ชายซื้อตั๋วไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงปีใหม่ กำลังจะขึ้นเครื่องเจอ ตม. สุวรรณภูมิกักตัว บอกมีหมายจับแต่สุดท้ายไม่มี ทำตกเครื่อง ซ้ำให้ไปเรียกร้องค่าเสียหายจากส่วนกลางเอง
ภาพจาก Natee Photo / Shutterstock.com
วันที่ 5 มกราคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานเรื่องราวร้องทุกข์ของ ชายวัย 33 ปี นำหลักฐานเข้าร้องกับสื่อ พร้อมเล่าว่า เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2566 ตนไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อจะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อถึงขั้นตอนของตรวจคนเข้าเมือง กลับถูกเจ้าหน้าที่ ตม. ขาออก ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กักตัว โดยให้เหตุผลว่า ตนมีหมายจับที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ในข้อหาอนาจารขัดต่อศีลธรรม ทำให้ไม่สามารถเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรได้ ตนก็แจ้งกับเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่าไม่เคยก่อเหตุดังกล่าว ตอนนั้นก็ใกล้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ปล่อย และถามอีกว่าเคยก็เหตุอนาจารเมื่อปี 2551 ไหม ตนก็ยืนยันไปเหมือนเดิมว่า ไม่มี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวไปยังกองกำกับการสืบสวน บก.ตม.2 เมื่อไปถึง ตรวจสอบหมายจับอีกครั้ง กลับไม่พบหมายจับ พบเพียงประวัติคดีเก่าที่จบไปแล้วและไม่เกี่ยวกับคดีอนาจารแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัว แต่เวลาที่ล่วงเลยไปหลายชั่วโมง ทำให้ตนตกเครื่อง ไม่สามารถเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส
เมื่อทวงถามความรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใด ๆ และยังบอกอีกว่า ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าเสียหายอื่น ๆ หากอยากได้ต้องไปร้องส่วนกลาง จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จดเลขคดีที่มีหมายจับให้ตนไปเดินเรื่องตรวจสอบที่โรงพัก เมื่อไปขอตรวจสอบหมายจับที่โรงพักที่ศาลเยาวชนจังหวัดสมุทรปราการ และติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยพาไปเช็กที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สุดท้ายผลการตรวจสอบก็ไม่มีหมายจับแต่อย่างใด ตนก็ยังงงว่าทำไมทาง ตม. ถึงตรวจพบหมายจับในคดีอนาจาร
หลังเกิดเรื่อง ตนอยากให้ทางผู้เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ปล่อยตนให้เคว้งขว้าง และเอาคดีให้ตนมาตามเอง เพราะถ้าหากตนจะเดินทางไปไหนก็ไปไม่ได้ ต้องมาติดคดีที่ไม่ได้ทำ ที่สำคัญตอนเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีหมายจับ ตอนนั้นมีคนต่อแถวรออีกหลายคน ทำให้ตนอับอาย ส่วนเงินค่าเครื่องบิน 2 หมื่นกว่าบาทนั้น ตนก็อยากได้คืน รวมถึงเงินญี่ปุ่นที่แลกมานั้นก็ต้องไปแลกคืน ซึ่งก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมจึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องมาชดใช้ด้วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส
ด้านนายพัฒนศักดิ์ จันทร์ตรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้ช่วยเหลือผู้เสียหาย พาไปตรวจสอบตามหน่วยงานต่าง ๆ ขณะนี้เตรียมจะร่างคำร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยามยามติดต่อไปยังฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่บอกเพียงว่า ต้องให้ส่วนกลางเป็นผู้ชี้แจง
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส
ภาพจาก Natee Photo / Shutterstock.com
วันที่ 5 มกราคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานเรื่องราวร้องทุกข์ของ ชายวัย 33 ปี นำหลักฐานเข้าร้องกับสื่อ พร้อมเล่าว่า เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2566 ตนไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อจะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อถึงขั้นตอนของตรวจคนเข้าเมือง กลับถูกเจ้าหน้าที่ ตม. ขาออก ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กักตัว โดยให้เหตุผลว่า ตนมีหมายจับที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ในข้อหาอนาจารขัดต่อศีลธรรม ทำให้ไม่สามารถเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรได้ ตนก็แจ้งกับเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่าไม่เคยก่อเหตุดังกล่าว ตอนนั้นก็ใกล้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ปล่อย และถามอีกว่าเคยก็เหตุอนาจารเมื่อปี 2551 ไหม ตนก็ยืนยันไปเหมือนเดิมว่า ไม่มี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวไปยังกองกำกับการสืบสวน บก.ตม.2 เมื่อไปถึง ตรวจสอบหมายจับอีกครั้ง กลับไม่พบหมายจับ พบเพียงประวัติคดีเก่าที่จบไปแล้วและไม่เกี่ยวกับคดีอนาจารแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัว แต่เวลาที่ล่วงเลยไปหลายชั่วโมง ทำให้ตนตกเครื่อง ไม่สามารถเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส
เมื่อทวงถามความรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใด ๆ และยังบอกอีกว่า ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าเสียหายอื่น ๆ หากอยากได้ต้องไปร้องส่วนกลาง จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จดเลขคดีที่มีหมายจับให้ตนไปเดินเรื่องตรวจสอบที่โรงพัก เมื่อไปขอตรวจสอบหมายจับที่โรงพักที่ศาลเยาวชนจังหวัดสมุทรปราการ และติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยพาไปเช็กที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สุดท้ายผลการตรวจสอบก็ไม่มีหมายจับแต่อย่างใด ตนก็ยังงงว่าทำไมทาง ตม. ถึงตรวจพบหมายจับในคดีอนาจาร
หลังเกิดเรื่อง ตนอยากให้ทางผู้เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ปล่อยตนให้เคว้งขว้าง และเอาคดีให้ตนมาตามเอง เพราะถ้าหากตนจะเดินทางไปไหนก็ไปไม่ได้ ต้องมาติดคดีที่ไม่ได้ทำ ที่สำคัญตอนเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีหมายจับ ตอนนั้นมีคนต่อแถวรออีกหลายคน ทำให้ตนอับอาย ส่วนเงินค่าเครื่องบิน 2 หมื่นกว่าบาทนั้น ตนก็อยากได้คืน รวมถึงเงินญี่ปุ่นที่แลกมานั้นก็ต้องไปแลกคืน ซึ่งก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมจึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องมาชดใช้ด้วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส
ด้านนายพัฒนศักดิ์ จันทร์ตรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้ช่วยเหลือผู้เสียหาย พาไปตรวจสอบตามหน่วยงานต่าง ๆ ขณะนี้เตรียมจะร่างคำร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยามยามติดต่อไปยังฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่บอกเพียงว่า ต้องให้ส่วนกลางเป็นผู้ชี้แจง
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส