พบแล้ว สาเหตุชายพิการถูกตัดสิทธิ์ เหมือนหนังคนละม้วน ยิ่งสาวประวัติยิ่งฉาว แม่มาเล่าเอง !

          แม่ชายพิการถูกตัดสิทธิ์ เผยลูกหายไปหลายปีไม่ติดต่อ อบต. ช่วยหาวีลแชร์-อุปกรณ์ทำกิน สุดท้ายเผ่นหนี พบประวัติทำร้าย-ขู่ฆ่าพ่อ
          จากกรณี นายมณฑล เพ็ชรสังข์ อายุ 48 ปี ชาว ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ชายพิการ ถูกตัดสิทธิ์เบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท ตั้งแต่ปี 2563 รวมทั้งไม่มีบัตรประชาชน ตัดสินใจโยกรถสามล้อจากสุโขทัย มุ่งหน้ากรมบัญชีกลาง กรุงเทพฯ เพื่อไปทวงสิทธิของตัวเอง โดยหลังเป็นข่าวได้มีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายพยายามเข้าให้ความช่วยเหลือ แต่เจ้าตัวปฏิเสธ ก่อนจะมีเรื่องโต้เถียงหนักหลังตำรวจนำรถสามล้อที่เสียหายไปซ่อมให้ จนเจ้าหน้าที่ต้องนำรถมาคืนให้นั้น

อ่านข่าว : ชายพิการถูกตัดสิทธิ์ โวยเดือดโดน จนท. ยึดรถสามล้อ หลังโยกจากสุโขทัยมุ่งหน้าเข้า กทม.

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 มีการเปิดเผยกล้องจากหน้ารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขับดูแลความปลอดภัยให้ชายพิการขณะเดินทางผ่านพื้นที่ ปรากฏว่าช่วงหนึ่งเจ้าตัวเกิดอาการโมโห และขี่รถพุ่งชนรถตำรวจจนรถสามล้อได้รับความเสียหาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำรถสามล้อไปช่วยซ่อม แต่เจ้าตัวโวยวายและจ่อแจ้งความเรื่องโดนยึดรถตามที่ปรากฏเป็นข่าว


          นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ว่า ทางกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือ พก. เข้าพูดคุยกับชายพิการรายดังกล่าวแล้ว และจะเชิญไปอยู่ที่สำนักงาน พม. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อพูดคุยและตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงปัญหาหรือสาเหตุที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทราบว่าชายพิการไม่ได้อยู่ในภูมิลำเนาจังหวัดสุโขทัย มานานกว่า 2 ปีแล้ว ทำให้ถูกถอดออกจากบัญชีคนพิการของจังหวัดสุโขทัย ซึ่งทาง พก. จะไปตรวจสอบและดูว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้ได้อย่างไรบ้าง

          นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เผยว่า ข้อมูลจาก พม. และจากการสอบถามข้อมูลในพื้นที่ทราบว่า นายมณฑล เคยมีบัตรประจำตัวคนพิการ แต่ขณะนี้ตรวจสอบในระบบข้อมูลไม่พบชื่อ ที่ผ่านมาเคยได้รับเบี้ยยังชีพคนพิการ แต่ย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านไป กำลังตรวจสอบว่าเหตุใดชื่อในระบบข้อมูลจึงหายไป และต่อมาอำเภอศรีสัชนาลัย ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่แล้ว ปรากฏข้อมูลพบเหตุส่วนตัวบางประการที่เป็นเหตุให้ถูกตัดสิทธิ์คนพิการ ซึ่งตนย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือผู้พิการรายดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป

แม่เผย ลูกหายไปกลับมาสภาพพิการ ก่อนหนีไปปี 62 ไม่เคยติดต่อกลับ

          ด้าน นางประเทือง อายุ 71 ปี แม่ของนายมณฑล ชายพิการ เปิดเผยว่า ลูกชายมาอยู่ที่บ้านได้เพียง 2-3 ปี และก่อนจะหายตัวไปช่วงปี 2562 ไม่เคยติดต่อทางบ้าน กระทั่งมาเห็นในข่าว ก่อนหน้านี้ลูกก็หายตัวไปนานตั้งแต่ออกจากโรงเรียน บอกว่าไปทำงาน จนกลับมาบ้านในสภาพพิการ และก็หายตัวไปเมื่อปี 2562 ดังกล่าว ทำให้ไม่ค่อยรู้เรื่องลูกชายมากนัก เพราะเจ้าตัวไม่ยอมติดต่อทางบ้านทำให้ไม่ทราบข่าวคราว  

          ขณะที่ นายณรงค์ ธุรี นายก อบต.แม่สำ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้นายมณฑล กลับมาบ้านในสภาพพิการเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ตนเองในขณะนั้นเป็นรองนายก อบต. อยู่ ได้ทำเรื่องคนพิการให้พร้อมนำรถวีลแชร์ไปมอบให้พร้อมกับอุปกรณ์ในการทำมาหากินเลี้ยงชีพ เป็นพวกเครื่องไม้เครื่องมือในการแกะสลักงานไม้ เนื่องจากนายมณฑลมีฝีมืองานช่างด้านนี้เพื่อหาเลี้ยงชีพ แต่ต่อมาเจ้าตัวก็ไม่เห็นสนใจอะไรมากมาย ก่อนจะหายตัวไปจากหมู่บ้านไป ไม่มีการติดต่อทางบ้านหรือทาง อบต. ในเรื่องของเบี้ยยังชีพคนพิการ จนกระทั่งไปโผล่ที่อ่างทองตามที่เป็นข่าว

นายอำเภอเผยเจ้าตัวปฏิเสธให้ช่วย พบเป็นคนใจร้อน ทำร้าย ขู่ฆ่าพ่อ

          นายเอกสิฏฐ์ วิไลศิลป์ นายอำเภอศรีสัชนาลัย เผยว่า จากการประสานไปทางหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง พบตัวนายมณฑล ล่าสุดพบตัวอยู่ในพื้นที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่พยายามพูดคุยเกลี้ยกล่อมจะพาตัวขึ้นรถกลับมายัง จ.สุโขทัย เพื่อทำเรื่องให้ได้รับสิทธิคนพิการและช่วยเหลือดูแลในด้านต่าง ๆ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมขึ้นรถกลับสุโขทัยแถมยังนิ่งเฉยไม่พูดไม่จา

          จากการสอบข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า นายมณฑลไม่ยอมอยู่บ้านหายตัวไปไม่มีการติดต่อ เพราะทะเลาะกับพ่อ มีการทำร้ายพ่อ และหายตัวออกจากบ้านไป สำหรับอุปนิสัยส่วนตัวทราบว่าเป็นคนใจร้อนอารมณ์รุนแรงทะเลาะกับครอบครัวหลายครั้งจนกระทั่งหายตัวไป

สาเหตุชวดได้เบี้ยคนพิการเพราะเคยโดนหมายจับ  

          นอกจากนี้ มีรายงานข้อมูลว่า นายมณฑล เคยอาศัยอยู่บ้านใน ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย จริง และต่อมา ปี 2563 ก็ออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นโดยไม่มีใครทราบเนื่องจากเจ้าตัวไม่ยอมบอก ประกอบกับมีปัญหาทะเลาะกับครอบครัว นายมณฑล เป็นคนมีอารมณ์รุนแรงเคยขู่ฆ่าบิดามารดาหลายครั้ง


          จากนั้นเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 นายมณฑล ติดต่อขอทำบัตรประชาชนที่สำนักทะเบียน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนแจ้งว่าไม่สามารถออกบัตรได้ เนื่องจากในข้อมูลทะเบียนราษฎรของนายมณฑล ปรากฏหมายจับที่ สน.บางซื่อ ในคดีอาญา ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2559 สถานะข้อมูลดำเนินการย้ายเข้าทะเบียนบ้านกลาง

อำเภอแจงอีกมุม ยินดีช่วยแต่เจ้าตัวหายไป ปัดกลับมาทำบัตรประชาชน

          เจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนอำเภอศรีสัชนาลัย สอบถามนายมณฑล เจ้าตัวแจ้งว่า เคยถูกดำเนินคดีไปแล้ว เมื่อสอบถามหาใบบริสุทธิ์ เจ้าตัวแจ้งว่าเอกสารสูญหาย เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ไปติดต่อ สภ.ศรีสัชนาลัย เพื่อให้ประสานขอหลักฐานแสดงคดีถึงที่สุดกับทาง สน.บางซื่อ เพื่อใช้เป็นหลักฐานปลดล็อกทะเบียนราษฎร และยังแจ้งกับนายมณฑลว่า เมื่อถึง สภ.ศรีสัชนาลัย แล้วให้โรงพักโทร. ติดต่อกลับมาสอบถามที่สำนักทะเบียนอำเภอ เพื่ออธิบายข้อเท็จจริงให้ทราบ และเมื่อได้รับเอกสารหลักฐานแล้ว ให้กลับมาติดต่อสำนักทะเบียนฯ  เพื่อดำเนินการต่อไป แต่ปรากฏว่าในวันดังกล่าว ไม่มีการติดต่อกลับมา

          นายอำเภอ ยังบอกว่า พยายามอธิบาย แนะนำให้นายมณฑลเข้าใจ แต่ไม่ยอมฟังและยืนยันจะไปกรมบัญชีกลางให้ได้ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยระยะทางที่นายมงคลเดินทางผ่าน ในเวลาต่อมา ทางกระทรวงมหาดไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดแล้ว ก็เปิดสิทธิ์ให้ในกรณีพิเศษ โดยพบว่ามีการตรวจเช็กเรื่องใบบริสุทธิ์แล้ว จึงยอมเปิดสิทธิให้สามารถทำบัตรประชาชนได้ เจ้าหน้าที่ พยายามแนะนำและบอกกับนายมณฑลแล้ว ว่าให้กลับมาทำบัตรประชาชน แต่นายมณฑลไม่ยินยอม

          ขณะที่ฝั่งของ นายมณฑล ชี้แจงประเด็นว่าในเมื่อได้รับเอกสารแล้ว ทำไมยังยืนยันที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ระบุว่า ตั้งใจจะไปแฉ และบอกว่าจะให้กระทรวง พม. ปลดป้ายลง เพราะชื่อที่ติดอยู่สวยหรู แต่กลับไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลย ตนต้องการเป็นตัวแทนในการไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ เพื่อทวงสิทธิ์ให้กับกลุ่มผู้เปราะบาง 

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้