ส่งฟ้อง 5 ผู้บุกรุก คดีเพื่อนบ้านยึดบ้าน แจ้ง 3 ข้อหา หลบสื่อหลังได้ประกัน ด้าน ซัน เตือนใครพยานเท็จเจออีกคดี เผยเอาไงต่อกับหลังนี้
จากกรณี ซัน และ อาย หลานชายและหลานสะใภ้ของ "อากู๋เหมทัศน์" ได้ของขวัญแต่งงานเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ในซอยรามอินทรา 58 แต่บ้านกลับมีคนเข้ามาอยู่อาศัย ต่อเติมบ้าน ซึ่งหลังเป็นข่าวแรก ๆ มีการย้ายออกไปและพยายามขอซื้อบ้านหลังนี้ต่อในราคาที่ไม่สมเหตุสมผล ก่อนที่ไม่นานนี้ เพื่อนบ้านกลับบุกเข้าไปอยู่ในบ้านอีกครั้ง และเดินหน้าฟ้องปรปักษ์บ้านกับเจ้าของบ้าน พร้อมขึ้นป้ายอ้างว่าได้รับการครอบครองปรปักษ์อย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้งที่ศาลยังไม่ตัดสิน
ต่อมา นายซัน พร้อม ทนายกุ้ง ทีมทนายความของ ทนายเดชา เข้าแจ้งความเพิ่มเติมกับผู้บุกรุก ก่อนพาตำรวจเข้าไปเป็นพยานในการตัดกุญแจบ้านของตัวเองที่ถูกเพื่อนบ้านล็อกไว้ และเก็บของกลางในบ้านทั้งอุปกรณ์ทำครัว เฟอร์นิเจอร์ โซฟา ที่นอน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งนอกจาก ซัน จะแจ้งข้อหากับเพื่อนบ้าน ยังจ่อฟ้องเรียกค่าเช่าย้อนหลัง 6 ปีอีกด้วย
อ่านข่าว : ซัน ทวงคืนบ้านตัวเอง ปลดป้าย-พังกุญแจ ชัดนะว่าใครคือเจ้าของ ขึ้นป้ายใหม่จี๊ดใจเพื่อนบ้าน
อ่านข่าว : ไขคำตอบของคำถาม ทำไมต้องด่าคนครอบครองปรปักษ์ ทั้งที่อยู่มาเกิน 10 ปี แบบถูกกฎหมาย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 รายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจนำตัวผู้ต้องหา 5 คน ที่ถูกแจ้งข้อหาบุกรุก ลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ นำตัวส่งสำนักงานอัยการมีนบุรี ซึ่งพบว่าทั้ง 5 คน แต่งกายปิดหน้าปิดตาอย่างมิดชิด โดยไม่มีใครยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อแต่อย่างใด
โดยในวันเดียวกัน คุณซัน
เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัวทั้ง 5 คน
เพราะรู้สึกว่าฝั่งคู่กรณีกล้ามาบุกรุกบ้านถึง 2 ครั้ง
อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ล่าสุดมีรายงานว่า 5 ผู้บุกรุก บ้านอากู๋ ได้รับการให้ประกันตัวโดยปราศจากหลักทรัพย์ ทั้งหมดพร้อมทนายความรีบเดินขึ้นรถโดยไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน
ขณะที่ ข่าวช่องวัน สอบถาม คุณซัน เปิดใจว่า คดีนี้เป็นคดีตั้งแต่ปี 2566 ครั้งนั้นผู้ต้องหากลุ่มนี้ยืนยันกับตนว่าจะคืนบ้านให้ และตนก็ได้เข้าไปล็อกบ้านตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2566 แต่เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ตนเข้าไปเช็กบ้านกลับพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาบุกรุกเข้ามาอยู่อีกรอบ ยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่มีการไกล่เกลี่ย เพราะผู้ต้องหาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวกฎหมาย
ส่วนบ้านหลังดังกล่าว ตนยังไม่ได้เข้าไปอยู่ เนื่องจากตอนนี้อยู่ระหว่างทำเรื่องขอไฟฟ้าและน้ำประปา และยังติดขัดเรื่องที่ คู่กรณีเข้ามารีโนเวตบ้านบางส่วน ซึ่งคดียังอยู่ในชั้นศาล แต่หากคดีสิ้นสุด ตนก็ตั้งใจจะรีโนเวตก่อน ส่วนจะปล่อยเช่าหรือขายก็ขอปรึกษากับอากู๋อีกครั้ง แต่ยืนยันจะไม่ขายให้กับคู่กรณี มั่นใจว่าฝ่ายตนซึ่งเป็นเจ้าของบ้านจะชนะคดี เพราะบ้านหลังนี้เป็นทรัพย์สินบ้านของครอบครัวอย่างชอบธรรม ที่ผ่านมาครอบครัวตนไม่เคยไปยุ่งอะไรกับคู่กรณี มีเพียงอีกฝ่ายเข้ามายุ่งกับทรัพย์สินครอบครัวเองตน
ส่วนเรื่องการเดินหน้าเอาผิด ที่จริงคดีนี้มีผู้ต้องหามากกว่า 5 คน แต่เป็นเพราะความเมตตาจึงเอาผิดแค่คนหลัก ๆ เท่านั้น ส่วนพยานบุคคล ที่เป็นพยานให้คู่กรณีก่อนหน้านี้ ทนายจะเป็นคนครวจสอบ หากพบว่าเป็นพยานเท็จก็จะฟ้องทั้งหมดไม่ละเว้น เพราะตนเองมั่นใจในพยานหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าคู่กรณีเข้ามาครอบครองบ้านของตนไม่เกิน 10 ปี
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์, ข่าวช่องวัน
