ชายวัย 71 ปี เผยความลับก่อนสิ้นใจ บอกตัวตนที่แท้จริง หลังปิดบังมาทั้งชีวิต ลูกสาวช็อก ความจริงพ่อเป็นอาชญากรคดีใหญ่
วันที่ 7 ธันวาคม 2566 เว็บไซต์ CTWANT เผยเรื่องราวที่น่าตกตะลึงของชายรายหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เขาชื่อว่า โธมัส เรนเดล วัย 71 ปี อดีตพนักงานขายรถยนต์ธรรมดา ที่กำลังจะลาจากโลกไปอย่างสงบ ทว่าในห้วงสุดท้ายของชีวิต เขาได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ บอกความจริงกับลูกสาวเกี่ยวกับสุดยอดความลับในชีวิต สารภาพว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นผู้ต้องสงสัยคดีปล้นธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา และเป็นคดีปริศนาที่ปิดไม่ลง
"ลูกต้องสัญญาว่าจะไม่ตามสืบเรื่องนี้" พ่อของแอชลีย์ กล่าว ก่อนที่เขาจะยอมเผยว่า แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ชื่อ โธมัส เรนเดล แต่มีชื่อว่า เท็ด คอนราด แต่ในคืนนั้นเอง แอชลีย์ยอมรับว่า เธอไม่สามารถรักษาสัญญาได้ เวลาประมาณ 02.30 น. เธอหลับตาไม่ลง และตัดสินใจค้นหาบนกูเกิลก่อนที่จะได้พบข้อมูลสุดช็อกที่ไม่อยากจะเชื่อ
เท็ด คอนราด กลายเป็นผู้ต้องหาคดีโจรกรรมธนาคารครั้งใหญ่ ลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง และออกประกาศเป็นบุคคลที่ทางการต้องการตัวระดับสูง ทางเจ้าหน้าที่ FBI ได้เข้ามาร่วมสอบสวนอาชญากรรมนี้อย่างจริงจัง มีการคาดเดาว่าคอนราดหนีไปฝรั่งเศส ทั้งยังมีนักท่องเที่ยวในฮาวาย รายงานว่าพบเห็นเขา แต่ก็สรุปว่าเป็นเบาะแสที่ผิดพลาด ในขณะที่สมาชิกในครอบครัวเชื่อว่า เขาขโมยของให้องค์กรมาเฟียและถูกสังหาร
อย่างไรก็ดี ไม่มีใครสามารถยืนยันข้อเท็จจริงใด ๆ ได้ คดีความจึงกลายเป็นคดีปริศนาที่ไม่ได้รับการคลี่คลาย แต่ในความเป็นจริง เท็ด คอนราด ได้หนีไปตั้งรกรากที่เมืองบอสตัน แถมยังใช้ชื่อของตัวละครเอกในภาพยนตร์ปล้นธนาคารเรื่อง The Thomas Crown Affair และซีรีส์ทางโทรทัศน์ของตะวันตกเรื่อง Wanted Dead or Alive เพื่อสร้างชื่อปัจจุบันว่า โธมัส เรนเดล และใช้ชีวิตภายใต้ชื่อนั้นมาจนถึงช่วงบั้นปลายของชีวิต
หลังจากได้อ่านบทความต่าง ๆ แอชลีย์รู้สึกตกใจมากเธอถึงกับร้องออกมาเสียงดังในห้องว่า "พระเจ้า ชีวิตของฉันคือภาพยนตร์มาตลอดชีวิต"
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคืนนั้นลูกสาวจะรู้สึกช็อกอย่างที่สุด เกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดในชีวิตที่เธอรับรู้ในคืนเดียว แต่ในเช้าวันรุ่งขึ้นเธอก็เข้าไปกล่าวกับพ่อของเธออย่างจริงใจว่า "ฉันผิดคำสัญญาที่บอกว่าจะไม่สืบหาเรื่องนี้ แต่ความจริงที่ว่าพ่อเอาเงินนั้นมา ไม่ได้ทำให้ฉันรักพ่อน้อยลง" และหลังจากนั้นแอชลีย์ก็บอกเรื่องนี้ให้แม่ของเธอรับรู้ด้วย และมันก็ทำให้แม่เธอช็อกไปเช่นกัน
แอชลีย์นำเรื่องนี้มาเปิดเผยหลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิตจากไป โดยเน้นย้ำว่า "พ่อที่ฉันรู้จัก เป็นคนเรียบง่ายและสบาย ๆ หากพ่อไม่พูดออกมา ก็ไม่มีใครเชื่อหรือแม้แต่จะคาดคิด แม้เขาจะปกปิดตัวตนมาทั้งชีวิตของฉัน แต่ฉันก็ยังรักและคิดถึงเขาเสมอ" ส่วนข้อสงสัยที่ว่าเงินทั้งหมดไปอยู่ที่ไหน แอชลีย์ก็ไม่มีคำตอบ แต่เชื่อว่ามันน่าจะสูญเสียไปมากกับความฟุ้งเฟ้อในอดีตของเขา รวมทั้งการลงทุนที่ล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT, New York Post