หนุ่มพาแฟนสาวไปทริปสานรัก กลายเป็นจุดจบ เหตุแม่สาวนักเผือก ยืนฟังข้างห้องเป็นชั่วโมง โดนด่าร้องไห้ แต่ให้หยุดทำไม่ได้
ภาพจาก Weibo
บางคนถือคติว่า เรื่องของชาวบ้านคืองานของเรา ที่ใดมีเหตุให้น่าสงสัย เป็นอันต้องเข้าไปมีส่วนร่วมค้นหาความจริงด้วยทุกครั้ง หากพลาดไปก็อาจจะทำให้อยู่ไม่สุขหรือไม่สบายใจ แต่สำหรับสาวรายนี้ เรียกว่าอาการหนักขั้นสุด เมื่อเธอพยายามแอบฟังเรื่องของชาวบ้านอยู่นานกว่าชั่วโมง
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์ Sohu เผยเรื่องราวชวนอึ้งจากชายหนุ่มรายหนึ่งในเมืองหนานหนิง เขตกวางสี ทางตอนใต้ของประเทศจีน ชายหนุ่มรายนี้ชื่อว่า ซ่ง เขาคบหากับแฟนสาวแซ่หลิว แม้ว่าทั้งสองจะสานสัมพันธ์กันมานานกว่า 1 ปีแล้ว แต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เมื่อมีโอกาสก็มักจะพากันไปเที่ยวทริปกระชับรัก จนกระทั่งทริปครั้งล่าสุด กลับกลายเป็นจุดจบของทั้งสอง
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซ่งวางแผนจะพาหลิวไปเที่ยวที่เมืองกวางโจว ในมณฑลกวางตุ้ง โดยได้ซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงจากเมืองหนานหนิง ซึ่งมีกำหนดออกเดินทางในวันถัดไป คืนก่อนนั้นพวกเขาจึงเข้าพักที่โรงแรมใกล้กับสถานีรถไฟ จนเมื่อถึงตอนที่เช็กอินเข้าห้องพัก ได้มีคู่รักอีกคู่เข้าเช็กอินห้องข้าง ๆ ซึ่งนั่นกลายเป็นจุดสนใจของหลิวขึ้นมาทันที
ภาพจาก Weibo
ซ่ง เผยว่า พ่อแม่ของเขาเป็นครูทั้งคู่ เขาจึงได้รับการอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กเกี่ยวกับเรื่องมารยาทและการประพฤติตัวที่เหมาะสม เขาจึงรู้สึกว่าการกระทำของแฟนสาวไม่สมควร ไม่ใช่เรื่องที่ดี ดังนั้นตอนที่เธอนั่งพักเขาจึงเข้าไปคุยกับเธอ ทว่าหลิวกลับอธิบายเหตุผลที่ฟังแล้วอึ้งมาก
หลิว กล่าวว่า "การฟังข้างกำแพง" เป็นงานอดิเรกของเธอ ตั้งแต่เด็กจนอายุก่อน 18 ปี เธอโตขึ้นมากับการแอบฟังพ่อแม่คุยกันเกือบทุกวัน และการฟังจากกำแพงเช่นนั้น มันทำให้เธอรู้สึกดีมาก ซ่งได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกตกใจที่เธอมีความคิดเช่นนั้น เขาโกรธมากจึงด่าเธอว่า "ไร้ยางอาย" นั่นทำให้เธอร้องไห้ออกมา แต่เธอก็ไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยตัวเอง
ในคืนนั้น ซ่งนอนพลิกตัวไป-มาอยู่บนเตียง เขานอนไม่หลับและครุ่นคิดอย่างหนัก เขาคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนดีอะไรมากมายนัก แต่สำหรับแฟนสาวของเขา นิสัยและทัศนคติของเธอดูจะผิดเพี้ยน และไม่ยอมรับความจริง เขาอยากให้คนรักของเขาที่จะต้องอยู่กันไปในอนาคตทำเรื่องที่ถูกต้อง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ครั้งนี้
ภายหลังจากเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ผู้คนจำนวนมากก็เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของหญิงสาวรายนี้ ในขณะเดียวกันก็เชื่อว่าเธอน่าจะมีปัญหาทางจิต แนะนำให้พาไปพบจิตแพทย์หรือเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังมีนักกฎหมายเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า พฤติกรรมการแอบฟังกำแพง เป็นเรื่องที่ผิดทั้งด้านศีลธรรม ละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น และยังผิดกฎหมาย เตือนว่าใครที่ชอบทำเช่นนี้ควรหยุดก่อนที่จะติดเป็นนิสัย
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Sohu