แพรรี่ ลุยต่อ 8 ข้อที่หมอดูบอกคุณไม่หมดเกี่ยวกับปีชง โวยให้ยกเลิกปีชงร่วม คนจิตใจย่ำแย่หมดแล้ว ชงทุก 3 ปีแบบนี้ก็ไม่ไหว โปรดหาเงินด้วยวิธีอื่น ด้านหมอลักษณ์ ฟันธง บอก คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่เชื่อ แต่อย่าดูถูกคนอื่นว่าโง่
ดราม่าร้อนระอุประจำวันนี้ที่หลายคนจับตามอง เป็นการไฝว้กันระหว่างแพรรี่ ไพรวัลย์ กับ หมอลักษณ์ ฟันธง ประเด็นเกี่ยวกับการแก้ชง ซึ่งทางแพรรี่มองว่า ปีชงมีไว้หลอกคนโง่ ทำให้ทุกข์แล้วเสียเงินให้วัด ส่วนทางหมอลักษณ์ ก็ฟาดกลับ บอกว่า มันเป็นความเชื่อฝั่งจีน อย่าพูดเพ้อเจ้อเอามัน และมีถ้อยคำที่เป็นลักษณะเหยียดเพศ
อ่านข่าว : แพรรี่ ไพรวัลย์ ฟาด ปีชงมีไว้หลอกคนโง่ ทำให้ทุกข์แล้วเสียเงินให้วัด อย่าหลงเชื่อมาร์เกตติ้ง
อ่านข่าว : หมอลักษณ์ เดือด ! ด่าคนให้ร้ายปีชงมีไว้หลอกคนโง่ ซัดไม่มีความรู้ เพ้อเจ้อเอามันส์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร
ล่าสุด วันที่ 11 มกราคม 2567 เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร มีการโพสต์เรื่องประเด็นปีชงเพิ่มเติม พร้อมพาดหัวเอาไว้ว่า "หมอดูบอกอะไรคุณไม่หมดบ้าง เกี่ยวกับปีชง" จากนั้นก็เข้าสู่เนื้อหา ระบุว่า ความเชื่อเรื่องปีชงมีรากฐานความเชื่อพื้นบ้านของจีนที่ผสานความเชื่อหลักคิดขงจื้อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภูตผีปีศาจ สิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ ซึ่งอยู่คู่สังคมจีนอย่างยาวนานจนซึมลึกกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม รวมถึงมีรากฐานจากลัทธิเต๋าด้วย ดังนั้น จึงขอสรุปเราควรรู้อะไรเกี่ยวกับปีชง
1. ปีชงของชาวจีนไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ ๆ
แนวคิดของชาวจีนคือ ปีชงสามารถส่งผลได้ทั้งบวกและลบ การแก้ชงคือการนำสิ่งเลวร้ายออกไป เสริมสิริมงคลแก่ชีวิต แต่ปัจจุบันปีชงเหลือแต่ความหมายด้านลบ ตกหล่นด้านเสริมดวงชะตาไปพอสมควร
2. สถานที่แก้ไขปีชงมีความเปลี่ยนแปลง
เดิมนั้นสามารถแก้ชงที่ไหนก็ได้ แต่ปัจจุบันต้องแก้ชงที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีน เช่น ศาลเจ้า วัดจีน เป็นต้น บางครั้งก็แผ่ขยายไปยังศาสนสถานต่าง ๆ วัดต่าง ๆ และนำไปสู่การปรับตัวเข้าสู่โลกปัจจุบัน รวมถึงพุทธพาณิชย์ เรื่องนี้ในมุมมองส่วนตัวเห็นว่าเป็นปัญหามาก เพราะมีคนอ้างว่า การแก้ชงเป็นความเชื่อของคนจีน ไม่เกี่ยวกับพุทธ ในทางกลับกันการแก้ชงหลายครั้งกลับทำโดยพระและใช้วัดประกอบพิธีกรรม
3. ปีชงที่เคยมีแค่ปีตรงข้ามนักษัตร ปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น
เริ่มแรกปีชงจะเกิดในปีนักษัตรเดียวในรอบปีเท่านั้น ถ้าชงกับปีนักษัตรใดก็จะได้รับผลกระทบในปีเดียว ไม่มีการแบ่งสัดส่วนไปปีนักษัตรอื่น ปัจจุบันมีการลดหลั่นกันเป็นระบบ ขยายชงไปยังปีนักษัตรอื่นให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
4. การนับปีชงด้วยหลักธาตุทั้ง 5 ถูกลืมเลือนไป
ความเชื่อปีชงสมัยก่อน ต้องพิจารณาธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ไม้ ทอง ควบคู่ไปด้วย เช่น เราอาจจะอยู่ปีชง แต่ธาตุไม่ชงก็ได้ เช่น ปีนี้เป็นปีมะเส็งธาตุน้ำ แต่คนที่รับผลกระทบหนักสุดคือ ปีกุนธาตุไฟที่นับเป็นปีชง เพราะอยู่ในธาตุแพ้ทาง ปัจจุบันนับแค่ปีนักษัตรอย่างเดียว
5. ช่วงเวลาแก้ชง หมดความหมายไปในปัจจุบัน
สมัยก่อนการแก้ชงมักทำหลังตรุษจีน เพราะถือเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านปี และต้องคำนึงวันฤกษ์ที่เหมาะสมในการแก้ชง แต่ปัจจุบันแก้ชงได้ทุกเวลา ไม่จำกัดแบบแต่ก่อน ไม่ยึดติดกับช่วงเวลามงคลตามตำราจีนอีกต่อไป
6. ผู้ดำเนินพิธีกรรมแก้ปีชงจำกัดลงกว่าแต่ก่อน
การแก้ชงสมัยก่อน ทำได้ตามบ้านเรือนทั่วไป ขอแค่มีผู้รู้พิธีดำเนินการให้ถูกต้องก็พอ แต่ปัจจุบันการแก้ชง จำกัดอยู่ตามสถานที่กำหนดไว้ ขั้นตอนก็ตามที่ผู้เชี่ยวชาญในสถานที่นั้นเป็นผู้กำหนด
7. การแก้ปีชงเพื่อความสบายใจ กลายเป็นการขอพรเทพเจ้า
ในอดีตผู้ที่ตกปีชง ถ้าไม่สะดวกใจในการแก้ชง ก็สามารถพกฮู้หรือยันต์ เครื่องรางจีนเสริมดวง รวมถึงอาศัยการทำดี มีสติ ในการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังได้ แต่ปัจจุบันกลายเป็นข้อบังคับ ต้องแก้ไขด้วยการกราบไหว้สักการะเทพเจ้า เพื่อขอความช่วยเหลือ ผ่อนหนักให้เป็นเบา ตรงนี้ก็เป็นปัญหามาก บางคนไม่มีทุนทรัพย์แต่อยู่ในปีชง ก็ไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อความสบายใจใด ๆ ได้
8. โปยหยี่สี่เถียว ตามตำราจีน ไม่มีชงร่วม
ชีวิตคนเราในรอบ 12 ปี จะมีแค่ 1 ปีที่ต้องระวัง มีสติ ไม่ประมาท คนจีนปีชงคือปีที่ปะทะหรือชนกัน เช่น มะโรง 2567 หรือ มังกรธาตุไม้ ชง 100% มีแค่ปีเดียวคือปีจอ ไม่มีชงร่วมแบบที่หมอดูบางคนบอก
นอกจากนี้ แพรรี่ ไพรวัลย์ ยังบอกอีกว่า รณรงค์ให้เลิกปีชงร่วมจากหมอดูทั้งหลาย ทำคนจิตตกจิตใจย่ำแย่ ชงทุก 3 ปีอย่างนี้ก็ไม่ไหว โปรดหาเงินเข้าวัด ขายวัตถุมงคลด้วยวิธีอื่น เพราะตำราจีน 1,000 ปี ไม่มีชงร่วม
หมอลักษณ์ แจง คุณมีสิทธิ์ไม่เชื่อ แต่อย่าไปด้อยค่าใครว่าโง่
กรรมกรข่าว คุยนอกจอ มีการสัมภาษณ์ หมอลักษณ์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ผมก็ทำทุกปีอยู่ ถามว่าเชื่อไหม ผมก็ปฏิบัติตามที่บรรพบุรุษและครูบาอาจารย์แนะนำให้ทำ สบายใจ แล้วมันก็ไม่ได้มาเน้นตรงเชื่อ ไม่เชื่อ ขอแค่สบายใจก็จบ ผมเองก็ตกใจตรงที่เขาไปสร้างกระแสของคนรุ่นใหม่ ไปด้อยค่า ผมก็เป็นห่วง คุณคิดเป็นสิทธิ์ของคุณ คุณมีสิทธิ์ไม่เชื่อ ทุกคนมีสิทธิ์ไม่เชื่อ แต่ไม่ใช่ไปว่าเขาโง่
เฟซบุ๊ก Chavalit Laohaudomphan - ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ของ พ.ต.ต. ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ อดีต สส.พรรคก้าวไกล โพสต์ถึงประเด็นนี้ว่า ปีชงเป็นพุทธหรือตรงข้ามพุทธ ไม่ต้องเถียงกัน เพราะพิสูจน์ได้ไม่ยาก สามารถอ่านคัมภีร์ของพุทธในเว็บรวมพระไตรปิฎกได้ แล้วจะเห็นกับตาตัวเองว่า พระพุทธเจ้าสอนว่าอย่างไรในเรื่องฤกษ์ยาม เนื้อหาพระไตรปิฎกส่วนนี้สั้น ๆ จะขอยกมาไว้ที่นี่เลยละกันนะครับ
"นักขัตตัง ปฏิมาเนนตัง อัตโถ พาลัง อุปัจจคา (คนโง่มัวแต่นับฤกษ์นับยามก็เลยพลาดสิ่งที่ดีงามเพราะไม่ได้ทำ)
อัตโถ อัตถัสสะ นักขัตตัง (ฤกษ์ดีก็คือถ้าทำแล้วเกิดประโยชน์นั่นแหละคือฤกษ์ดี)
กึง กริสสันติ ตารกา (ดวงดาวทั้งหลายจะมาทำอะไรเราได้)"
ดังนั้นอย่าให้ศักยภาพของคุณถูกกักขังด้วยการรอฤกษ์ยาม ไม่ว่าจะปีชงหรือฤกษ์ไม่ดี ก็อย่าเสียความมั่นใจว่า สิ่งที่ทำอยู่มันผิดฤกษ์ผิดยามหรือไม่ จงพกสติปัญญาอันเต็มเปี่ยม สร้างผลลัพธ์อย่างยอดเยี่ยมในทุก ๆ ปี ทุกเวลา
ขอบคุณข้อมูลจาก กรรมกรข่าว คุยนอกจอ
ดราม่าร้อนระอุประจำวันนี้ที่หลายคนจับตามอง เป็นการไฝว้กันระหว่างแพรรี่ ไพรวัลย์ กับ หมอลักษณ์ ฟันธง ประเด็นเกี่ยวกับการแก้ชง ซึ่งทางแพรรี่มองว่า ปีชงมีไว้หลอกคนโง่ ทำให้ทุกข์แล้วเสียเงินให้วัด ส่วนทางหมอลักษณ์ ก็ฟาดกลับ บอกว่า มันเป็นความเชื่อฝั่งจีน อย่าพูดเพ้อเจ้อเอามัน และมีถ้อยคำที่เป็นลักษณะเหยียดเพศ
อ่านข่าว : แพรรี่ ไพรวัลย์ ฟาด ปีชงมีไว้หลอกคนโง่ ทำให้ทุกข์แล้วเสียเงินให้วัด อย่าหลงเชื่อมาร์เกตติ้ง
อ่านข่าว : หมอลักษณ์ เดือด ! ด่าคนให้ร้ายปีชงมีไว้หลอกคนโง่ ซัดไม่มีความรู้ เพ้อเจ้อเอามันส์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร
ล่าสุด วันที่ 11 มกราคม 2567 เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร มีการโพสต์เรื่องประเด็นปีชงเพิ่มเติม พร้อมพาดหัวเอาไว้ว่า "หมอดูบอกอะไรคุณไม่หมดบ้าง เกี่ยวกับปีชง" จากนั้นก็เข้าสู่เนื้อหา ระบุว่า ความเชื่อเรื่องปีชงมีรากฐานความเชื่อพื้นบ้านของจีนที่ผสานความเชื่อหลักคิดขงจื้อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภูตผีปีศาจ สิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ ซึ่งอยู่คู่สังคมจีนอย่างยาวนานจนซึมลึกกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม รวมถึงมีรากฐานจากลัทธิเต๋าด้วย ดังนั้น จึงขอสรุปเราควรรู้อะไรเกี่ยวกับปีชง
1. ปีชงของชาวจีนไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ ๆ
แนวคิดของชาวจีนคือ ปีชงสามารถส่งผลได้ทั้งบวกและลบ การแก้ชงคือการนำสิ่งเลวร้ายออกไป เสริมสิริมงคลแก่ชีวิต แต่ปัจจุบันปีชงเหลือแต่ความหมายด้านลบ ตกหล่นด้านเสริมดวงชะตาไปพอสมควร
2. สถานที่แก้ไขปีชงมีความเปลี่ยนแปลง
เดิมนั้นสามารถแก้ชงที่ไหนก็ได้ แต่ปัจจุบันต้องแก้ชงที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีน เช่น ศาลเจ้า วัดจีน เป็นต้น บางครั้งก็แผ่ขยายไปยังศาสนสถานต่าง ๆ วัดต่าง ๆ และนำไปสู่การปรับตัวเข้าสู่โลกปัจจุบัน รวมถึงพุทธพาณิชย์ เรื่องนี้ในมุมมองส่วนตัวเห็นว่าเป็นปัญหามาก เพราะมีคนอ้างว่า การแก้ชงเป็นความเชื่อของคนจีน ไม่เกี่ยวกับพุทธ ในทางกลับกันการแก้ชงหลายครั้งกลับทำโดยพระและใช้วัดประกอบพิธีกรรม
3. ปีชงที่เคยมีแค่ปีตรงข้ามนักษัตร ปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น
เริ่มแรกปีชงจะเกิดในปีนักษัตรเดียวในรอบปีเท่านั้น ถ้าชงกับปีนักษัตรใดก็จะได้รับผลกระทบในปีเดียว ไม่มีการแบ่งสัดส่วนไปปีนักษัตรอื่น ปัจจุบันมีการลดหลั่นกันเป็นระบบ ขยายชงไปยังปีนักษัตรอื่นให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
4. การนับปีชงด้วยหลักธาตุทั้ง 5 ถูกลืมเลือนไป
ความเชื่อปีชงสมัยก่อน ต้องพิจารณาธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ไม้ ทอง ควบคู่ไปด้วย เช่น เราอาจจะอยู่ปีชง แต่ธาตุไม่ชงก็ได้ เช่น ปีนี้เป็นปีมะเส็งธาตุน้ำ แต่คนที่รับผลกระทบหนักสุดคือ ปีกุนธาตุไฟที่นับเป็นปีชง เพราะอยู่ในธาตุแพ้ทาง ปัจจุบันนับแค่ปีนักษัตรอย่างเดียว
5. ช่วงเวลาแก้ชง หมดความหมายไปในปัจจุบัน
สมัยก่อนการแก้ชงมักทำหลังตรุษจีน เพราะถือเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านปี และต้องคำนึงวันฤกษ์ที่เหมาะสมในการแก้ชง แต่ปัจจุบันแก้ชงได้ทุกเวลา ไม่จำกัดแบบแต่ก่อน ไม่ยึดติดกับช่วงเวลามงคลตามตำราจีนอีกต่อไป
6. ผู้ดำเนินพิธีกรรมแก้ปีชงจำกัดลงกว่าแต่ก่อน
การแก้ชงสมัยก่อน ทำได้ตามบ้านเรือนทั่วไป ขอแค่มีผู้รู้พิธีดำเนินการให้ถูกต้องก็พอ แต่ปัจจุบันการแก้ชง จำกัดอยู่ตามสถานที่กำหนดไว้ ขั้นตอนก็ตามที่ผู้เชี่ยวชาญในสถานที่นั้นเป็นผู้กำหนด
7. การแก้ปีชงเพื่อความสบายใจ กลายเป็นการขอพรเทพเจ้า
ในอดีตผู้ที่ตกปีชง ถ้าไม่สะดวกใจในการแก้ชง ก็สามารถพกฮู้หรือยันต์ เครื่องรางจีนเสริมดวง รวมถึงอาศัยการทำดี มีสติ ในการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังได้ แต่ปัจจุบันกลายเป็นข้อบังคับ ต้องแก้ไขด้วยการกราบไหว้สักการะเทพเจ้า เพื่อขอความช่วยเหลือ ผ่อนหนักให้เป็นเบา ตรงนี้ก็เป็นปัญหามาก บางคนไม่มีทุนทรัพย์แต่อยู่ในปีชง ก็ไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อความสบายใจใด ๆ ได้
8. โปยหยี่สี่เถียว ตามตำราจีน ไม่มีชงร่วม
ชีวิตคนเราในรอบ 12 ปี จะมีแค่ 1 ปีที่ต้องระวัง มีสติ ไม่ประมาท คนจีนปีชงคือปีที่ปะทะหรือชนกัน เช่น มะโรง 2567 หรือ มังกรธาตุไม้ ชง 100% มีแค่ปีเดียวคือปีจอ ไม่มีชงร่วมแบบที่หมอดูบางคนบอก
นอกจากนี้ แพรรี่ ไพรวัลย์ ยังบอกอีกว่า รณรงค์ให้เลิกปีชงร่วมจากหมอดูทั้งหลาย ทำคนจิตตกจิตใจย่ำแย่ ชงทุก 3 ปีอย่างนี้ก็ไม่ไหว โปรดหาเงินเข้าวัด ขายวัตถุมงคลด้วยวิธีอื่น เพราะตำราจีน 1,000 ปี ไม่มีชงร่วม
หมอลักษณ์ แจง คุณมีสิทธิ์ไม่เชื่อ แต่อย่าไปด้อยค่าใครว่าโง่
กรรมกรข่าว คุยนอกจอ มีการสัมภาษณ์ หมอลักษณ์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ผมก็ทำทุกปีอยู่ ถามว่าเชื่อไหม ผมก็ปฏิบัติตามที่บรรพบุรุษและครูบาอาจารย์แนะนำให้ทำ สบายใจ แล้วมันก็ไม่ได้มาเน้นตรงเชื่อ ไม่เชื่อ ขอแค่สบายใจก็จบ ผมเองก็ตกใจตรงที่เขาไปสร้างกระแสของคนรุ่นใหม่ ไปด้อยค่า ผมก็เป็นห่วง คุณคิดเป็นสิทธิ์ของคุณ คุณมีสิทธิ์ไม่เชื่อ ทุกคนมีสิทธิ์ไม่เชื่อ แต่ไม่ใช่ไปว่าเขาโง่
เฟซบุ๊ก Chavalit Laohaudomphan - ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ของ พ.ต.ต. ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ อดีต สส.พรรคก้าวไกล โพสต์ถึงประเด็นนี้ว่า ปีชงเป็นพุทธหรือตรงข้ามพุทธ ไม่ต้องเถียงกัน เพราะพิสูจน์ได้ไม่ยาก สามารถอ่านคัมภีร์ของพุทธในเว็บรวมพระไตรปิฎกได้ แล้วจะเห็นกับตาตัวเองว่า พระพุทธเจ้าสอนว่าอย่างไรในเรื่องฤกษ์ยาม เนื้อหาพระไตรปิฎกส่วนนี้สั้น ๆ จะขอยกมาไว้ที่นี่เลยละกันนะครับ
"นักขัตตัง ปฏิมาเนนตัง อัตโถ พาลัง อุปัจจคา (คนโง่มัวแต่นับฤกษ์นับยามก็เลยพลาดสิ่งที่ดีงามเพราะไม่ได้ทำ)
อัตโถ อัตถัสสะ นักขัตตัง (ฤกษ์ดีก็คือถ้าทำแล้วเกิดประโยชน์นั่นแหละคือฤกษ์ดี)
กึง กริสสันติ ตารกา (ดวงดาวทั้งหลายจะมาทำอะไรเราได้)"
ดังนั้นอย่าให้ศักยภาพของคุณถูกกักขังด้วยการรอฤกษ์ยาม ไม่ว่าจะปีชงหรือฤกษ์ไม่ดี ก็อย่าเสียความมั่นใจว่า สิ่งที่ทำอยู่มันผิดฤกษ์ผิดยามหรือไม่ จงพกสติปัญญาอันเต็มเปี่ยม สร้างผลลัพธ์อย่างยอดเยี่ยมในทุก ๆ ปี ทุกเวลา