พระหนีลูกเมียไปบวช 9 ปี หนีความจน กลับมาอยากฟ้องชู้หลังเมียมีสามีใหม่ และอัปเกรดฐานะของตัวเองกลายเป็นร่ำรวย 8 ล้านบาท ทนายเกิดผล ไม่รับว่าความให้ เพราะมันไม่ถูกต้อง แม้สามารถฟ้องได้ก็ตาม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด
วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 เฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด ของนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง มีการโพสต์คดีหนึ่งที่น่าสนใจ หลังมีคนมาว่าจ้างว่า พระภิกษุรูปหนึ่งมาปรึกษาด้านกฎหมายว่า ก่อนมาบวชเป็นพระ ตนมีลูกเมียมาก่อน แต่ฐานะยากจน และมีหนี้พ้นตัว อาหารไม่พอให้ลูกเมียกิน ถ้ามีข้าวสารสำหรับกินได้ 3 คน จะกินได้แค่ 2 วัน แต่ถ้าไปบวช จะเหลือ 2 คน กินได้ 6 วัน
ด้วยความที่กลัวลูกเมียลำบาก จึงทิ้งลูกเมียหนีมาบวชได้ 9 ปีแล้ว ทว่าระหว่างบวชไป 4 ปี ภรรยาก็มีสามีใหม่ หลังจากนั้นชีวิตเธอก็ดีขึ้นถึงขั้นเรียกได้ว่าร่ำรวย ทำให้พระคิดที่จะสึกเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเธออีกครั้ง และสถานะตอนนี้ก็ไม่มีหนี้สินแล้ว ตนอยากทำเพื่อลูก
ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายเกิดผล เปิดเผยว่า คดีนี้พระมาขอคำปรึกษาตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา และตนปฏิเสธการว่าความไปแล้ว เพราะมองว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แม้พระจะมีสิทธิ์ฟ้องหย่าก็ตาม เนื่องจากตามกฎหมาย การสิ้นสุดความเป็นสามีภรรยา มี 3 เงื่อนไข ดังนี้
1. สมัครใจหย่า
2. ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต
3. ศาลพิพากษาให้หย่า ต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดฟ้องร้อง
ความจริงแล้ว การที่หนีไปบวชก็เป็นเหตุให้ภรรยาฟ้องหย่าได้เช่นกัน แต่การที่ไม่ฟ้องกัน เท่ากับว่าการหนีไปบวชเป็นการจงใจละทิ้งอีกฝ่ายหนึ่ง หรือถ้าเกิน 1 ปี ก็เป็นเหตุให้ภรรยาฟ้องหย่าได้ หรือจะถือว่าเป็นการสมัครใจแยกกันอยู่ เกิน 3 ปีก็ฟ้องหย่าได้ ขณะเดียวกัน ภรรยาไปมีชู้ พระก็ฟ้องหย่าได้ แต่ไม่มีใครไปใช้สิทธิ์ตรงนั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน