ชาวเมืองพบ iPhone สภาพสมบูรณ์ ของผู้โดยสารบนเที่ยวบินระทึกประตูหลุด หลังถูกดูดจนร่วงมาจากความสูง 16,000 ฟุต
ภาพจาก Instagram strawberrvy
วันที่ 8 มกราคม 2567 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ชวนระทึก กรณีเครื่องบิน Boeing 737 Max 9 ของสายการบินอลาสกา แอร์ไลน์ส เกิดเหตุไม่คาดฝัน ชิ้นส่วนประตูหลุดกลางอากาศ ขณะกำลังเดินทางจากรัฐออริกอน ไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เป็นเหตุให้นักบินต้องนำเครื่องกลับไปลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินต้นทาง ผู้โดยสารและลูกเรือ 177 ชีวิตปลอดภัย แต่ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินก็สร้างความน่าตกใจไม่น้อย จนกลายเป็นไวรัลบนโซเชียล
ล่าสุด มีเหตุที่น่าตกตะลึงหลังจากนั้น เมื่อมีผู้อาศัยในรัฐออริกอนรายหนึ่ง ชื่อว่า ฌอน เบตส์ ได้แชร์ภาพและเรื่องราวผ่านทางทวิตเตอร์ เผยว่า ในขณะที่เขากำลังเดินเล่น เขาได้พบโทรศัพท์ iPhone ที่เปิดโหมดเครื่องบิน และมีแบตเตอรี่เหลือครึ่งหนึ่ง ด้านในพบข้อมูลที่ระบุว่า เจ้าของเครื่องเป็นผู้โดยสารของสายการบินอลาสกา แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่เกิดเหตุ จึงได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ (NTSB)
หลังจากนั้นก็จะได้รับการยืนยันว่า iPhone เครื่องนี้เป็นโทรศัพท์ที่ถูกดูดออกมาจากเครื่องบินที่เกิดเหตุหน้าต่างหลุดลำดังกล่าวจริง โดยร่วงลงมาจากระดับความสูง 16,000 ฟุต แต่ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์สามารถใช้งานได้เป็นปกติ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังเผยว่า iPhone เครื่องนี้เป็นโทรศัพท์เครื่องที่ 2 ที่ถูกพบ หลังจากถูกดูดออกมาจากเครื่องบินลำนั้น
"สงสัยที่มันรอดมาได้ เป็นเพราะเปิดโหมดเครื่องบินเอาไว้" ฌอน เบตส์ เล่นมุกขำขันในโพสต์ของเขา พร้อมทั้งกล่าวเสริมว่า มันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อย่างน่าทึ่งจริง ๆ ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเลยด้วยซ้ำ
ภาพจาก Twitter @SeanSafyre
ภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันออกไปก็ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว ผู้ใช้โซเชียลจำนวนมากต่างพากันเข้าไปคอมเมนต์แสดงความประหลาดใจมากมาย เช่น "เป็นไปได้ไง ? ฉันแค่ทำ iPhone ตกจากโต๊ะในครัว มันก็ไม่ได้อยู่ในสภาพนี้แล้ว", "เรื่องนี้น่าเหลือเชื่อมาก โทรศัพท์ที่ร่วงลงมาจากเครื่องบิน ที่ความสูงมากขนาดนั้น กลับถูกพบได้ในเวลาสั้น ๆ ไม่ต้องใช้เวลาในการค้นหา แถมสภาพของมันก็น่าทึ่งมาก", "โทรศัพท์ 2 เครื่องตกจากฟ้า ลงถึงพื้นอย่างปลอดภัย และถูกพบอย่างเร็ว", "น่าขันตรงที่โทรศัพท์ทั้ง 2 เครื่องถูกพบก่อนชิ้นส่วนประตูที่หลุด"
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post