วัยรุ่น อายุ 18 พากลุ่มเพื่อนดักไรเดอร์ส่งของ ฉุนปมมาส่งของช้าจนฟาดปากเดือด เจอตัวลั่น "มึงด่าแม่กูทําไม" ก่อนลั่นไก
ภาพจาก ThaiPBS
วันที่ 17 มีนาคม 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ตำรวจ สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เข้าตรวจสอบเหตุ นายอัฐพร อายุ 27 ปี พนักงานส่งพัสดุ โดนยิงบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตขณะถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เหตุเกิดบริเวณสี่แยก ริมถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ 5 ต.ด่านช้าง ที่เกิดเหตุพบรอยเลือด และรถจักรยานยนต์มีถุงใส่ของ แบบพนักงานส่งสินค้าที่ข้างรถ หมวกกันน็อกสีฟ้าตกอยู่ 1 ใบ พร้อมบุหรี่ไฟฟ้าตกห่างที่รถล้มประมาณ 5 เมตร และมีปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสืบสวนทราบว่า เหตุเกิดจากการทะเลาะเรื่องการส่งของนอกเวลาทำการแล้วมีการด่าทอกัน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมภรรยาไปส่งของที่บ้านนางปลา แล้วเกิดการด่าทอ ทำให้ลูกชายไม่พอใจ พาพวก รวม 5 คน เป็นวัยรุ่นอายุระหว่าง 16-18 ปี มาดักรอแล้วรุมทำร้าย ก่อนที่ลูกชายนางปลาจะพูดว่า "มึงมาด่าแม่กูทําไม" จากนั้นได้ชักปืน ยิงใส่ 1 นัด กระสุนเข้าหลัง 1 นัด ภรรยาจึงโทร. หาญาติมารับไปส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ภาพจาก ThaiPBS
ต่อมา ตำรวจติดตามนำตัว นายนิรุตติ์ หรือปืน อายุ 18 ปี พร้อมปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 และเพื่อนอีก 4 คน ประกอบด้วย นายพัชรมน หรืออาร์ม อายุ 18 ปี, นายกิรติศักดิ์ หรือโฟร์ อายุ 18 ปี, นายพรเทพ หรือป๋อ อายุ 16 ปี และนายณัฐพงษ์ หรือบาส อายุ 16 ปี ซึ่งทั้ง 4 รับว่าร่วมกันทำร้ายแต่ไม่ทราบว่านายปืนจะยิงผู้ตาย
ด้าน นางชลาไล อายุ 50 ปี มารดาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกชายทำงานส่งของ บางวันก็จะรับภรรยาไปส่งของด้วย บางครั้งส่งไม่ทันเพราะของเยอะ วันนี้อาจไปส่งของมืดไปหน่อย กรณีนี้มองว่าอีกฝ่ายพฤติกรรมเกินเด็ก แค่ทะเลาะกันแล้วถึงขั้นยิงกันนั้นเกินไป อยากให้เอาเรื่องถึงที่สุด เพราะลูกชายนั้นไม่ใช่คนเกเร ไม่ทำความเดือดร้อน และเพิ่งมีลูกเล็ก อยู่อนุบาล 3 ติดพ่อ วิ่งหาพ่อทุกวัน ตอนนี้ตนยังทำใจไม่ได้
เกี่ยวกับคดีนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทำการตรวจเก็บลายนิ้วมือและเก็บหลักฐานจากกลุ่มผู้ก่อนเหตุไว้เป็นหลักฐานในเบื้องต้น ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนเยาวชนจะได้ดำเนินการสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพต่อไป
ภาพจาก ThaiPBS
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
ภาพจาก ThaiPBS
วันที่ 17 มีนาคม 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ตำรวจ สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เข้าตรวจสอบเหตุ นายอัฐพร อายุ 27 ปี พนักงานส่งพัสดุ โดนยิงบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตขณะถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เหตุเกิดบริเวณสี่แยก ริมถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ 5 ต.ด่านช้าง ที่เกิดเหตุพบรอยเลือด และรถจักรยานยนต์มีถุงใส่ของ แบบพนักงานส่งสินค้าที่ข้างรถ หมวกกันน็อกสีฟ้าตกอยู่ 1 ใบ พร้อมบุหรี่ไฟฟ้าตกห่างที่รถล้มประมาณ 5 เมตร และมีปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสืบสวนทราบว่า เหตุเกิดจากการทะเลาะเรื่องการส่งของนอกเวลาทำการแล้วมีการด่าทอกัน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมภรรยาไปส่งของที่บ้านนางปลา แล้วเกิดการด่าทอ ทำให้ลูกชายไม่พอใจ พาพวก รวม 5 คน เป็นวัยรุ่นอายุระหว่าง 16-18 ปี มาดักรอแล้วรุมทำร้าย ก่อนที่ลูกชายนางปลาจะพูดว่า "มึงมาด่าแม่กูทําไม" จากนั้นได้ชักปืน ยิงใส่ 1 นัด กระสุนเข้าหลัง 1 นัด ภรรยาจึงโทร. หาญาติมารับไปส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ภาพจาก ThaiPBS
ต่อมา ตำรวจติดตามนำตัว นายนิรุตติ์ หรือปืน อายุ 18 ปี พร้อมปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 และเพื่อนอีก 4 คน ประกอบด้วย นายพัชรมน หรืออาร์ม อายุ 18 ปี, นายกิรติศักดิ์ หรือโฟร์ อายุ 18 ปี, นายพรเทพ หรือป๋อ อายุ 16 ปี และนายณัฐพงษ์ หรือบาส อายุ 16 ปี ซึ่งทั้ง 4 รับว่าร่วมกันทำร้ายแต่ไม่ทราบว่านายปืนจะยิงผู้ตาย
ด้าน นางชลาไล อายุ 50 ปี มารดาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกชายทำงานส่งของ บางวันก็จะรับภรรยาไปส่งของด้วย บางครั้งส่งไม่ทันเพราะของเยอะ วันนี้อาจไปส่งของมืดไปหน่อย กรณีนี้มองว่าอีกฝ่ายพฤติกรรมเกินเด็ก แค่ทะเลาะกันแล้วถึงขั้นยิงกันนั้นเกินไป อยากให้เอาเรื่องถึงที่สุด เพราะลูกชายนั้นไม่ใช่คนเกเร ไม่ทำความเดือดร้อน และเพิ่งมีลูกเล็ก อยู่อนุบาล 3 ติดพ่อ วิ่งหาพ่อทุกวัน ตอนนี้ตนยังทำใจไม่ได้
ขณะที่ นางปลา มารดาผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า
ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมาส่งของช่วงประมาณ 18.30 น. และโทร. มาบอกให้ตนมารับของ
แต่ตอนนั้นตนไปกินเลี้ยงงานบวชหลังบ้าน จึงบอกว่าให้มาส่งพรุ่งนี้
แต่ผู้ตายกลับให้ของลับ บอกกูไม่ได้ส่งของแค่บ้านเดียว กูต้องส่งหลายบ้าน
ตนวางโทรศัพท์ไป จากนั้นตนจึงโทร. หาลูกชายเล่าให้ฟัง
จากนั้นตนก็ไม่รู้อะไร เพราะเราไปกินเลี้ยง
ซึ่งตนก็เสียใจกับฝ่ายผู้เสียชีวิต
และได้บอกให้ลูกชายรับผิดชอบสิ่งที่ทำลงไป
เกี่ยวกับคดีนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทำการตรวจเก็บลายนิ้วมือและเก็บหลักฐานจากกลุ่มผู้ก่อนเหตุไว้เป็นหลักฐานในเบื้องต้น ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนเยาวชนจะได้ดำเนินการสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพต่อไป
ภาพจาก ThaiPBS
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3