สลด.. เด็ก 4 ขวบสมองตาย จบชีวิตอันแสนสั้น พบต้นเหตุชวนอึ้งจากนมที่แม่ให้ จนเด็กเป็นเบาหวาน ป่วยตาย เจอดำเนินคดีทั้งพ่อ-แม่
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 25 พฤษภาคม 2567 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานกรณีช็อก เมื่อแม่รายหนึ่งถูกศาลในสหรัฐฯ ตัดสินโทษจำคุกขั้นต่ำ 9 ปี จากการเสียชีวิตของลูกสาววัย 4 ขวบ หลังพบว่าเธอมักจะป้อนนมสูตรพิเศษให้ลูกกิน โดยใช้นมผงผสมกับน้ำอัดลมเมาเท่นดิว แม้เด็กหญิงจะอยู่ในวัยที่ควรหย่านมมานานแล้ว ขณะที่การสอบสวนยังพบความจริงชวนสะเทือนใจ เกี่ยวกับการละเลยเด็กอย่างเลวร้ายของครอบครัวนี้
รายงานเผยว่า ทามาร่า แบงก์ส แม่วัย 41 ปี เคยสูญเสียลูกชายวัย 4 ขวบมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยพบว่าเด็กชายป่วยเป็นโรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย แต่การสูญเสียครั้งนั้นไม่ได้ให้บทเรียนใด ๆ แก่แม่รายนี้ จนกระทั่งในปี 2565 ลูกสาวของทามาร่าก็ได้เสียชีวิตจากไปอีกคน ขณะอายุเพียง 4 ขวบ ซึ่งการเสียชีวิตของเด็กหญิงเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานเช่นกัน
ภาพจาก E.C. Nurre Funeral Home
เด็กหญิงเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเด็กซินซินนาติ สืบเนื่องจากภาวะ DKA (Diabetic Ketoacidosis) หรือภาวะน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับเลือดเป็นกรด อันเป็นภาวะฉุกเฉินที่พบได้ในผู้ป่วยเบาหวาน อาการนี้สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และเด็กหญิงก็แสดงสัญญาณว่ามีปัญหาทางการแพทย์ที่รุนแรงมานานหลายวัน แต่แม่ของเธอกลับเมินเฉย ไม่ได้โทร. ขอความช่วยเหลือจาก 911 จนกระทั่งเห็นลูกสาวตัวซีดและหยุดหายใจ
อัยการเผยว่า ผลการชันสูตรในเวลาต่อมาพบว่าเด็กหญิงเกิดภาวะสมองตาย นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กหญิงต้องทนทุกข์ทรมานจากการปล่อยปละละเลยและทารุณกรรมมาตลอดชีวิตอันแสนสั้น เธอไม่ได้รับทั้งโภชนาการที่เหมาะสม หรือแม้แต่การดูแลทางการแพทย์ ไม่มีหลักฐานใดบ่งบอกว่าเด็กคนนี้เคยถูกพาไปพบทันตแพทย์ อีกทั้งฟันของเธอก็เน่าผุทั้งปากตอนเสียชีวิต
ภาพจาก E.C. Nurre Funeral Home
"นี่เป็นหนึ่งในคดีน่าเศร้าที่สุดที่ฉันเคยเจอ เด็กคนนี้ไม่ควรที่จะต้องตาย" เคลย์ ธาร์ป ผู้ช่วยอัยการ ระบุ
อนึ่ง เครื่องดื่มเมาเท่นดิว ขนาด 20 ออนซ์ มีส่วนผสมของน้ำตาล 77 กรัม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเด็กควรได้รับน้ำตาลน้อยกว่า 24 กรัมต่อวัน
ภาพจาก E.C. Nurre Funeral Home
การเสียชีวิตของเด็กหญิงนำมาสู่การจับกุมและดำเนินคดีพ่อแม่ของเธอ โดยทั้งคู่ได้ให้การรับสารภาพข้อหาฆาตกรรมโดยไม่เจตนา ซึ่งทามาร่าได้รับการพิพากษาจำคุกจากศาลแล้ว ขณะที่สามีของเธออยู่ระหว่างรอพิจารณาคดีในเดือนมิถุนายน 2567
ขอบคุณข้อมูลจาก The New York Post
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 25 พฤษภาคม 2567 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานกรณีช็อก เมื่อแม่รายหนึ่งถูกศาลในสหรัฐฯ ตัดสินโทษจำคุกขั้นต่ำ 9 ปี จากการเสียชีวิตของลูกสาววัย 4 ขวบ หลังพบว่าเธอมักจะป้อนนมสูตรพิเศษให้ลูกกิน โดยใช้นมผงผสมกับน้ำอัดลมเมาเท่นดิว แม้เด็กหญิงจะอยู่ในวัยที่ควรหย่านมมานานแล้ว ขณะที่การสอบสวนยังพบความจริงชวนสะเทือนใจ เกี่ยวกับการละเลยเด็กอย่างเลวร้ายของครอบครัวนี้
รายงานเผยว่า ทามาร่า แบงก์ส แม่วัย 41 ปี เคยสูญเสียลูกชายวัย 4 ขวบมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยพบว่าเด็กชายป่วยเป็นโรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย แต่การสูญเสียครั้งนั้นไม่ได้ให้บทเรียนใด ๆ แก่แม่รายนี้ จนกระทั่งในปี 2565 ลูกสาวของทามาร่าก็ได้เสียชีวิตจากไปอีกคน ขณะอายุเพียง 4 ขวบ ซึ่งการเสียชีวิตของเด็กหญิงเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานเช่นกัน
ภาพจาก E.C. Nurre Funeral Home
เด็กหญิงเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเด็กซินซินนาติ สืบเนื่องจากภาวะ DKA (Diabetic Ketoacidosis) หรือภาวะน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับเลือดเป็นกรด อันเป็นภาวะฉุกเฉินที่พบได้ในผู้ป่วยเบาหวาน อาการนี้สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และเด็กหญิงก็แสดงสัญญาณว่ามีปัญหาทางการแพทย์ที่รุนแรงมานานหลายวัน แต่แม่ของเธอกลับเมินเฉย ไม่ได้โทร. ขอความช่วยเหลือจาก 911 จนกระทั่งเห็นลูกสาวตัวซีดและหยุดหายใจ
อัยการเผยว่า ผลการชันสูตรในเวลาต่อมาพบว่าเด็กหญิงเกิดภาวะสมองตาย นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กหญิงต้องทนทุกข์ทรมานจากการปล่อยปละละเลยและทารุณกรรมมาตลอดชีวิตอันแสนสั้น เธอไม่ได้รับทั้งโภชนาการที่เหมาะสม หรือแม้แต่การดูแลทางการแพทย์ ไม่มีหลักฐานใดบ่งบอกว่าเด็กคนนี้เคยถูกพาไปพบทันตแพทย์ อีกทั้งฟันของเธอก็เน่าผุทั้งปากตอนเสียชีวิต
ภาพจาก E.C. Nurre Funeral Home
"นี่เป็นหนึ่งในคดีน่าเศร้าที่สุดที่ฉันเคยเจอ เด็กคนนี้ไม่ควรที่จะต้องตาย" เคลย์ ธาร์ป ผู้ช่วยอัยการ ระบุ
อนึ่ง เครื่องดื่มเมาเท่นดิว ขนาด 20 ออนซ์ มีส่วนผสมของน้ำตาล 77 กรัม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเด็กควรได้รับน้ำตาลน้อยกว่า 24 กรัมต่อวัน
ภาพจาก E.C. Nurre Funeral Home
การเสียชีวิตของเด็กหญิงนำมาสู่การจับกุมและดำเนินคดีพ่อแม่ของเธอ โดยทั้งคู่ได้ให้การรับสารภาพข้อหาฆาตกรรมโดยไม่เจตนา ซึ่งทามาร่าได้รับการพิพากษาจำคุกจากศาลแล้ว ขณะที่สามีของเธออยู่ระหว่างรอพิจารณาคดีในเดือนมิถุนายน 2567
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก The New York Post