หนุ่มแปลกใจ ไม่เคยได้ยินเสียงเพื่อนบ้านห้องติดกัน จนอยู่ ๆ มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวจากกลุ่มคน รู้ความจริงสะพรึง เพื่อนบ้านไม่ใช่คนเป็น
วันที่ 5 เมษายน 2567 เว็บไซต์ 163.com รายงานเรื่องราวของชายคนหนึ่งชื่อว่า จ้าว ซึ่งอาศัยอยู่ในอาคารที่พักในเมืองหนานถง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ที่ผ่านมาเขาก็ใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่ได้ติดต่อสื่อสารใด ๆ กับเพื่อนบ้าน แต่ความจริงที่ตลอดเวลาชายคนนี้ไม่เคยได้ยินเสียงเพื่อนบ้านเปิดประตูห้องเลยสักครั้ง ทำให้เขาแอบกังวลอยู่บ้าง จนกระทั่งไม่นานมานี้เองที่เขาเพิ่งล่วงรู้ความลับสุดสะพรึงของเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามโดยไม่ทันตั้งตัว
ปรากฏว่าในวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มเข้าสู่ช่วงเทศกาลเชงเม้ง อยู่ ๆ นายจ้าวก็สังเกตว่ามีความเคลื่อนไหวบางอย่างเกิดขึ้นที่ประตูห้องฝั่งตรงข้าม เขาจึงมองลอดตาแมวตรงประตูห้องออกไปดู ก็เห็นว่ามีคน 7-8 คนมายืนกันอยู่เต็มทางเดินหน้าห้องของเพื่อนบ้าน
ด้วยความอยากรู้ นายจ้าวจึงสังเกตดูต่อไปจนกระทั่งคนกลุ่มนั้นเปิดประตูห้อง ทันใดนั้นเองที่เขามองเข้าไปเห็นเทียน 2 เล่มตั้งอยู่ภายในห้องฝั่งตรงข้าม และมีกล่องสีดำอยู่กลางห้อง จากนั้นเมื่อคนกลุ่มนี้โค้งตัวคำนับสิ่งที่อยู่ภายในห้อง ภาพถ่ายสีขาว-ดำก็ปรากฏให้เขาได้เห็น
กลายเป็นว่าแท้จริงแล้วห้องฝั่งตรงข้ามนั้นไม่ได้ถูกเช่าไว้เพื่ออยู่อาศัย แต่มันถูกเช่าไว้สำหรับเก็บอัฐิของผู้ล่วงลับ ให้คนในครอบครัวเข้ามาเคารพศพแทนที่จะนำศพไปเก็บไว้ในโกศ ซึ่งนั่นทำให้นายจ้าวสะพรึงหนักมากที่เพื่อนบ้านของเขาไม่ใช่คนที่ยังมีชีวิต และเขาก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย คิดไม่ออกว่าควรจะทำยังไงต้อจากนี้ดี
อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ของนายจ้าวไม่ใช่เรื่องแปลกในสังคมจีน
โดยจากการสำรวจของนักข่าว Legal Daily ที่เข้าไปสัมภาษณ์ผู้คนจำนวนหนึ่ง
พบว่าผู้สัมภาษณ์หลายคนยอมรับว่ามีห้องที่ถูกใช้สำหรับเก็บอัฐิของผู้ล่วงลับตั้งอยู่ในอาคารพักอาศัยของพวกเขาเช่นกัน
โดยที่บางชั้นหรือบางตึกอาจมีคนตายอาศัยอยู่มากกว่าคนเป็นด้วยซ้ำ
ทำให้ชาวเน็ตหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าการซื้อ-ขายบ้านเชิงพาณิชย์เพื่อใช้เป็นที่เคารพศพผู้ตายแบบนี้เข้าข่ายละเมิดสิทธิเพื่อนบ้านหรือไม่
ขณะเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมาก็มีกรณีของชายคนหนึ่งจากมณฑลหูหนาน ซึ่งย้ายมาทำงานที่มณฑลซานตง และพบกับห้องเช่าราคาถูก เสนอค่าเช่าเพียงครึ่งเดียวของที่พักซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ กันในย่านนั้น เดิมเขาคิดว่าตัวเองดวงดีเจอที่พักดี ๆ แล้วจึงรีบจ่ายเงินมัดจำ แต่ขณะที่กำลังจัดห้องตอนย้ายเข้ามา เขาก็พบว่าหน้าต่างของห้องพักที่อยู่ตึกข้าง ๆ นั้นถูกปิดทึบด้วยอิฐแดงและปูนซีเมนต์
อีกทั้งขณะที่ออกไปข้างนอกในวันหนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียง รปภ. พูดผ่านอินเตอร์คอมว่า "หนุ่มสาวทุกวันนี้ช่างกล้ามาก ๆ พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านที่น่ากลัวแบบนี้ได้โดยไม่กลัวอะไรสักนิด" ซึ่งนั่นทำให้เขาหวนนึกถึงหน้าต่างของบ้านอื่น ๆ ที่ถูกปิดทึบ และเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จนเมื่อสอบถามคนที่เกี่ยวข้องจึงทราบในที่สุดว่าเพราะในอาคารหลังนี้มีห้องที่ใช้เก็บอัฐิผู้ตาย จึงมีค่าเช่าที่ถูกกว่าห้องพักอื่น ๆ ในชุมชนนั้น และสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจย้ายออกใน 2 วัน
ขอบคุณข้อมูลจาก 163.com

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 5 เมษายน 2567 เว็บไซต์ 163.com รายงานเรื่องราวของชายคนหนึ่งชื่อว่า จ้าว ซึ่งอาศัยอยู่ในอาคารที่พักในเมืองหนานถง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ที่ผ่านมาเขาก็ใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่ได้ติดต่อสื่อสารใด ๆ กับเพื่อนบ้าน แต่ความจริงที่ตลอดเวลาชายคนนี้ไม่เคยได้ยินเสียงเพื่อนบ้านเปิดประตูห้องเลยสักครั้ง ทำให้เขาแอบกังวลอยู่บ้าง จนกระทั่งไม่นานมานี้เองที่เขาเพิ่งล่วงรู้ความลับสุดสะพรึงของเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามโดยไม่ทันตั้งตัว
ปรากฏว่าในวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มเข้าสู่ช่วงเทศกาลเชงเม้ง อยู่ ๆ นายจ้าวก็สังเกตว่ามีความเคลื่อนไหวบางอย่างเกิดขึ้นที่ประตูห้องฝั่งตรงข้าม เขาจึงมองลอดตาแมวตรงประตูห้องออกไปดู ก็เห็นว่ามีคน 7-8 คนมายืนกันอยู่เต็มทางเดินหน้าห้องของเพื่อนบ้าน

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ด้วยความอยากรู้ นายจ้าวจึงสังเกตดูต่อไปจนกระทั่งคนกลุ่มนั้นเปิดประตูห้อง ทันใดนั้นเองที่เขามองเข้าไปเห็นเทียน 2 เล่มตั้งอยู่ภายในห้องฝั่งตรงข้าม และมีกล่องสีดำอยู่กลางห้อง จากนั้นเมื่อคนกลุ่มนี้โค้งตัวคำนับสิ่งที่อยู่ภายในห้อง ภาพถ่ายสีขาว-ดำก็ปรากฏให้เขาได้เห็น
กลายเป็นว่าแท้จริงแล้วห้องฝั่งตรงข้ามนั้นไม่ได้ถูกเช่าไว้เพื่ออยู่อาศัย แต่มันถูกเช่าไว้สำหรับเก็บอัฐิของผู้ล่วงลับ ให้คนในครอบครัวเข้ามาเคารพศพแทนที่จะนำศพไปเก็บไว้ในโกศ ซึ่งนั่นทำให้นายจ้าวสะพรึงหนักมากที่เพื่อนบ้านของเขาไม่ใช่คนที่ยังมีชีวิต และเขาก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย คิดไม่ออกว่าควรจะทำยังไงต้อจากนี้ดี
ขณะเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมาก็มีกรณีของชายคนหนึ่งจากมณฑลหูหนาน ซึ่งย้ายมาทำงานที่มณฑลซานตง และพบกับห้องเช่าราคาถูก เสนอค่าเช่าเพียงครึ่งเดียวของที่พักซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ กันในย่านนั้น เดิมเขาคิดว่าตัวเองดวงดีเจอที่พักดี ๆ แล้วจึงรีบจ่ายเงินมัดจำ แต่ขณะที่กำลังจัดห้องตอนย้ายเข้ามา เขาก็พบว่าหน้าต่างของห้องพักที่อยู่ตึกข้าง ๆ นั้นถูกปิดทึบด้วยอิฐแดงและปูนซีเมนต์
อีกทั้งขณะที่ออกไปข้างนอกในวันหนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียง รปภ. พูดผ่านอินเตอร์คอมว่า "หนุ่มสาวทุกวันนี้ช่างกล้ามาก ๆ พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านที่น่ากลัวแบบนี้ได้โดยไม่กลัวอะไรสักนิด" ซึ่งนั่นทำให้เขาหวนนึกถึงหน้าต่างของบ้านอื่น ๆ ที่ถูกปิดทึบ และเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จนเมื่อสอบถามคนที่เกี่ยวข้องจึงทราบในที่สุดว่าเพราะในอาคารหลังนี้มีห้องที่ใช้เก็บอัฐิผู้ตาย จึงมีค่าเช่าที่ถูกกว่าห้องพักอื่น ๆ ในชุมชนนั้น และสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจย้ายออกใน 2 วัน
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก 163.com