ฝรั่งถึงกับตกใจ เอาไปถกกันยกใหญ่ รีสอร์ตระดับ 5 ดาวของไทยในภูเก็ต ซื้อรถไฟฟ้า BYD มาใช้รับส่งแขกในโรงแรม แต่รถไฟฟ้ากลับไม่มีประตู เพื่ออะไร แล้วฝนตกล่ะแขกจะไม่เปียกเหรอ มีคนมาตอบแล้ว
วันที่ 19 มีนาคม 2567 ในเว็บไซต์ Reddit ได้มีสมาชิกคนหนึ่ง มาเที่ยวที่รีสอร์ตดังระดับ 5 ดาวแห่งหนึ่งของไทย และเขาก็ประหลาดใจมากจนถึงขั้นต้องถ่ายรูปเก็บไว้ และนำมาโพสต์ลงในสังคมออนไลน์ เพราะรีสอร์ตแห่งนี้ ได้ใช้รถไฟฟ้า BYD Dolphin เพื่อใช้รับส่งแขกในรีสอร์ต ทว่ารถที่จอดเรียงรายดังกล่าว กลับไม่มีประตูสักบาน
"รีสอร์ตที่ผมอยู่ตอนนี้ ใช้รถไฟฟ้าไม่มีประตูเพื่อรับส่งแขกในรีสอร์ต"
ทั้งนี้ ได้เกิดการถกกันใหญ่ว่ารถไฟฟ้าคันดังกล่าว ทำไมถึงไม่มีประตูรถติดมาด้วย บางคนก็คอมเมนต์ทีเล่นทีจริงว่า รถ BYD ไม่ให้ประตูรถมาเหรอ หรือว่าต้องซื้อประตูรถเพิ่ม ?, แล้วเวลาฝนตกจะทำอย่างไร น้ำไม่สาดใส่แขกเหรอ ขนาดรถกอล์ฟ รถตุ๊ก ๆ ยังมีผ้าใบกันฝนเลย ? , รถ SUV ที่ไม่มีประตูนี่ดูแปลกมากนะ บางทีรีสอร์ตอาจพยายามทำให้รถคันนี้ดีกว่ารถกอล์ฟทั่วไปเพื่อที่ต้องการให้ลูกค้าได้สัมผัสอากาศแบบรถกอล์ฟเฉย ๆ
- ทางรีสอร์ตต้องการให้รถนี้มีฟังก์ชั่นแบบรถกอล์ฟทั่วไป ให้ลูกค้าสัมผัสอากาศและบรรยากาศรถกอล์ฟ
- รถคันนี้ให้ความสะดวกสบายกว่ารถกอล์ฟ ด้วยที่นั่งที่กว้างขวางกว่า เมื่อเอาประตูออกจะให้ความรู้สึกคล้ายรถจี๊ป
- จะสังเกตเห็นได้ว่ารถไม่มีป้ายทะเบียน แต่ใช้ชื่อรีสอร์ตติดตรงทะเบียนรถ ดังนั้น รถเหล่านี้จึงเป็นรถส่วนบุคคลที่ใช้ขับขี่ในรีสอร์ตเท่านั้น ไม่ได้เอาไปใช้บนถนน
- ข้อเสียของรถกอล์ฟ คือการที่ต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ และอะไหล่หายาก โดยเฉพาะยางนอกและยางในที่หายากมาก ไม่นับรวมกับการที่รีสอร์ตอาจจะตั้งอยู่บนเกาะ ที่หากรถเสียแล้ว ต้องหาอะไหล่มาเปลี่ยน และมักจะรออะไหล่และต้องรอช่างนาน แต่รถต้องใช้ตลอดและใช้ทุกวัน และในกรณีที่รถเสียพร้อมกัน และรีสอร์ตไม่มีรถรับ-ส่งแขก ต้องให้แขกของรีสอร์ตเดินไปเดินมาในพื้นที่เอง จะส่งผลเสียต่อการบริการอย่างมาก
ดังนั้น การที่รีสอร์ตใช้รถไฟฟ้าแต่ไม่มีประตูแบบนี้ จึงตอบสนองต่อความต้องการและฟังก์ชันการใช้งานมากกว่า เพราะรถไฟฟ้าไม่มีประตูสามารถทำทุกอย่างได้แบบรถกอล์ฟ แต่มีข้อดีคือ รถไฟฟ้ามีแบตเตอรี่ลูกใหญ่ ไม่ต้องชาร์จไฟบ่อย อีกทั้งอะไหล่หาง่ายเพราะสามารถสั่งได้จากผู้ผลิตโดยตรง ยางรถยนต์ก็หาง่ายเพราะสามารถใช้ยางรถยนต์ทั่วไปได้ นอกจากนี้ ด้วยความที่เป็นรถไฟฟ้า ทำให้ไม่มีควัน และเสียงเงียบ และยังเสียยากกว่ารถกอล์ฟ ซึ่งแม้ว่าราคาของรถจะแพงกว่ารถกอล์ฟอยู่มาก แต่การลงทุนซื้อรถไฟฟ้าไม่มีประตูแทนการใช้รถกอล์ฟ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า
"รีสอร์ตที่ผมอยู่ตอนนี้ ใช้รถไฟฟ้าไม่มีประตูเพื่อรับส่งแขกในรีสอร์ต"
ทั้งนี้ ได้เกิดการถกกันใหญ่ว่ารถไฟฟ้าคันดังกล่าว ทำไมถึงไม่มีประตูรถติดมาด้วย บางคนก็คอมเมนต์ทีเล่นทีจริงว่า รถ BYD ไม่ให้ประตูรถมาเหรอ หรือว่าต้องซื้อประตูรถเพิ่ม ?, แล้วเวลาฝนตกจะทำอย่างไร น้ำไม่สาดใส่แขกเหรอ ขนาดรถกอล์ฟ รถตุ๊ก ๆ ยังมีผ้าใบกันฝนเลย ? , รถ SUV ที่ไม่มีประตูนี่ดูแปลกมากนะ บางทีรีสอร์ตอาจพยายามทำให้รถคันนี้ดีกว่ารถกอล์ฟทั่วไปเพื่อที่ต้องการให้ลูกค้าได้สัมผัสอากาศแบบรถกอล์ฟเฉย ๆ
อย่างไรก็ตาม ได้มีคอมเมนต์หนึ่งที่น่าสนใจที่ออกมาพูดถึงการที่รถไฟฟ้าไม่มีประตู ดังนี้
- ทางรีสอร์ตต้องการให้รถนี้มีฟังก์ชั่นแบบรถกอล์ฟทั่วไป ให้ลูกค้าสัมผัสอากาศและบรรยากาศรถกอล์ฟ
- รถคันนี้ให้ความสะดวกสบายกว่ารถกอล์ฟ ด้วยที่นั่งที่กว้างขวางกว่า เมื่อเอาประตูออกจะให้ความรู้สึกคล้ายรถจี๊ป
- จะสังเกตเห็นได้ว่ารถไม่มีป้ายทะเบียน แต่ใช้ชื่อรีสอร์ตติดตรงทะเบียนรถ ดังนั้น รถเหล่านี้จึงเป็นรถส่วนบุคคลที่ใช้ขับขี่ในรีสอร์ตเท่านั้น ไม่ได้เอาไปใช้บนถนน
- ข้อเสียของรถกอล์ฟ คือการที่ต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ และอะไหล่หายาก โดยเฉพาะยางนอกและยางในที่หายากมาก ไม่นับรวมกับการที่รีสอร์ตอาจจะตั้งอยู่บนเกาะ ที่หากรถเสียแล้ว ต้องหาอะไหล่มาเปลี่ยน และมักจะรออะไหล่และต้องรอช่างนาน แต่รถต้องใช้ตลอดและใช้ทุกวัน และในกรณีที่รถเสียพร้อมกัน และรีสอร์ตไม่มีรถรับ-ส่งแขก ต้องให้แขกของรีสอร์ตเดินไปเดินมาในพื้นที่เอง จะส่งผลเสียต่อการบริการอย่างมาก
ดังนั้น การที่รีสอร์ตใช้รถไฟฟ้าแต่ไม่มีประตูแบบนี้ จึงตอบสนองต่อความต้องการและฟังก์ชันการใช้งานมากกว่า เพราะรถไฟฟ้าไม่มีประตูสามารถทำทุกอย่างได้แบบรถกอล์ฟ แต่มีข้อดีคือ รถไฟฟ้ามีแบตเตอรี่ลูกใหญ่ ไม่ต้องชาร์จไฟบ่อย อีกทั้งอะไหล่หาง่ายเพราะสามารถสั่งได้จากผู้ผลิตโดยตรง ยางรถยนต์ก็หาง่ายเพราะสามารถใช้ยางรถยนต์ทั่วไปได้ นอกจากนี้ ด้วยความที่เป็นรถไฟฟ้า ทำให้ไม่มีควัน และเสียงเงียบ และยังเสียยากกว่ารถกอล์ฟ ซึ่งแม้ว่าราคาของรถจะแพงกว่ารถกอล์ฟอยู่มาก แต่การลงทุนซื้อรถไฟฟ้าไม่มีประตูแทนการใช้รถกอล์ฟ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า
