ผัว-เมีย ซักทอด ปู่ป้อนข้าวเหนียวให้เด็ก 2 ขวบกิน ก่อนตาย อ้างซ่อนศพในตู้เย็นเพราะกลัวมีความผิด ล่าสุดผลชันสูตรชี้ชัด ข้าวเหนียวติดในหลอดลม
![ศพเด็กในตู้เย็น]( "ศพเด็กในตู้เย็น")
จากกรณีพบศพเด็ก 2 ขวบในตู้เย็นที่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านบางบัวทอง โดย น.ส.ก้อย ที่อยู่กับเด็กเป็นคนสุดท้าย ให้การอ้างว่าตื่นมาเจอมดขึ้นเด็กและมีข้าวเหนียวคาปาก ด้วยความตกใจเลยทำอะไรไม่ถูก เมื่อ นายแบงค์ ผู้เป็นสามีกลับมา จึงจับเด็กห่อผ้าใส่ถุง ก่อนจะซ่อนศพไว้ในตู้เย็นด้วยความกลัว แต่ปู่ของคู่สามี-ภรรยา ไม่เชื่อคำให้การ ชี้ทั้งคู่นิสัยใจคอโหดร้าย เห็นทำร้ายเด็กเป็นประจำนั้น
อ่านข่าว : ปู่เชื่อ ฝีมือ 2 ผัว-เมีย ฆ่าเด็กยัดตู้เย็น ชี้ใจคอโหดร้าย อึ้งสภาพศพถูกมัดสายสิญจน์
คืบหน้าวานนี้ (6 มกราคม 2567) สำนักข่าวไทย รายงานว่า ทางตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.ก้อย และนายแบงค์ ไปสอบปากคำแล้วกว่า 1 ชั่วโมง โดยทาง พล.ต.ต. ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เผยว่า ผู้ต้องหาให้การซักทอดว่าปู่ของนายแบงค์ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา เป็นคนป้อนข้าวเหนียวเป็นอาหารเด็ก อาจจะไปอุดหลอดลมจนเด็กเสียชีวิต ที่ไม่กล้าพาไปโรงพยาบาลเพราะกลัวจะมีความผิด เนื่องจากเด็กเสียชีวิตในบ้าน และจากการตรวจที่เกิดเหตุทราบว่าขณะนายแบงค์เขย่าตัวเด็ก มีข้าวเหนียวหล่นลงมาจากปาก และมีกำไว้ในมือเด็ก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด ต้องรอผลจากนิติเวชก่อน แต่เบื้องต้นแจ้งข้อหา ไม่แจ้งการตาย และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ
ด้าน นายนพรัตน์ อายุ 29 ปี พ่อแท้ ๆ ของเด็กที่เสียชีวิต เผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนต้องทำงานไม่มีเวลาเลี้ยงลูก นายแบงค์เลยขอลูกไปเลี้ยงดูให้ ซึ่งตนยังให้เงินนายแบงค์วันละ 500 บาท ตนเห็นว่านายแบงค์รักเด็กจึงไว้ใจ และเมื่อเดือนธันวาคมก็ไม่เห็นบาดแผลอะไร แต่ช่วงหลัง ๆ นายแบงค์เริ่มบ่ายเบี่ยง ไม่เอาลูกมาหา ไม่ส่งรูปให้ดูตั้งแต่หลังปีใหม่ ตนจึงไม่เชื่อคำให้การ เพราะถ้าข้าวเหนียวติดคอจริงทำไมไม่บอกตั้งแต่วันแรก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด (7 มกราคม 2567) เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า ผช. ศ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลการผ่าชันสูตรเบื้องต้นว่า สาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิตเกิดจากการขาดอากาศหายใจ โดยพบข้าวเหนียว 2 เม็ดในหลอดลมส่วนบน และอีก 10 กว่าเม็ดที่บริเวณในปาก คาดว่าเด็กกินข้าวเหนียวไปแล้วเกิดการสำลัก ทำให้เม็ดข้าวเข้าไปติดในหลอดลมจนระบบหายใจติดขัด และขาดอากาศเสียชีวิตในที่สุด
นอกจากนี้ยังพบแผลฟกช้ำบริเวณน่อง ซ้ายขวา และแขนด้านในข้างซ้าย ซึ่งเป็นบาดแผลเก่า ไม่ได้เกี่ยวข้องถึงขั้นทำให้เสียชีวิต แต่บาดแผลส่วนนี้เชื่อว่าไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุหรือน้องทำเอง เป็นไปได้ว่ามีบุคคลอื่นทำให้เกิดแผล เนื่องจากคล้ายกับการถูกจับแรง ๆ จนเกิดรอยฟกช้ำ โดยประเมินว่าแผลเกิดขึ้นประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต
สำหรับบาดแผลอื่น ๆ ภายใน ทั้งอวัยวะสำคัญ รวมระบบสมอง ไม่พบร่องรอย หรืออาการบาดเจ็บแต่อย่างใด
ขณะที่ ไทยพีบีเอส รายงานว่า พ.ต.อ. พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง เผยว่า พรุ่งนี้ (8 มกราคม 2567) พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัว นายแบงค์ และ น.ส.ก้อย ผู้ต้องหา ไปขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรีฝากขัง เบื้องต้นแจ้ง 2 ข้อหา คือ ร่วมกันซ่อนเร้นปิดบังอำพรางศพ และไม่แจ้งการตายให้เจ้าหน้าที่ทราบ โดยตอนนี้ทั้งคู่ยังถูกคุมขังในห้องขังที่โรงพัก
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย , Thai PBS, เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
จากกรณีพบศพเด็ก 2 ขวบในตู้เย็นที่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านบางบัวทอง โดย น.ส.ก้อย ที่อยู่กับเด็กเป็นคนสุดท้าย ให้การอ้างว่าตื่นมาเจอมดขึ้นเด็กและมีข้าวเหนียวคาปาก ด้วยความตกใจเลยทำอะไรไม่ถูก เมื่อ นายแบงค์ ผู้เป็นสามีกลับมา จึงจับเด็กห่อผ้าใส่ถุง ก่อนจะซ่อนศพไว้ในตู้เย็นด้วยความกลัว แต่ปู่ของคู่สามี-ภรรยา ไม่เชื่อคำให้การ ชี้ทั้งคู่นิสัยใจคอโหดร้าย เห็นทำร้ายเด็กเป็นประจำนั้น
อ่านข่าว : ปู่เชื่อ ฝีมือ 2 ผัว-เมีย ฆ่าเด็กยัดตู้เย็น ชี้ใจคอโหดร้าย อึ้งสภาพศพถูกมัดสายสิญจน์
คืบหน้าวานนี้ (6 มกราคม 2567) สำนักข่าวไทย รายงานว่า ทางตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.ก้อย และนายแบงค์ ไปสอบปากคำแล้วกว่า 1 ชั่วโมง โดยทาง พล.ต.ต. ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เผยว่า ผู้ต้องหาให้การซักทอดว่าปู่ของนายแบงค์ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา เป็นคนป้อนข้าวเหนียวเป็นอาหารเด็ก อาจจะไปอุดหลอดลมจนเด็กเสียชีวิต ที่ไม่กล้าพาไปโรงพยาบาลเพราะกลัวจะมีความผิด เนื่องจากเด็กเสียชีวิตในบ้าน และจากการตรวจที่เกิดเหตุทราบว่าขณะนายแบงค์เขย่าตัวเด็ก มีข้าวเหนียวหล่นลงมาจากปาก และมีกำไว้ในมือเด็ก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด ต้องรอผลจากนิติเวชก่อน แต่เบื้องต้นแจ้งข้อหา ไม่แจ้งการตาย และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ
พ่อแท้ ๆ ไม่เชื่อ ลูกตายเพราะข้าวเหนียวติดคอ
ด้าน นายนพรัตน์ อายุ 29 ปี พ่อแท้ ๆ ของเด็กที่เสียชีวิต เผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนต้องทำงานไม่มีเวลาเลี้ยงลูก นายแบงค์เลยขอลูกไปเลี้ยงดูให้ ซึ่งตนยังให้เงินนายแบงค์วันละ 500 บาท ตนเห็นว่านายแบงค์รักเด็กจึงไว้ใจ และเมื่อเดือนธันวาคมก็ไม่เห็นบาดแผลอะไร แต่ช่วงหลัง ๆ นายแบงค์เริ่มบ่ายเบี่ยง ไม่เอาลูกมาหา ไม่ส่งรูปให้ดูตั้งแต่หลังปีใหม่ ตนจึงไม่เชื่อคำให้การ เพราะถ้าข้าวเหนียวติดคอจริงทำไมไม่บอกตั้งแต่วันแรก
ผลชันสูตรชี้ มีข้าวเหนียวติดหลอดลม
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด (7 มกราคม 2567) เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า ผช. ศ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลการผ่าชันสูตรเบื้องต้นว่า สาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิตเกิดจากการขาดอากาศหายใจ โดยพบข้าวเหนียว 2 เม็ดในหลอดลมส่วนบน และอีก 10 กว่าเม็ดที่บริเวณในปาก คาดว่าเด็กกินข้าวเหนียวไปแล้วเกิดการสำลัก ทำให้เม็ดข้าวเข้าไปติดในหลอดลมจนระบบหายใจติดขัด และขาดอากาศเสียชีวิตในที่สุด
นอกจากนี้ยังพบแผลฟกช้ำบริเวณน่อง ซ้ายขวา และแขนด้านในข้างซ้าย ซึ่งเป็นบาดแผลเก่า ไม่ได้เกี่ยวข้องถึงขั้นทำให้เสียชีวิต แต่บาดแผลส่วนนี้เชื่อว่าไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุหรือน้องทำเอง เป็นไปได้ว่ามีบุคคลอื่นทำให้เกิดแผล เนื่องจากคล้ายกับการถูกจับแรง ๆ จนเกิดรอยฟกช้ำ โดยประเมินว่าแผลเกิดขึ้นประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต
สำหรับบาดแผลอื่น ๆ ภายใน ทั้งอวัยวะสำคัญ รวมระบบสมอง ไม่พบร่องรอย หรืออาการบาดเจ็บแต่อย่างใด
ขณะที่ ไทยพีบีเอส รายงานว่า พ.ต.อ. พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง เผยว่า พรุ่งนี้ (8 มกราคม 2567) พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัว นายแบงค์ และ น.ส.ก้อย ผู้ต้องหา ไปขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรีฝากขัง เบื้องต้นแจ้ง 2 ข้อหา คือ ร่วมกันซ่อนเร้นปิดบังอำพรางศพ และไม่แจ้งการตายให้เจ้าหน้าที่ทราบ โดยตอนนี้ทั้งคู่ยังถูกคุมขังในห้องขังที่โรงพัก
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย , Thai PBS, เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
