ดราม่าไฝว้กันหนักในวงการเที่ยว หลังใบเฟิร์น Bivoyage ออกมาแฉช่างภาพทำเพจดัง นำเที่ยวปากีสถานไม่มีใบอนุญาต แถมยังรับงานซ้อนงานสปอนเซอร์ คนแห่แชร์ - ถล่มเพจยับ วงการทำเพจเที่ยวเมาท์กันแรงมาก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Bivoyage
กำลังเป็นดราม่าคุกรุ่นสุด ๆ ในวงการอินฟลูเอนเซอร์ด้านท่องเที่ยว เมื่อคุณ ใบเฟิร์น จากเพจ Bivoyage ได้ออกมาเผยถึงทริปเที่ยวปากีสถานของเธอกับสามี ซึ่งทริปนี้เป็นทริป 10 วันที่เธอรอคอยมานับ 10 ปี แต่นี่กลับเป็นประสบการณ์ที่แสนเลวร้ายจนเธอไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใคร ไม่ใช่ว่าสถานที่ไม่ถูกใจ แต่เป็นเพราะไกด์นำทางจากทัวร์ไทย ซึ่งมาจากเพจดัง มาหลอกกันเอง !
วันนี้ กระปุกดอทคอม จะมาสรุปเรื่องราวของดราม่านี้ให้ฟังกันค่ะ
ใบเฟิร์น Bivoyage เริ่มเอะใจ จากซื้อทริปส่วนตัว กลายเป็นทริปส่วนรวม ทั้งที่รู้จักกับช่างภาพ
ทั้งนี้ คุณ ใบเฟิร์น จากเพจ Bivoyage มีความฝันจะมาเที่ยวที่ปากีสถานเป็นเวลานับสิบปีแล้ว และที่ตั้งใจไปตอนนี้เพราะหลังจากนี้ คุณใบเฟิร์นและสามีจะเริ่มสร้างครอบครัว การไปเที่ยวที่นี่ไม่สามารถไปกันเองได้ ต้องไปกับบริษัททัวร์ และคุณใบเฟิร์นได้ตัดสินใจติดต่อบริษัททัวร์แห่งหนึ่งในไทย ที่จะไปติดต่อกับทัวร์ฝั่งปากีสถานอีกที จัดเป็นทริปแบบทริปไพรเวตทัวร์ มีลูกทัวร์น้อย ๆ และมีช่างภาพมืออาชีพไปกับทัวร์ 2 ท่าน และหนึ่งในช่างภาพนั้น เป็นบล็อกเกอร์ชื่อดังที่คุณใบเฟิร์นชื่นชอบผลงาน
ด้านคุณใบเฟิร์นและช่างภาพก็พอจะรู้จักกันมาก่อน จึงมีการถามรายละเอียดทริปกัน และคุณใบเฟิร์นได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จากนั้นเพียง 1 วัน ช่างภาพก็ดึงคุณใบเฟิร์นเข้าไลน์กับกลุ่มผู้ร่วมทริปท่านอื่นอีก 9 ท่าน ทำให้ทราบว่าทริปนี้ไม่ใช่ทริปแบบไพรเวตที่เน้นถ่ายรูป แต่เป็นทริปรวมกับคนอื่นแบบทริปใหญ่
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Bivoyage
ใบเฟิร์น Bivoyage เผยถึงปัญหาระหว่างทริป ช่างภาพเอาแต่ถ่ายรูปตัวเอง ไม่สนลูกทัวร์ แถมมาบอกว่าลูกทัวร์บังเฟรม
ทริปดังกล่าวจัดขึ้นในวันที่ 5-15 เมษายน ซึ่งคุณใบเฟิร์นได้ลิสต์ปัญหาต่าง ๆ เอาไว้ ดังนี้
- จากตอนแรกที่ตั้งใจซื้อทัวร์มาเป็นทริปไพรเวตและเน้นถ่ายรูป แต่เมื่อมีคน 9 คนที่ซื้อทัวร์มาจากที่อื่น มารวมกันเพื่อให้เต็มคันรถ ทำให้ไม่สามารถถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ได้อย่างที่ต้องการ เพราะคนเยอะมากต่อ 1 สถานที่
- รูปแบบการเที่ยวเหมือนทัวร์ปกติ ช่างภาพมืออาชีพก็ไม่ได้ช่วยถ่ายรูปให้ลูกทัวร์ เพราะเอาแต่ถ่ายรูปของตัวเอง ซึ่งเป็นการรับงานซ้อนสินค้าของสปอนเซอร์เพื่อรีวิวลงเพจ และเน้นงานสปอนเซอร์มากกว่างานหลัก
- ถ้าช่วงไหนที่ช่างภาพไม่ได้ถ่ายรูปลูกทัวร์ ไม่ได้ถ่ายรูปสปอนเซอร์ ช่างภาพทั้ง 2 คน ก็ถ่ายรูปกันเอง
- ช่างภาพไม่มีมารยาทตอนถ่ายรูป บอกว่าลูกทัวร์ บังเฟรม ขวางเฟรม บอกลูกทัวร์ให้หลบ ทั้งที่ลูกทัวร์ที่จ่ายเงินมาควรได้สิทธิ์ก่อน
ทางคุณเฟิร์นรู้สึกไม่พอใจ เพราะซื้อทัวร์มาแบบไพรเวต และเป็นทริปถ่ายรูป แต่กลับได้รับประสบการณ์ที่แย่มาก จึงมีการเรียกร้องขอเงินส่วนต่างคืน ตอนแรกช่างภาพก็บอกว่จะประสานทางทัวร์ที่ไทยให้ และบอกว่าเงินอยู่ที่ทัวร์ไทย จนกระทั่งถึงวันที่คุณใบเฟิร์นกลับไทย และติดต่อทัวร์ที่ไทย จึงทำให้ทราบว่า ทางทัวร์ที่ไทยไม่ได้จัดการทริปนี้ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ เนื่องจากช่างภาพขอเปลี่ยนทัวร์ทางฝั่งปากีสถาน ซึ่งไม่ใช่พาร์ตเนอร์กับทัวร์ไทย ซึ่งเหตุผลในการเปลี่ยนพาร์ตเนอร์จนไม่สามารถจัดทริปแบบไพรเวตได้ เป็นเพราะช่างภาพกลัวว่าลูกทัวร์จะรู้ว่า ช่างภาพใช้ทัวร์ปากีสถานเจ้าไหน แล้วลูกทัวร์จะไปจองตรงกันเอง หรือถ้าใครได้ราคาดีกว่า แล้วจะมาตัดราคา
คุยกัน 3 ฝ่าย ช่างภาพยอมรับ มาทัวร์นี้เพื่อถ่ายรูปตัวเอง ลูกทัวร์มาเที่ยว 10 วัน ได้มา 2 รูป
จากการประชุมกันทุกฝ่าย ทำให้ได้ข้อสรุปคือ ช่างภาพไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเองอย่างเต็มที่ ลูกทัวร์มีรูปไม่ครบทุกคน ทุกสถานที่ ลูกทัวร์บางคนมาเที่ยว 10 วันได้รูป 2 รูป เพราะช่างภาพมัวแต่ถ่ายรูปเพื่อไปรีวิวในเพจตัวเอง และช่างภาพยังยอมรับว่า พวกเขามาทัวร์นี้ไม่ได้ต้องการมาถ่ายรูปคน แต่ต้องการมาถ่ายรูปวิว แต่ทางบริษัททัวร์ไทยได้แจ้งอย่างชัดเจน และตกลงกับช่างภาพแล้วว่า ต้องให้ถ่ายรูปลูกทัวร์ด้วย จนทำให้เกิดความสับสนว่า ช่างภาพ 2 คนนี้ มาเที่ยวในฐานะอะไร เพราะไม่ได้ทำหน้าที่ช่างภาพ ต้องการกำไรในการจัดทัวร์ แต่เป็นผู้นำทัวร์ไม่ได้ด้วยเพราะไม่มีใบอนุญาต
สุดท้าย ลูกทัวร์ได้เงินคืนจากช่างภาพคนละ 8,400 บาท แต่เทียบกับสิ่งที่เสียไปทั้งเรื่องเวลา ความรู้สึก ประสบการณ์มันแย่มาก ทริปถ่ายรูป 10 ปีต้องล่มสลาย พร้อมกับที่คุณใบเฟิร์นฝากเตือนว่า ถ้าจะซื้อทัวร์ไหนอย่าดูแค่ผลงาน ให้ดูฟีดแบ็กจากผู้ร่วมทริปก่อน ๆ และถามหาใบอนุญาตด้วย
คนชี้เป้าไปที่เพจ Nelson and his Planet จนกระทั่งนิว แฟนเนลสัน ต้องมาขอโทษ แต่ทัวร์ยังลงไม่หยุด
เรื่องนี้กลายเป็นดราม่า จนมีคนชี้เป้าไปที่เพจ Nelson and his Planet ซึ่งเป็นเพจของช่างภาพคนดังกล่าว ซึ่งพบว่า ทันทีที่เขามาถึงไทย เขาก็อัปเดตผลงานผ่านเพจทันที เนลสัน ช่างภาพคนนี้บอกว่า ทริปนี้เป็นทริปที่ตนตั้งใจเดินทาง "ไปดูธรรมชาติอันสวยงาม" จากที่ตนเคยกลัวและไม่มั่นใจในการเดินทางมาปากีสถาน เมื่อได้เดินทางมาครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2023 กำแพงแห่งอคติและความกังวลในใจก็ถูกทำลายลง และตนก็หลงรักประเทศนี้มาก พร้อมกับมีการโฆษณาสินค้าที่ได้รับจากสปอนเซอร์ไว้ด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีคนเข้ามาทวงหารูปลูกค้า ทวงถามใบอนุญาตนำเที่ยว จากทริปถ่ายภาพส่วนตัวกลายเป็นทริปรวมกับคนอื่น จากโพสต์รีวิวที่คนควรเห็นสินค้าของสปอนเซอร์ กลายเป็นสปอนเซอร์ก็โดนทัวร์ลงซ้ำอีก คนเดียวที่ได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้คือช่างภาพ
นอกจากนี้ ยังมีคนไปคอมเมนต์ในรูปเสือดาวหิมะในเพจของเนลสัน ที่ไปถ่ายรูปที่ศูนย์อนุรักษ์ ซึ่งตอนแรกมีคนเข้าใจว่าเป็นการถ่ายเองและออกมามีหิมะตกดูสวยงามมาก แต่กลายเป็นว่าคุณใบเฟิร์นได้ลงรูปเทียบเข้าไป เป็นรูปของเสือดาวหิมะเกาะบนกิ่งไม้ จนทำให้ทางเพจของเนลสันออกมายอมรับว่า ภาพนั้นมีการตกแต่งเพิ่มเติม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Bivoyage