เปิดข้อความสุดเศร้าจากคุณ นุ ส่งถึงอาย ก่อนที่จะมาเสียชีวิต ยอมรับไม่ได้ตอบกลับเพราะยังโกรธ แต่ตอนนี้อโหสิกรรม ด้านทนายเดชา ดึงสติทนายวัฒนา จากตอนแรกกำลังจะไกล่เกลี่ยได้ กลับบอกให้ฝั่งคุณนุสู้คดี ทำให้ลูกความเครียดจนตายหรือเปล่า
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
จากกรณีการเสียชีวิตของ นุ ภานุมาศ ผู้บุกรุกจากข่าวครอบครองปรปักษ์อันโด่งดัง ซึ่งทางทนายความของนุอ้างว่า นุมีความเครียดจากคดี อันเนื่องมาจากทางซันและอาย ได้ใช้สื่อกดดัน
อ่านเพิ่มเติม ทนายของนุ อ้าง อากู๋ใช้สื่อกดดัน บีบคดีครอบครองปรปักษ์ จนนุจบชีวิตตัวเอง เจอโต้กลับไฟลุกท่วม
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
ด้านรายการ เรื่องเด่นเย็นนี้ รายงานเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ว่า นุ ภานุมาศ น่าจะเสียชีวิตประมาณเช้ามืด หลังจากที่ญาติมาเจอศพตอน 08.00 น. ซึ่งทางอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู คาดว่า นุน่าจะเพิ่งเสียชีวิตประมาณ 4 ชั่วโมง และญาติก็ได้เอาร่างของนุลงมาแล้ว และญาติก็บอกว่า นุมีความเครียด ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากเรื่องคดี และนุก็บริจาคร่างกายเอาไว้แล้ว ไม่ทราบว่าจะมีการตอบรับเรื่องการบริจาคร่างกายหรือไม่
หลังจากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. คุณซัน ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรื่องนี้ที่สำนักงานทนายความของทนายเดชา และมีการเผยว่า ก่อนหน้านี้ สามีของนุได้มีความพยายามที่จะเข้าพบอากู๋เหม เจ้าของบ้านตัวจริงและมีชื่อในโฉนด ว่าอยากจะใช้เงินเยียวยา รวมถึงการถอนฟ้องครอบครองปรปักษ์ แต่เมื่อมีนายวัฒนา ทนายคนใหม่เข้ามา ทุกอย่างกลับเกิดการกลับตาลปัตร และทางทนายวัฒนาได้บอกให้บ้านของคู่กรณีเข้าไปยึดบ้านของอากู๋เหมอีกรอบ ฟ้องปรปักษ์ต่อ จนคดีดังขึ้นมาอีกครั้ง ไปแนะนำเขาทั้ง ๆ ที่พยานหลักฐานไม่พอ
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
ข้อความสุดท้ายจาก นุ ส่งถึง อาย เจ้าของบ้านแต่ไม่มีการตอบกลับ - ยันไม่ได้ใช้สื่อกดดัน ทนายฝั่งนุต่างหากต้องพิจารณาตัวเอง
นอกจากนี้ ก่อนที่คุณนุจะตาย ยังได้ส่งแชตมาหาอายเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ว่า "ยังไงก็คิดว่าทำบุญให้คนป่วยแบบพี่ด้วยนะคะ" ซึ่งทางคุณอายไม่ได้ตอบ เพราะทางคุณอายและคุณซันยังโกรธที่มีการบุกรุกรอบ 2 และคุณนุยังมีการส่งข้อความไปให้ทนายความในสำนักงานของทนายเดชา
ก่อนหน้านี้ ทางคุณนุได้พยายามขอเข้ามาไกล่เกลี่ยตลอด เบื้องต้นคุณซันก็ขอแสดงความเสียใจกับคุณนุ ทางเราก็พร้อมที่จะเจรจาและไกล่เกลี่ยในศาล ทุกคนก็ช็อก แต่ประเด็นที่ทางคุณวัฒนา ทนายของฝั่งโน้น มาบอกว่า ทางคุณซันได้ใช้สื่อกดดันจนคุณนุฆ่าตัวตาย พูดแบบนี้ตนก็ไม่โอเค ฝั่งคุณนุเครียด ฝั่งตนก็เครียด หมือนกัน และคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
นอกจากนี้ นายเอ๋ พลกฤต สามีของนุ ยังได้ส่งข้อความมาหาคุณซัน และมีการกล่าวขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น คุณพลกฤตพยายามขอเข้ามาพูดคุยเรื่องการถอนฟ้องปรปักษ์ โดยให้คุณศรีพรรณและทนายความไปถอนฟ้อง ซึ่งทางคุณซันมองว่าเรื่องนี้มันอยู่ในชั้นศาลแล้ว และคุณซันเองก็ยังคงโกรธเพราะว่าเหตุการณ์มันต่อเนื่อง แต่อย่างไรเราก็อโหสิกรรมอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ ทางฝั่งคุณนุบอกว่าอยากถอนฟ้องปรปักษ์ และจะถอนก่อนที่จะเจรจาเมื่อตรวจสอบก็พบว่ายังไม่มีการถอนฟ้องแต่อย่างใด
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
ทนายเดชา เผย ตอนแรกเรื่องจะจบ จะไกล่เกลี่ยได้ ทนายคนใหม่กลับบอกให้สู้ นำมาสู่ความเครียดจนตาย
ทนายเดชาเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางฝั่งนั้นมีทนายอีกชุดที่ทำคดีให้ และทนายชุดนี้ก็ไม่มีใครแนะนำให้สู้คดี ไม่แนะนำให้ฟ้องครอบครองปรปักษ์ และการเจรจาไกล่เกลี่ยก็เกือบจะสำเร็จแล้ว แต่ทนายวัฒนา ทนายคนใหม่ บอกให้สู้หรือเปล่า ทั้งที่พยานหลักฐานไม่พอ ทางฝั่งคุณนุเข้าครอบครองบ้านตั้งแต่ประมาณปี 2560 รวมระยะเวลาประมาณ 6-7 ปี ซึ่งการครอบครองปรปักษ์ต้องครอบครอง 10 ปีขึ้นไป
คุณพลกฤต สามีของนุ และเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา, สามีของนางมาลี ก็เคยมาเจอกับทนายเดชา และมาด้วยความสำนึกผิด และยินดีที่จะให้การรับสารภาพในชั้นศาล หากเป็นการรอลงอาญาทางฝั่งนั้นก็พร้อมที่จะสารภาพ และสามีของนุก็อยากติดต่อหาอากู๋ เพื่อเข้าไปกราบอากู๋ แต่ทางฝั่งอากู๋ก็ไม่ยอมและโกรธอยู่ เนื่องจากเข้าไปบุกรุกถึง 2 รอบ
เรื่องการใช้สื่อเป็นเครื่องมือนั้น การไปแจ้งความแล้วสื่อถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งรู้กันดีว่าหากแจ้งสื่อจะทำให้ตำรวจทำงานเร็วขึ้น ทนายวัฒนาพูดแบบนี้ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีศีลธรรม ไม่จรรยาบรรณ และทนายวัฒนาต้องถามตัวเองว่า นุฆ่าตัวตายเพราะทนายวัฒนาหรือเปล่า
ทนายเดชายังบอกว่า ตนยังเอาสำนวนการฟ้องให้คู่กรณี และบอกว่าให้เอาพยาน หลักฐาน สำนวนนี้ไปถามทนายคนอื่นดู ว่าจะพอมีทางสู้ได้ไหม ซึ่งทางทนายคนอื่นมาเห็นก็ต้องบอกว่ามันสู้ไม่ได้ และอย่าลืมว่าตอนติดคุก ลูกความติดคุก ไม่ใช่ทนายติดคุก