างบริเวณถนนสุราษฎร์นาสาร ปากทางซอยขุนทะเล 10 ต่อมาคือจุดที่ทิ้งที่นอน บริเวณร้านรับซื้อของเก่าก่อนเข้าเมืองนาสาร และจุดที่ 3 คือสะพานกรอบแกรบข้ามคลองฉวาง ซึ่งเป็นจุดที่ทิ้งโทรศัพท์ของผู้ตาย
จากการสอบปากคำ นายประสิทธิพร ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 20.00 น. ตนกับอดีตภรรยามีปากเสียงกันในเรื่องความหึงหวง เนื่องจากทราบว่าที่ผ่านมาภรรยาได้ปันใจให้กับชายอื่น และตนยังถูกภรรยาใช้ถ้อยคำดูถูกเหยียดหยาม จนไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ จึงเข้าไปผลักผู้ตายจนล้มบนที่นอน และตามเข้าไปบีบคอจนแน่นิ่งไป
เมื่อเห็นว่าภรรยาเสียชีวิตจึงหาทางเคลื่อนย้ายศพเพื่อปกปิดความผิด โดยในเวลา 21.00 น. ได้นำศพของผู้ตายขึ้นรถกระบะ โดยวางศพที่เบาะนั่งคู่คนขับ แล้วขับรถมุ่งเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี จากนั้นไปตามถนนสาย 417 มุ่งหน้าเข้าถนนสาย 41 แล้วขับล่องใต้ไปจนถึง อ.เวียงสระ แต่ยังไม่สบโอกาสในการทิ้งศพ จึงย้อนกลับมายังถนนสายนาสาร-สุราษฎร์ธานี อีกครั้ง ก่อนตัดสินใจใช้ทางลัดมุ่งหน้าเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จนพบจุดทิ้งศพ
โดยตนได้นำร่างผู้ตายไปวางไว้ใกล้ท่อระบายน้ำในเวลา 02.00 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน จากนั้นในตอนเช้าก็ได้นำที่นอนไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าในเขตเทศบาลนาสาร แต่ร้านปิด จึงทิ้งที่นอนไว้หน้าร้าน
จากนั้นเมื่อมีคนทราบว่าภรรยาหายไป
และมีคนมาตามหาที่บ้าน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านนาสาร
ในช่วงเที่ยงวันที่ 15 พฤศจิกายน
โดยเมื่อแจ้งความเสร็จก็ย้อนกลับมาดูจุดที่ทิ้งศพ
หลังจากนั้นก็ไปซื้อปูนและทรายมาโบกศพในวันที่ 16 พฤศจิกายน ระหว่างทางกลับบ้านก็ได้นำทรัพย์สินส่วนตัวของภรรยา เช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ ไปทิ้งตามจุดต่าง ๆ
นายประสิทธิพร ยอมรับว่าหลังเข้าแจ้งความคนหาย และพบว่าตำรวจยังไม่มีเบาะแส จึงพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตำรวจ โดยขอร้องให้เพื่อนที่อยู่ จ.สมุทรปราการ เขียนจดหมาย เพื่อปลอมเป็นจดหมายของภรรยาที่ส่งถึงเพื่อนใน อ.หาดใหญ่ ลักษณะเหมือนภรรยาออกจากบ้านไปเอง
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ พ่อของนายประสิทธิพร เผยว่า ตนไม่ทราบถึงความขัดแย้งของลูกชายกับอดีตสะใภ้ เพราะเช้าก็ออกไปทำงาน แล้วกลับบ้านช่วงเย็น ขณะที่ผู้ตายมักออกจากบ้านหลังตน และกลับถึงบ้านอีกทีช่วง 19.00 - 20.00 น. จึงไม่ค่อยได้พบหรือพูดคุยกัน ส่วนเรื่องการทำพิธีบำเพ็ญกุศล ตนได้เตรียมการไว้แล้ว แต่ญาติของฝั่งผู้ตายจะนำกลับไปที่หาดใหญ่ ซึ่งก็ต้องให้เป็นเรื่องของเขา เพราะเป็นลูกสาวเขา
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3
ภาพจาก ช่อง 3
จากคดีที่ น.ส.กวินณา บุณเมศวร์ หรือ ฝน อายุ 38 ปี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ ถูกอดีตสามีก่อเหตุฆ่าโบกปูน โดยเพิ่งมีการพบร่างที่สงสัยว่าจะเป็นของ น.ส.กวินณา ขณะที่ นายประสิทธิพร พัฒน์มาก อายุ 39 ปี ผู้ก่อเหตุได้เปิดปากรับสารภาพแล้ว
อ่านข่าว : พบร่าง อบต. สาว หายตัว 12 วัน อดีตผัวจนมุมยอมสารภาพ ฆ่าโบกปูนอำพราง
ล่าสุด (26 พฤศจิกายน 2566) ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ขุนทะเล และ สภ.บ้านนาสาร ได้นำตัวนายประสิทธิพรไปชี้จุดต่าง ๆ ที่ก่อเหตุฆ่าอดีตภรรยา โดยจุดแรกคือ ร้านขายวัสดุก่อสร้างบริเวณถนนสุราษฎร์นาสาร ปากทางซอยขุนทะเล 10 ต่อมาคือจุดที่ทิ้งที่นอน บริเวณร้านรับซื้อของเก่าก่อนเข้าเมืองนาสาร และจุดที่ 3 คือสะพานกรอบแกรบข้ามคลองฉวาง ซึ่งเป็นจุดที่ทิ้งโทรศัพท์ของผู้ตาย
จากการสอบปากคำ นายประสิทธิพร ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 20.00 น. ตนกับอดีตภรรยามีปากเสียงกันในเรื่องความหึงหวง เนื่องจากทราบว่าที่ผ่านมาภรรยาได้ปันใจให้กับชายอื่น และตนยังถูกภรรยาใช้ถ้อยคำดูถูกเหยียดหยาม จนไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ จึงเข้าไปผลักผู้ตายจนล้มบนที่นอน และตามเข้าไปบีบคอจนแน่นิ่งไป
เมื่อเห็นว่าภรรยาเสียชีวิตจึงหาทางเคลื่อนย้ายศพเพื่อปกปิดความผิด โดยในเวลา 21.00 น. ได้นำศพของผู้ตายขึ้นรถกระบะ โดยวางศพที่เบาะนั่งคู่คนขับ แล้วขับรถมุ่งเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี จากนั้นไปตามถนนสาย 417 มุ่งหน้าเข้าถนนสาย 41 แล้วขับล่องใต้ไปจนถึง อ.เวียงสระ แต่ยังไม่สบโอกาสในการทิ้งศพ จึงย้อนกลับมายังถนนสายนาสาร-สุราษฎร์ธานี อีกครั้ง ก่อนตัดสินใจใช้ทางลัดมุ่งหน้าเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จนพบจุดทิ้งศพ
โดยตนได้นำร่างผู้ตายไปวางไว้ใกล้ท่อระบายน้ำในเวลา 02.00 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน จากนั้นในตอนเช้าก็ได้นำที่นอนไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าในเขตเทศบาลนาสาร แต่ร้านปิด จึงทิ้งที่นอนไว้หน้าร้าน
หลังจากนั้นก็ไปซื้อปูนและทรายมาโบกศพในวันที่ 16 พฤศจิกายน ระหว่างทางกลับบ้านก็ได้นำทรัพย์สินส่วนตัวของภรรยา เช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ ไปทิ้งตามจุดต่าง ๆ
นายประสิทธิพร ยอมรับว่าหลังเข้าแจ้งความคนหาย และพบว่าตำรวจยังไม่มีเบาะแส จึงพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตำรวจ โดยขอร้องให้เพื่อนที่อยู่ จ.สมุทรปราการ เขียนจดหมาย เพื่อปลอมเป็นจดหมายของภรรยาที่ส่งถึงเพื่อนใน อ.หาดใหญ่ ลักษณะเหมือนภรรยาออกจากบ้านไปเอง
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ พ่อของนายประสิทธิพร เผยว่า ตนไม่ทราบถึงความขัดแย้งของลูกชายกับอดีตสะใภ้ เพราะเช้าก็ออกไปทำงาน แล้วกลับบ้านช่วงเย็น ขณะที่ผู้ตายมักออกจากบ้านหลังตน และกลับถึงบ้านอีกทีช่วง 19.00 - 20.00 น. จึงไม่ค่อยได้พบหรือพูดคุยกัน ส่วนเรื่องการทำพิธีบำเพ็ญกุศล ตนได้เตรียมการไว้แล้ว แต่ญาติของฝั่งผู้ตายจะนำกลับไปที่หาดใหญ่ ซึ่งก็ต้องให้เป็นเรื่องของเขา เพราะเป็นลูกสาวเขา
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3