เมียบอกข่าวดีกับผัว ตั้งท้องลูกคนที่ 3 อุ่นใจผัวหันมาดูแลดี เตือนให้ดื่มน้ำมาก ๆ ไม่คาดคิดจะเจอความจริงสะพรึงจากวงจรปิด ทุกความดีเป็นแค่กับดัก
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 5 มีนาคม 2567 เว็บไซต์ HK01 รายงานเรื่องราวของคู่สามีภรรยาชาวอเมริกัน จากรัฐเทกซัส สหรัฐฯ ที่แต่งงานอยู่กินกันมา 11 ปี และมีลูกด้วยกันแล้ว 2 คน อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ภรรยาบอกข่าวดีกับสามีเรื่องการตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 อยู่ ๆ เขาก็เริ่มทำดีกับเธอมากขึ้น ใส่ใจเตือนเธอให้ดื่มน้ำมาก ๆ แต่ภรรยาไม่คิดเลยว่านั่งจะเป็นการหวังดีประสงค์ร้าย และเธอก็เพิ่งได้รู้ความจริงสุดสะพรึงจากภาพวงจรปิดในบ้าน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2565 คู่สามีภรรยา มาสัน และ แคเธอรีน เฮอร์ริ่ง เริ่มมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์หลังจากแต่งงานกันมานาน 11 ปี ฝ่ายสามีซึ่งเป็นทนายความจึงเสนอให้ทั้งคู่แยกกันอยู่ แต่หลังจากนั้น 1 สัปดาห์แคเธอรีนกลับพบว่าตัวเองตั้งครรภ์อีกครั้ง จึงได้บอกข่าวนี้ให้สามีทราบ ด้วยเหตุนี้เขาจึงตกลงที่จะพยายามรักษาชีวิตสมรสร่วมกันอีกครั้ง โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าจริง ๆ ผู้เป็นสามีไม่แฮปปี้กับการตั้งครรภ์ของเธอสักนิด
แคเธอรีนเล่าว่า ในตอนนั้นทุกอย่างดำเนินไปตามปกติในชีวิตแต่งงาน ทั้งคู่ยังไปเที่ยววันหยุดด้วยกันเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ ระหว่างนั้นสามียังมักจะบอกเธอว่า ทุกอย่างโอเค ไม่ต้องกังวลอะไร เขาจะปรับปรุงตัวเองและทุกอย่างก็จะเรียบร้อย
ช่วงนั้นคู่สามีภรรยาและลูกที่ยังเล็กทั้ง 2 คน เพิ่งจะย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังใหม่ด้วยกัน พวกเขายังอยู่ระหว่างตกแต่งบ้านและเลือกเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ขณะที่มาสันนั้นเริ่มแสดงท่าทีใส่ใจร่างกายภรรยามากขึ้น ในเดือนมีนาคมปีนั้น เขายังพยายามเอาใจภรรยาด้วยการนำอาหารเช้าและน้ำมาให้เธอ เขาเตือนให้เธอดื่มน้ำมาก ๆ ย้ำว่าเธอต้องดื่มน้ำให้หมดแก้วเขาจึงจะยอมออกไป
ตอนนั้นแคเธอรีนสังเกตเห็นว่าน้ำมีสีค่อนข้างขุ่น แต่มาสันโทษว่าเป็นเพราะน้ำประปาสกปรกเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงดื่มน้ำไป โดยไม่คิดว่าจะพบกันฝันร้ายตามมา
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อเห็นจากกล้องวงจรปิดว่าสามีออกไปทิ้งขยะ เธอก็ตามไปเช็กดูจนเจอซองบรรจุยาที่มีส่วนผสมทำให้เกิดการแท้ง หลังจากนั้นเธอจึงจ้างคนมาติดกล้องรูเข็มบริเวณห้องครัว ซึ่งในวันเดียวกันนั้นเองสามีก็กลับมาที่บ้านแล้วทำเครื่องดื่มให้เธออีก สิ่งที่เขาทำถูกกล้องจับภาพได้ชัดเจน พบว่าหลังจากเทน้ำส้มลงในแก้วแล้ว มาสันก็หยิบถุงซิปล็อกที่บรรจุยาที่บดเป็นผงแล้วมาเทผสมลงในแก้วนั้น
"ปริมาณที่เขาใช้นั้นน่าตกใจมาก คุณเห็นมันได้เลย ปริมาณยาหนาครึ่งนิ้วถึง 1 นิ้ว สำหรับเครื่องดื่มแต่ละแก้ว" แคเธอรีน กล่าว
แคเธอรีนเสียใจมากที่ได้เห็นคลิปดังกล่าว และชี้ว่าสามีไม่ได้วางยาเธอเพียง 1-2 ครั้ง แต่หลังจากครั้งแรกที่ทำให้เธอป่วยหนัก กล้องสามารถบันทึกภาพขณะที่เขาวางยาเธอได้อีกถึง 6 ครั้ง และนั่นก็กลายมาเป็นหลักฐานในการเอาผิดสามีของตัวเอง
ทั้งนี้ มาสันยอมรับสารภาพว่าจงใจทำให้เกิดอันตรายต่อแม่และเด็ก ทำให้เขาถูกพิพากษาโทษจำคุกนาน 180 วัน และถูกควบคุมความประพฤติ 10 ปี ขณะที่การหย่าร้างของมาสันและแคเธอรีนอยู่ระหว่างกระบวนการในชั้นศาล อย่างไรก็ตาม แคเธอรีนยังมองว่าโทษจำคุก 180 วันนั้นยังไม่เพียงพอ
เธอเผยว่าลูกสาวของเธอคลอดก่อนกำหนด 10 สัปดาห์ และต้องอยู่ในโรงพยาบาลนานกว่า 3 เดือนหลังคลอด เธอไม่คิดว่าโทษจำคุก 180 วัน จะยุติธรรมแล้วสำหรับคนที่พยายามฆ่าลูกของตัวเองถึง 7 ครั้ง ภายในช่วงเวลา 2 เดือน
ขอบคุณข้อมูลจาก HK01
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2565 คู่สามีภรรยา มาสัน และ แคเธอรีน เฮอร์ริ่ง เริ่มมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์หลังจากแต่งงานกันมานาน 11 ปี ฝ่ายสามีซึ่งเป็นทนายความจึงเสนอให้ทั้งคู่แยกกันอยู่ แต่หลังจากนั้น 1 สัปดาห์แคเธอรีนกลับพบว่าตัวเองตั้งครรภ์อีกครั้ง จึงได้บอกข่าวนี้ให้สามีทราบ ด้วยเหตุนี้เขาจึงตกลงที่จะพยายามรักษาชีวิตสมรสร่วมกันอีกครั้ง โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าจริง ๆ ผู้เป็นสามีไม่แฮปปี้กับการตั้งครรภ์ของเธอสักนิด
แคเธอรีนเล่าว่า ในตอนนั้นทุกอย่างดำเนินไปตามปกติในชีวิตแต่งงาน ทั้งคู่ยังไปเที่ยววันหยุดด้วยกันเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ ระหว่างนั้นสามียังมักจะบอกเธอว่า ทุกอย่างโอเค ไม่ต้องกังวลอะไร เขาจะปรับปรุงตัวเองและทุกอย่างก็จะเรียบร้อย
ช่วงนั้นคู่สามีภรรยาและลูกที่ยังเล็กทั้ง 2 คน เพิ่งจะย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังใหม่ด้วยกัน พวกเขายังอยู่ระหว่างตกแต่งบ้านและเลือกเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ขณะที่มาสันนั้นเริ่มแสดงท่าทีใส่ใจร่างกายภรรยามากขึ้น ในเดือนมีนาคมปีนั้น เขายังพยายามเอาใจภรรยาด้วยการนำอาหารเช้าและน้ำมาให้เธอ เขาเตือนให้เธอดื่มน้ำมาก ๆ ย้ำว่าเธอต้องดื่มน้ำให้หมดแก้วเขาจึงจะยอมออกไป
ตอนนั้นแคเธอรีนสังเกตเห็นว่าน้ำมีสีค่อนข้างขุ่น แต่มาสันโทษว่าเป็นเพราะน้ำประปาสกปรกเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงดื่มน้ำไป โดยไม่คิดว่าจะพบกันฝันร้ายตามมา
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
หลังดื่มน้ำแก้วนั้น
แคเธอรีนก็เริ่มมีอาการเป็นตะคริวและมีเลือดออก
เธอป่วยหนักจนต้องเข้าห้องฉุกเฉิน โชคยังดีที่ทารกในครรภ์ไม่เป็นอะไร
ขณะที่แพทย์เองก็ไม่พบความผิดปกติอย่างอื่นของร่างกายเธอ
ดังนั้นแคเธอรีนจึงเริ่มสงสัยว่าสามีอาจตั้งใจวางยาพิษ
เธอจึงเริ่มเก็บเครื่องดื่มที่เขาเตรียมไว้ให้เธอเป็นหลักฐาน
รวมถึงแอบติดกล้องวงจรปิดไว้นอกบ้าน
เมื่อเห็นจากกล้องวงจรปิดว่าสามีออกไปทิ้งขยะ เธอก็ตามไปเช็กดูจนเจอซองบรรจุยาที่มีส่วนผสมทำให้เกิดการแท้ง หลังจากนั้นเธอจึงจ้างคนมาติดกล้องรูเข็มบริเวณห้องครัว ซึ่งในวันเดียวกันนั้นเองสามีก็กลับมาที่บ้านแล้วทำเครื่องดื่มให้เธออีก สิ่งที่เขาทำถูกกล้องจับภาพได้ชัดเจน พบว่าหลังจากเทน้ำส้มลงในแก้วแล้ว มาสันก็หยิบถุงซิปล็อกที่บรรจุยาที่บดเป็นผงแล้วมาเทผสมลงในแก้วนั้น
"ปริมาณที่เขาใช้นั้นน่าตกใจมาก คุณเห็นมันได้เลย ปริมาณยาหนาครึ่งนิ้วถึง 1 นิ้ว สำหรับเครื่องดื่มแต่ละแก้ว" แคเธอรีน กล่าว
แคเธอรีนเสียใจมากที่ได้เห็นคลิปดังกล่าว และชี้ว่าสามีไม่ได้วางยาเธอเพียง 1-2 ครั้ง แต่หลังจากครั้งแรกที่ทำให้เธอป่วยหนัก กล้องสามารถบันทึกภาพขณะที่เขาวางยาเธอได้อีกถึง 6 ครั้ง และนั่นก็กลายมาเป็นหลักฐานในการเอาผิดสามีของตัวเอง
ทั้งนี้ มาสันยอมรับสารภาพว่าจงใจทำให้เกิดอันตรายต่อแม่และเด็ก ทำให้เขาถูกพิพากษาโทษจำคุกนาน 180 วัน และถูกควบคุมความประพฤติ 10 ปี ขณะที่การหย่าร้างของมาสันและแคเธอรีนอยู่ระหว่างกระบวนการในชั้นศาล อย่างไรก็ตาม แคเธอรีนยังมองว่าโทษจำคุก 180 วันนั้นยังไม่เพียงพอ
เธอเผยว่าลูกสาวของเธอคลอดก่อนกำหนด 10 สัปดาห์ และต้องอยู่ในโรงพยาบาลนานกว่า 3 เดือนหลังคลอด เธอไม่คิดว่าโทษจำคุก 180 วัน จะยุติธรรมแล้วสำหรับคนที่พยายามฆ่าลูกของตัวเองถึง 7 ครั้ง ภายในช่วงเวลา 2 เดือน
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก HK01