หนุ่มเผยขับรถไปเจอตะปูตำล้อ ไปที่ศูนย์ดังแต่ปะยางไม่ได้ เลยต้องไปหาซื้อยางใหม่ แต่ที่ไหน ๆ ก็พบว่าไม่มียางแบบนี้ขาย ต้องไปเปลี่ยนที่ศูนย์บริการ เจอฟันเส้นละ 20,000 บาท จากปกติเส้นละไม่เท่าไร
ในตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระแสรถยนต์ไฟฟ้ามาแรงสุด ๆ ทั้งจากการใช้จริงที่พิสูจน์แล้วว่าประหยัดค่าน้ำมันกันครึ่งต่อครึ่ง ราคาที่ไม่ต่างจากรถน้ำมัน ศูนย์บริการที่เริ่มมีมากขึ้น และเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังเข้ามา ทว่า ปัญหาจากผู้ใช้ก็ยังมีมาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุด ที่ผู้ใช้รถไฟฟ้าคนหนึ่งขับรถไปเหยียบตะปู แต่กลับพบว่าเขาต้องจ่ายเงินกว่า 20,000 บาท เพื่อเปลี่ยนยางแค่เส้นเดียว
โดยที่คุณ Luo Xiaohong เผยว่า เขาได้ขับรถยนต์ไปโดนตะปู และทำให้ยางอ่อน เมื่อไปที่ศูนย์บริการบีควิก ทางนั้นก็ไม่ปะให้เนื่องจากแผลใหญ่และอยู่ตรงแก้มยาง จึงนำรถเข้าอู่ไปปะกับช่างแถวบ้าน ช่างก็บอกว่าใช้ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น และมีโอกาสที่ยางจะรั่วได้เสมอ แนะนำว่าให้เปลี่ยนยาง
เมื่อจะไปเปลี่ยนยาง เขากลับพบว่า ตัวแทนจำหน่ายยางยี่ห้อ continental ที่ใช้นั้นไม่มีของเลย อันเนื่องมาจากศูนย์รถได้ตระเวนกวาดซื้อสต็อกไปหมดแล้ว หากจะซื้อต้องซื้อยางกับศูนย์ และเมื่อจะซื้อยางกับศูนย์กลับพบว่า ราคายาง 1 เส้นคือ 21,870.80 บาท !
นอกจากนี้ เขายังได้เผยแพร่บทสนทนาทางโทรศัพท์ที่ทางศูนย์รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อนี้โทร. มา เพื่อแจ้งราคายาง จนเขาเองก็ตกใจและถามไปว่า นี่พูดจริงหรือพูดเล่น ยางเส้นเดียวโดนตะปูทำไมมันแพงขนาดนั้น ซึ่งทางศูนย์แจ้งว่าเป็นการดึงจากเลขตัวถังตามระบบ และทางศูนย์ได้แจ้งว่าให้ถ่ายลายยางมา อาจจะมีเบอร์ที่ไปกันได้
สุดท้าย
เขาได้ไปซื้อยางมือสองที่คนอื่นเปลี่ยนล้อมาในราคา 2,500
และได้ปฏิเสธทางศูนย์ไปว่า ถ้าราคายาง 20,000 กว่าแบบนี้ก็ไม่ต้องดูอีกแล้ว
ทั้งนี้ ได้มีคนมาบอกว่า ยางของรถ EV จะแพงกว่ายางปกติอยู่แล้ว แต่การคิดราคายางกว่า 20,000 บาทนั้นดูจะแพงเกินไป แม้กระทั่งยางสำหรับรถพ่วงยังราคาประมาณ 8,000-9,000 บาท หรือกระทั่งยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4 ซึ่งเป็นยางที่เป็นสเปคใส่รถซูเปอร์คาร์ ยังเส้นละไม่ถึง 20,000 บาท แบบนี้เรียกว่าศูนย์อาจจะแจ้งราคาพลาด ไม่อย่างนั้นก็ฟันกำไรหัวแบะ
และเมื่อถามว่าทำไมไม่เคลมประกัน ก็พบว่าแม้จะมีประกันชั้น 1 ก็เคลมไม่ได้ เพราะไม่ใช่กรณียางแตก ชน หรือขูดทางเท้า ซึ่งโดยปกติแล้วบริษัทมักไม่รับประกันยาง ยกเว้นเกิดจากอุบัติเหตุที่ทำให้ชิ้นส่วนอื่น ๆ เสียหายด้วย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
โดยที่คุณ Luo Xiaohong เผยว่า เขาได้ขับรถยนต์ไปโดนตะปู และทำให้ยางอ่อน เมื่อไปที่ศูนย์บริการบีควิก ทางนั้นก็ไม่ปะให้เนื่องจากแผลใหญ่และอยู่ตรงแก้มยาง จึงนำรถเข้าอู่ไปปะกับช่างแถวบ้าน ช่างก็บอกว่าใช้ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น และมีโอกาสที่ยางจะรั่วได้เสมอ แนะนำว่าให้เปลี่ยนยาง
เมื่อจะไปเปลี่ยนยาง เขากลับพบว่า ตัวแทนจำหน่ายยางยี่ห้อ continental ที่ใช้นั้นไม่มีของเลย อันเนื่องมาจากศูนย์รถได้ตระเวนกวาดซื้อสต็อกไปหมดแล้ว หากจะซื้อต้องซื้อยางกับศูนย์ และเมื่อจะซื้อยางกับศูนย์กลับพบว่า ราคายาง 1 เส้นคือ 21,870.80 บาท !
นอกจากนี้ เขายังได้เผยแพร่บทสนทนาทางโทรศัพท์ที่ทางศูนย์รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อนี้โทร. มา เพื่อแจ้งราคายาง จนเขาเองก็ตกใจและถามไปว่า นี่พูดจริงหรือพูดเล่น ยางเส้นเดียวโดนตะปูทำไมมันแพงขนาดนั้น ซึ่งทางศูนย์แจ้งว่าเป็นการดึงจากเลขตัวถังตามระบบ และทางศูนย์ได้แจ้งว่าให้ถ่ายลายยางมา อาจจะมีเบอร์ที่ไปกันได้
ทั้งนี้ ได้มีคนมาบอกว่า ยางของรถ EV จะแพงกว่ายางปกติอยู่แล้ว แต่การคิดราคายางกว่า 20,000 บาทนั้นดูจะแพงเกินไป แม้กระทั่งยางสำหรับรถพ่วงยังราคาประมาณ 8,000-9,000 บาท หรือกระทั่งยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4 ซึ่งเป็นยางที่เป็นสเปคใส่รถซูเปอร์คาร์ ยังเส้นละไม่ถึง 20,000 บาท แบบนี้เรียกว่าศูนย์อาจจะแจ้งราคาพลาด ไม่อย่างนั้นก็ฟันกำไรหัวแบะ
และเมื่อถามว่าทำไมไม่เคลมประกัน ก็พบว่าแม้จะมีประกันชั้น 1 ก็เคลมไม่ได้ เพราะไม่ใช่กรณียางแตก ชน หรือขูดทางเท้า ซึ่งโดยปกติแล้วบริษัทมักไม่รับประกันยาง ยกเว้นเกิดจากอุบัติเหตุที่ทำให้ชิ้นส่วนอื่น ๆ เสียหายด้วย