สาวมั่นหน้า ยืนกรานเป็นทายาทเศรษฐี ไม่ใช่ลูกชาวนา บังคับแม่ตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ สุดท้ายเจอความจริงตีแสกหน้า ซ้ำได้รู้เรื่องที่สะเทือนใจกว่า
ภาพจาก hk01
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์ hk01 รายงานเรื่องราวของเด็กสาวชาวจีนรายหนึ่ง ที่อยากจะใช้ชีวิตอิสระหลังเรียนจบมหาวิทยาลัยและออกตามหาพ่อแม่แท้ ๆ เพราะเธอเชื่อว่าตัวเองมีหน้าตาที่สวยงามและบุคลิกงามสง่าแบบชนชั้นสูง แตกต่างจากพ่อแม่ที่เป็นชาวนาบ้านนอกและมีหน้าตาบ้าน ๆ ความแตกต่างนั้นทำให้เธอเชื่อว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่น่าจะเป็นทายาทเศรษฐีที่ถูกชาวนาพามาเลี้ยง
ใครจะรู้ว่าความดื้อรั้นของเธอที่จะค้นหาความจริง จนถึงขั้นบังคับให้แม่ตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ จะทำให้เธอถูกความจริงตบหน้า นอกจากทุกอย่างไม่เป็นแบบที่คิดแล้ว แม่ยังเผยความจริงสุดปวดใจจนทำให้เรื่องของสาวคนนี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากบนโลกออนไลน์
รายงานเผยว่า เฉินเหม่ยลี่ (นามสมมติ) วัย 21 ปี
สงสัยมาตลอดว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพ่อแม่
แต่เป็นลูกคนรวยที่ถูกชาวนาเอามาเลี้ยง โดยมีเหตุผล 3
ประการที่ทำให้เธอเชื่อเช่นนี้ ประการแรกคือ
เธอเชื่อว่าตัวเองทั้งสวยและมีนิสัยใจคอเหมือนชนชั้นสูง
ต่างจากพ่อแม่ซึ่งเป็นคนบ้านนอก หน้าตาธรรมดา
พวกเขาย่อมไม่สามารถให้กำเนิดลูกสาวที่สวยแบบเธอได้ เหตุผลประการที่สองคือ
พ่อแม่รวมถึงน้องสาวมีผมสีดำ มีแค่เธอที่ผมสีน้ำตาล
เหตุผลสุดท้ายคือ เธอมีบ้านอาศัยอยู่ในเมืองและได้เรียนมหาวิทยาลัย ขณะที่พ่อแม่ซึ่งป็นชาวนา มักใช้ชีวิตอยู่อย่างยากจน ไม่น่าจะมีเงินมาซื้อบ้านหรือส่งเสียเธอ เฉินเหม่ยลี่จึงเชื่อว่าจะต้องมีพ่อแม่ที่ร่ำรวยคอยออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เบื้องหลัง นอกจากนี้เธอยังมองว่าพ่อแม่รักน้องสาวมากกว่า และมักจะดุเธออยู่บ่อย ๆ เธอจึงเชื่อว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพวกเขา
ภาพจาก hk01
เมื่อเผชิญข้อสงสัยจากลูกสาว แม่ของเฉินเหม่ยลี่ถึงกับร้องไห้ด้วยความเสียใจ นอกจากนี้เฉินเหม่ยลี่ยังยืนกรานจะให้เธอตรวจดีเอ็นเอให้ได้ และยังเอาแต่ถามหาพ่อแม่ที่ร่ำรวย ดังนั้นในที่สุดแม่จึงยอมตรวจดีเอ็นเอ และผลก็ยืนยันว่าเธอกับเฉินเหม่ยลี่เป็นแม่ลูกที่เกี่ยวพันกันทางสายเลือดจริง ๆ
ผู้เป็นแม่เปิดใจว่า ลูกสาวเป็นเด็กฉลาดมาตั้งแต่เล็ก เธอกับสามีจึงยอมใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและทำงานหนักเพื่อหาเงิน ย้ายไปอาศัยอยู่ในเมืองและส่งเสียลูกสาวให้ได้เรียนถึงมหาวิทยาลัย เพราะอยากให้ลูกได้ดี แต่หลังเรียนจบแล้วลูกสาวกลับไปทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ ทำให้เธอกับสามีตกใจมาก
ในส่วนข้อสงสัยอันไร้เหตุผลของลูกสาว แม่ของเฉินเหม่ยลี่ก็ทำได้แค่อดทนอย่างเงียบ ๆ มาตลอด จนกระทั่งเกิดเรื่องในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องราวปรากฏเป็นข่าวจนมีคนวิพากษ์วิจารณ์สนั่น ผู้เป็นแม่ก็เปิดใจว่า จริง ๆ แล้วตอนที่เฉินเหม่ยลี่อายุ 15 ปี ลูกคนนี้เคยออกไปกัดคนที่เดินอยู่บนถนนจนถูกตำรวจจับมาแล้ว ตอนนั้นเองที่ครอบครัวเพิ่งรู้ว่าลูกสาวป่วยเป็นโรคจิตเภท เธอยืนยันว่าที่ลูกสาวคิดว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ ๆ เป็นเพียงสิ่งที่มโนเองล้วน ๆ แต่ในฐานะแม่ เธอไม่สนใจว่าลูกจะสงสัยในตัวเธอยังไง และจะพาลูกสาวกลับไปดูแล ทำการรักษาต่อไป
ทั้งนี้ รายงานเผยว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2558 แต่ได้ถูกนำกลับมาพูดถึงในวงกว้างอีกครั้งบนโลกออนไลน์ของจีน จึงกลายเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจขึ้นมาอีก
ขอบคุณข้อมูลจาก hk01
ภาพจาก hk01
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์ hk01 รายงานเรื่องราวของเด็กสาวชาวจีนรายหนึ่ง ที่อยากจะใช้ชีวิตอิสระหลังเรียนจบมหาวิทยาลัยและออกตามหาพ่อแม่แท้ ๆ เพราะเธอเชื่อว่าตัวเองมีหน้าตาที่สวยงามและบุคลิกงามสง่าแบบชนชั้นสูง แตกต่างจากพ่อแม่ที่เป็นชาวนาบ้านนอกและมีหน้าตาบ้าน ๆ ความแตกต่างนั้นทำให้เธอเชื่อว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่น่าจะเป็นทายาทเศรษฐีที่ถูกชาวนาพามาเลี้ยง
ใครจะรู้ว่าความดื้อรั้นของเธอที่จะค้นหาความจริง จนถึงขั้นบังคับให้แม่ตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ จะทำให้เธอถูกความจริงตบหน้า นอกจากทุกอย่างไม่เป็นแบบที่คิดแล้ว แม่ยังเผยความจริงสุดปวดใจจนทำให้เรื่องของสาวคนนี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากบนโลกออนไลน์
เหตุผลสุดท้ายคือ เธอมีบ้านอาศัยอยู่ในเมืองและได้เรียนมหาวิทยาลัย ขณะที่พ่อแม่ซึ่งป็นชาวนา มักใช้ชีวิตอยู่อย่างยากจน ไม่น่าจะมีเงินมาซื้อบ้านหรือส่งเสียเธอ เฉินเหม่ยลี่จึงเชื่อว่าจะต้องมีพ่อแม่ที่ร่ำรวยคอยออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เบื้องหลัง นอกจากนี้เธอยังมองว่าพ่อแม่รักน้องสาวมากกว่า และมักจะดุเธออยู่บ่อย ๆ เธอจึงเชื่อว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพวกเขา
ภาพจาก hk01
เมื่อเผชิญข้อสงสัยจากลูกสาว แม่ของเฉินเหม่ยลี่ถึงกับร้องไห้ด้วยความเสียใจ นอกจากนี้เฉินเหม่ยลี่ยังยืนกรานจะให้เธอตรวจดีเอ็นเอให้ได้ และยังเอาแต่ถามหาพ่อแม่ที่ร่ำรวย ดังนั้นในที่สุดแม่จึงยอมตรวจดีเอ็นเอ และผลก็ยืนยันว่าเธอกับเฉินเหม่ยลี่เป็นแม่ลูกที่เกี่ยวพันกันทางสายเลือดจริง ๆ
ผู้เป็นแม่เปิดใจว่า ลูกสาวเป็นเด็กฉลาดมาตั้งแต่เล็ก เธอกับสามีจึงยอมใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและทำงานหนักเพื่อหาเงิน ย้ายไปอาศัยอยู่ในเมืองและส่งเสียลูกสาวให้ได้เรียนถึงมหาวิทยาลัย เพราะอยากให้ลูกได้ดี แต่หลังเรียนจบแล้วลูกสาวกลับไปทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ ทำให้เธอกับสามีตกใจมาก
ในส่วนข้อสงสัยอันไร้เหตุผลของลูกสาว แม่ของเฉินเหม่ยลี่ก็ทำได้แค่อดทนอย่างเงียบ ๆ มาตลอด จนกระทั่งเกิดเรื่องในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องราวปรากฏเป็นข่าวจนมีคนวิพากษ์วิจารณ์สนั่น ผู้เป็นแม่ก็เปิดใจว่า จริง ๆ แล้วตอนที่เฉินเหม่ยลี่อายุ 15 ปี ลูกคนนี้เคยออกไปกัดคนที่เดินอยู่บนถนนจนถูกตำรวจจับมาแล้ว ตอนนั้นเองที่ครอบครัวเพิ่งรู้ว่าลูกสาวป่วยเป็นโรคจิตเภท เธอยืนยันว่าที่ลูกสาวคิดว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ ๆ เป็นเพียงสิ่งที่มโนเองล้วน ๆ แต่ในฐานะแม่ เธอไม่สนใจว่าลูกจะสงสัยในตัวเธอยังไง และจะพาลูกสาวกลับไปดูแล ทำการรักษาต่อไป
ทั้งนี้ รายงานเผยว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2558 แต่ได้ถูกนำกลับมาพูดถึงในวงกว้างอีกครั้งบนโลกออนไลน์ของจีน จึงกลายเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจขึ้นมาอีก
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก hk01