เรื่องฉาววงการแพทย์ เมื่อหมอศัลย์แอบแซ่บลูกค้าที่มาทำจมูก จนทิ้งเมีย ลูกสาววัย 4 ขวบ ไปอยู่กับชู้ เปย์ลูกติด ไม่แลคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา 10 ปี ติดต่อไม่ได้ แถมพ่อแม่ฝ่ายชายยังเข้าข้างลูกอีก
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 8 เมษายน 2567 เฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานว่า คุณแม่ลูกหนึ่งออกมาร้องเรียนว่า สามีที่เป็นศัลยแพทย์แอบคบหากับคนไข้ที่มาเสริมจมูกนานกว่า 1 ปี พอเรื่องแดงถูกจับได้ ก็ทิ้งครอบครัวไปดูแลชู้และลูกติดชู้ ปล่อยให้ภรรยากับลูกสาววัย 4 ขวบอยู่ตามลำพัง ไม่กลับบ้านนานครึ่งปีแล้ว
คุณแม่ลูกหนึ่ง กล่าวว่า ตนแต่งงานกับเขามาแล้ว 10 ปี มีลูกสาว 1 คน ที่ผ่านมาสามีก็ทำตัวดีตลอด ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง กระทั่ง 1-2 ปีที่ผ่านมา สามีเริ่มเที่ยวผู้หญิง ตนจับได้ก็ไม่ว่าอะไร คิดว่าเป็นนิสัยผู้ชายและไม่ได้เลี้ยงดูแบบจริงจัง อย่างไรก็ตาม วันหนึ่ง มีผู้หญิงทักตนมาว่า ตนเป็นภรรยาของหมอศัลยกรรมรายนี้หรือไม่ พร้อมให้ข้อมูลว่า สามีกำลังคบหาเซลส์ขายรถวัย 36 ปีอยู่
ด้วยความสงสัย ตนจ้างนักสืบให้ติดตามหาข้อมูล ทำได้เพียง 2 เดือน อีกฝ่ายคล้ายรู้ตัว จึงย้ายออกจากบ้านเช่าย่านดอนเมือง ลาออกจากงาน และให้สามีตนเป็นคนเลี้ยงดูแทน รวมถึงให้ลูกตัวเองใช้รถมินิคูเปอร์ของสามีด้วย
ขณะเดียวกัน ในเวลานั้น ตนก็ห่างกับสามี เพราะอีกฝ่ายอ้างว่า มาเรียนต่อเฉพาะทาง ต้องอยู่หอของโรงพยาบาล ตนจึงขอให้เอารถมาไว้ที่บ้าน จะได้เอามาใช้ส่งลูก แต่สามีปฏิเสธ บอกว่า ขายไปแล้ว
ความผิดปกตินี้ ทำให้ตนไปสืบจนทราบว่า สามีคบกับหญิงคนนี้ปี 2566
เพราะเป็นลูกค้าศัลยกรรมจมูกที่สามีทำงานอยู่
แต่ไม่แน่ใจว่ารู้จักกันมาก่อนไหม หรือเพิ่งมาคบหาตอนทำศัลยกรรม
หลังจากนั้นเป็นต้นมา สามีก็เริ่มไม่ส่งค่าใช้จ่ายให้ครอบครัว อ้างว่า
ใช้เงินในการเรียนเยอะ
ตนต้องนำเงินเก็บออกมาใช้จนแทบไม่เหลือค่าเทอมลูกแล้ว
ส่วนสามีเองก็ไม่กลับบ้านตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 บล็อกเฟซบุ๊ก
บล็อกไลน์ ติดต่อไม่ได้
ตนเคยคิดจะฟ้องชู้กับสามี แต่ทนายบอกหลักฐานไม่พอ ต้องใช้ภาพมากกว่านี้ และตนก็ยังหาตัวทั้งคู่ไม่เจอ ในเฟซบุ๊กทั้งคู่ก็ไม่เปิดตัวกัน
ครั้งหนึ่ง ตนเคยทักชู้ไป แสดงตัวเป็นภรรยา ทางชู้บอกว่า ไม่ทราบ ให้ตนไปเคลียร์กับสามีเอง แล้วก็บล็อกตนจนติดต่อไม่ได้อีก
ส่วนประวัติของหญิงชู้ ตนทราบว่าเคยมีสามีและลูกติด 2 คน เคยอยู่กันแบบ 3 คนผัวเมียมาก่อน ตอนนั้นหญิงชู้อยู่ในสถานะเมียหลวง พอฝ่ายชายมีคดี หญิงชู้กับเมียอีกคนก็ขอแยกทาง แล้วมาเจอกับสามีตน
เรื่องนี้ตนแจ้งพ่อแม่ของสามีไปแล้ว ทั้งคู่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แถมยังเข้าข้างลูกชายตัวเองอีกด้วย ทั้งที่ตนเป็นภรรยาที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย สิ่งที่ตนต้องการในตอนนี้คือ กลับมาเจรจาและดูแลลูก เพราะลูกสาว 4 ขวบร้องหาพ่อทุกวัน จนตนต้องบอกว่า พ่อตายแล้ว ลูกจะได้ไม่ต้องทรมานทางใจ ร้องหาพ่ออีก
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
คุณแม่ลูกหนึ่ง กล่าวว่า ตนแต่งงานกับเขามาแล้ว 10 ปี มีลูกสาว 1 คน ที่ผ่านมาสามีก็ทำตัวดีตลอด ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง กระทั่ง 1-2 ปีที่ผ่านมา สามีเริ่มเที่ยวผู้หญิง ตนจับได้ก็ไม่ว่าอะไร คิดว่าเป็นนิสัยผู้ชายและไม่ได้เลี้ยงดูแบบจริงจัง อย่างไรก็ตาม วันหนึ่ง มีผู้หญิงทักตนมาว่า ตนเป็นภรรยาของหมอศัลยกรรมรายนี้หรือไม่ พร้อมให้ข้อมูลว่า สามีกำลังคบหาเซลส์ขายรถวัย 36 ปีอยู่
ด้วยความสงสัย ตนจ้างนักสืบให้ติดตามหาข้อมูล ทำได้เพียง 2 เดือน อีกฝ่ายคล้ายรู้ตัว จึงย้ายออกจากบ้านเช่าย่านดอนเมือง ลาออกจากงาน และให้สามีตนเป็นคนเลี้ยงดูแทน รวมถึงให้ลูกตัวเองใช้รถมินิคูเปอร์ของสามีด้วย
ขณะเดียวกัน ในเวลานั้น ตนก็ห่างกับสามี เพราะอีกฝ่ายอ้างว่า มาเรียนต่อเฉพาะทาง ต้องอยู่หอของโรงพยาบาล ตนจึงขอให้เอารถมาไว้ที่บ้าน จะได้เอามาใช้ส่งลูก แต่สามีปฏิเสธ บอกว่า ขายไปแล้ว
ตนเคยคิดจะฟ้องชู้กับสามี แต่ทนายบอกหลักฐานไม่พอ ต้องใช้ภาพมากกว่านี้ และตนก็ยังหาตัวทั้งคู่ไม่เจอ ในเฟซบุ๊กทั้งคู่ก็ไม่เปิดตัวกัน
ครั้งหนึ่ง ตนเคยทักชู้ไป แสดงตัวเป็นภรรยา ทางชู้บอกว่า ไม่ทราบ ให้ตนไปเคลียร์กับสามีเอง แล้วก็บล็อกตนจนติดต่อไม่ได้อีก
ส่วนประวัติของหญิงชู้ ตนทราบว่าเคยมีสามีและลูกติด 2 คน เคยอยู่กันแบบ 3 คนผัวเมียมาก่อน ตอนนั้นหญิงชู้อยู่ในสถานะเมียหลวง พอฝ่ายชายมีคดี หญิงชู้กับเมียอีกคนก็ขอแยกทาง แล้วมาเจอกับสามีตน
เรื่องนี้ตนแจ้งพ่อแม่ของสามีไปแล้ว ทั้งคู่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แถมยังเข้าข้างลูกชายตัวเองอีกด้วย ทั้งที่ตนเป็นภรรยาที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย สิ่งที่ตนต้องการในตอนนี้คือ กลับมาเจรจาและดูแลลูก เพราะลูกสาว 4 ขวบร้องหาพ่อทุกวัน จนตนต้องบอกว่า พ่อตายแล้ว ลูกจะได้ไม่ต้องทรมานทางใจ ร้องหาพ่ออีก
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส