ลุงวัย 50 เดินกลับบ้านเกือบ 700 กม. ถูกโจรกรีดกระเป๋าหมดตัวที่กรุงเทพฯ เจอคำพูด ตร. ซ้ำเติม สุดท้ายมุ่งหน้าถึงอุดรฯ สำเร็จ รับเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีมีคนไปพบชายคนหนึ่งเดินจูงจักรยานข้างถนนสาย อ.หนองหาน-กุมภวาปี บริเวณบ้านหนองบัวแดง ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี จึงเข้าไปสอบถาม ทราบว่าชื่อ นายอู๊ด อายุ 50 ปี ชาวบ้านเมืองนาซำ ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เจ้าตัวบอกเดินเท้าเปล่ามาจากสถานีรถไฟที่กรุงเทพฯ หลังถูกโจรล้วงกระเป๋า ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียวและตั๋วรถไฟก็โดนขโมยไปด้วย จึงต้องเดินเพื่อจะกลับบ้าน
เมื่อมาถึง จ.สระบุรี มี รปภ.ใจดีมอบจักรยานให้ปั่นก็เดินทางมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน จนมีพลเมืองดีมาพบ ต่อมา แอดมินบ้านดุงอัปเดตเข้าช่วยเหลือ นำรถตู้มารับไปส่งถึงบ้าน ท่ามกลางความดีใจของญาติ ๆ ซึ่งญาติบางคนถึงกับช็อกที่ได้เจอนายอู๊ด เพราะนึกว่าตายไปแล้วเนื่องจากติดต่อไม่ได้กว่า 20 วัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 29 เมษายน 2567 เพจเฟซบุ๊กโหนกระแส รายงานว่า บรรยากาศที่บ้านของนายอู๊ด พื้นที่หมู่ 10 บ้านเมืองนาซำ ต.นาไหม พบว่า มีญาติ ๆ และเพื่อนบ้านเดินทางมาเยี่ยมนายอู๊ด พร้อมถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าตัวมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หลังต้องทนเดินและปั่นจักรยานเป็นระยะทางเกือบ 700 กิโลเมตร จนสุดท้ายได้กลับถึงบ้าน
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
นายอู๊ด กล่าวว่า ตนไปทำงานรับจ้างก่อสร้างอยู่ที่บ้านภรรยาที่ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ก็อยากกลับมา จ.อุดรธานี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อมาเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง ก่อนมาภรรยาให้เงินติดตัวมา 1,100 บาท นั่งรถโดยสารจาก อ.บ้านแหลม มาถึงสถานีรถไฟ ช่วงเย็นวันที่ 9 เมษายน ซื้อตั๋วรถไฟซึ่งน่าจะออกประมาณ 21.30 น. จึงไปนอนรอแถวสถานี
ตื่นขึ้นมาปรากฏว่ากระเป๋าสตางค์ถูกฉีก ทั้งเงินทั้งบัตรประชาชน รวมทั้งตั๋วรถไฟหายไปหมด ตนตกใจมาก เดินไปหาตำรวจแถวนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ตำรวจบอกว่า มีปัญญามาก็มีปัญญากลับบ้านได้ ตนเห็นตำรวจพูดแบบนั้นจึงเดินออกมา ตัดสินใจเดินกลับบ้าน เดินเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
หลังเกิดเรื่องตอนแรกตั้งใจว่าจะกลับเพชรบุรี แต่ก็ตัดสินใจไม่กลับ เพราะภรรยาก็ไม่มีเงิน จึงเลือกกลับบ้านที่อุดรธานี ตอนเดินทั้งเหนื่อยทั้งท้อ คิดในใจหิวต้องแวะวัด นอนข้างศาลา กินน้ำที่เหลือตกอยู่ข้างทาง คิดเสมอในใจว่า ยังไงต้องตายบ้านเกิด แม้ขาเดินไม่ไหว แต่ใจต้องสู้ ดีใจที่ได้กลับมาถึงบ้านแล้ว เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ ชาตินี้จะไม่ลืมพระคุณเลย
ด้าน พี่สาวลุงอู๊ด บอกว่า ตอนรู้ว่าน้องชายจะกลับมาเยี่ยมบ้าน ตนก็เฝ้ารอ ผ่านไปวันแล้ววันเล่าก็ไม่เห็น จนภรรยาเขาขึ้นมาวันที่ 17 เมษายน แต่ก็ไม่ได้มากับน้องชาย ตนก็ใจหาย ไปแจ้งความก็แล้ว หาหมอดูก็แล้ว จู่ ๆ โผล่มาบอกว่าถูกล้วงกระเป๋า ไม่มีเงินกลับบ้าน ทุกคนที่เป็นญาติและชาวบ้านก็ดีใจ เหมือนน้องชายตายแล้วเกิดใหม่ ดีใจที่เห็นกลับมาบ้านครบ 32 ประการ
ภาพจาก ข่าวช่อง 3