สาวเปิดใจ เหตุยกเลิกงานแต่งแม้จ่ายไป 1.4 ล้าน จุดแตกหักเพราะเอาแมวเธอไปทิ้ง อ้างแมวข่วนรถ แม้ไม่มีหลักฐาน คนอ่านแล้วเดือดแทน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
การที่คู่รักเดินมาจนถึงจุดที่จะแต่งงานกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หลายครั้งที่เราได้เห็นว่าที่บ่าวสาว ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กันก่อนจะได้สร้างครอบครัวสมใจ ทั้งที่มีการเตรียมงานแต่งงานไว้พร้อมแล้ว หรือแม้กระทั่งบอกเลิกทั้งชุดแต่งงาน กลายเป็นข่าวช็อกสำหรับทุกคนที่อยู่รอบตัว
ขณะที่ล่าสุด (4 มิถุนายน 2567) เว็บไซต์มิเรอร์ เพิ่งมีรายงานเรื่องราวของหญิงสาววัย 26 ปี ที่ออกมาบอกเล่าประสบการณ์สุดช้ำ ตัดสินใจยกเลิกงานแต่งงาน แม้จะทุ่มเงินไปกับการจัดงานแล้วถึง 30,000 ปอนด์ (ราว 1.4 ล้านบาท) แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่คิดเสียใจกับการตัดสินใจนี้
หญิงสาวเล่าว่า เธอคบหาดูใจกับคู่หมั้นหนุ่มชื่อ ทอม มานานถึง 7
ปี แม้จะเคยมีสัญญาณเตือนบางอย่างมาตลอดความสัมพันธ์นี้
แต่ฟางเส้นสุดท้ายที่เป็นจุดแตกหักจริง ๆ
ก็คือสิ่งที่เขาทำกับแมวที่เธอเลี้ยงไว้
โดยในเช้าวันหนึ่งตอนที่เธอออกไปซื้อของ อยู่ ๆ หญิงสาวก็ได้รับข้อความจากคู่หมั้น ระบุว่า "ฉันส่งแมวเธอออกไปแล้วนะ"
ตอนแรกเธอยังนึกว่าแมวป่วย เขาเอาไปแมวไปส่งที่คลินิกสัตว์หรือไม่ แต่ถามอะไรไปทอมก็ไม่ตอบ เธอจึงรีบโทร. หาเขาด้วยความตื่นตระหนก และต้องน้ำตาไหลกับสิ่งที่ได้ยิน
"เขาบอกว่าแมวฉันข่วนรถของเขา เขาเลยเอามันไปปล่อยทิ้งไว้ที่สวน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไปราว 8 กิโลเมตร และไม่มีบ้านคนอยู่รอบ ๆ สวนนั้น" หญิงสาวกล่าว เธอไม่พอใจที่คนรักกล้าทำแบบนี้กับแมวที่อยู่กับพวกเธอมาตลอด และมันก็ยังอยู่เคียงข้างพวกเธอแม้แต่ตอนนี้ที่ทอมออกจากกองทัพ ไม่มีงานทำมานานเกือบจะ 8 เดือน
หญิงสาวยอมรับว่าก่อนหน้านี้แมวเคยปีนขึ้นรถของเธอมาแล้ว และทอมก็เคยบอกว่า หวังว่าแมวเธอจะไม่ทำแบบนั้นกับรถของเขาด้วย ตอนนั้นเธอจึงบอกว่าหากมันทำจริงก็ให้มาหาทางออกร่วมกัน เช่นหาอะไรมาคลุมรถ หรืออาจจะหาบ้านใหม่ให้แมวหากจำเป็น
"ทอม คู่หมั้นของฉัน อ้างว่าเขาเดินออกไปนอกบ้านตอนเช้าและเห็นรอยบนรถ เขารู้ว่าต้องเป็นรอยจากแมว เมื่อฉันซักว่าเขารู้ได้ยังไง ทอมก็อ้างว่าเห็นแมวผ่านกล้องวงจรปิด แต่พอฉันขอให้เขาโชว์คลิปนั้นให้ดู เขาก็ปฏิเสธ"
หญิงสาวยอมรับว่าเธอถึงกับน้ำตาไหลเมื่อรู้ว่าคู่หมั้นทำอะไรลงไป เธอรักแมวตัวนี้เหมือนลูก และรับไม่ได้ที่เขาทำแบบนี้กับแมวของเธอ เธอรีบไปตามหามันยังจุดที่เขานำไปปล่อยไว้ และยังกลับไปตรงจุดนั้นตอนตี 4 ของทุก ๆ วันตลอดช่วงเวลา 1 เดือนเต็ม ๆ
เธอพยายามทำทุกอย่างแล้ว ทั้งเดินตามหา เอาชุดที่เธอเคยสวมวันก่อนที่จะเกิดเรื่องไปกองไว้ตรงนั้น ไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างในพื้นที่ รวมถึงฝากเบอร์เธอไว้กับคนที่อาศัยอยู่ใกล้สวนที่สุด แม้แต่เพื่อนกับคนในครอบครัวของเธอก็ยังช่วยกันเดินเข้าป่าไปตามหาแมว ในขณะที่ตัวต้นเรื่องอย่างทอม ไม่เคยช่วยเหลืออะไรทั้งสิ้น
หลังจากที่เธอต้องเสียน้ำตาทุกเช้าตลอด 1 เดือนเต็ม ๆ และไม่มีคำขอโทษใด ๆ จากว่าที่สามี สุดท้ายหญิงสาวก็ตัดสินใจยกเลิกงานแต่งงาน แม้จะจ่ายค่าจัดงานไปแล้วร่วม 30,000 ปอนด์ เธอเก็บข้าวของทั้งหมดออกมา และทิ้งเขาไว้แบบนั้น
ทั้งนี้ หลังจากหญิงสาวออกมาเล่าเรื่องสุดทุกข์ใจดังกล่าว ชาวเน็ตมากมายต่างรู้สึกโกรธแค้นแทน โดยมีหลายคนชี้ว่าสิ่งที่อดีตคู่หมั้นของเธอทำ คือการทารุณกรรมสัตว์ และสิ่งที่เขาทำอาจจะฆ่ามันได้เลย
"สิ่งที่เขาทำคืออาชญากรรม"
"หมอนั่นเป็นแค่คนทารุณกรรมสัตว์ที่มาอาศัยอยู่ฟรี เขาอาจเป็นคนฆ่ามันแล้วด้วย"
"การเอาแมวไปปล่อยที่สวนก็เหมือนการฆ่ามัน ต่อให้มันรอดชีวิตจากนกฮูก จิ้งจอก และสัตว์อื่น ๆ มาได้ ก็คงจะอดตายแน่นอน"
"ไม่ว่าด้วยวิธีการใด เขาเป็นคนฆ่ามัน การเอาแมวไปทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งไม่มีบ้านคนรอบ ๆ แถมเป็นบริเวณที่มันไม่คุ้นเคย เป็นไปได้สูงที่แมวจะตายเพราะเขา"
"ฉันดีใจที่คุณเดินออกมาแล้ว แต่ก็เศร้าใจที่คุณต้องเสียแมวไป"
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุด วันที่ 6 มิถุนายน 2567 เวลา 13.14 น.
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ขณะที่ล่าสุด (4 มิถุนายน 2567) เว็บไซต์มิเรอร์ เพิ่งมีรายงานเรื่องราวของหญิงสาววัย 26 ปี ที่ออกมาบอกเล่าประสบการณ์สุดช้ำ ตัดสินใจยกเลิกงานแต่งงาน แม้จะทุ่มเงินไปกับการจัดงานแล้วถึง 30,000 ปอนด์ (ราว 1.4 ล้านบาท) แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่คิดเสียใจกับการตัดสินใจนี้
โดยในเช้าวันหนึ่งตอนที่เธอออกไปซื้อของ อยู่ ๆ หญิงสาวก็ได้รับข้อความจากคู่หมั้น ระบุว่า "ฉันส่งแมวเธอออกไปแล้วนะ"
ตอนแรกเธอยังนึกว่าแมวป่วย เขาเอาไปแมวไปส่งที่คลินิกสัตว์หรือไม่ แต่ถามอะไรไปทอมก็ไม่ตอบ เธอจึงรีบโทร. หาเขาด้วยความตื่นตระหนก และต้องน้ำตาไหลกับสิ่งที่ได้ยิน
"เขาบอกว่าแมวฉันข่วนรถของเขา เขาเลยเอามันไปปล่อยทิ้งไว้ที่สวน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไปราว 8 กิโลเมตร และไม่มีบ้านคนอยู่รอบ ๆ สวนนั้น" หญิงสาวกล่าว เธอไม่พอใจที่คนรักกล้าทำแบบนี้กับแมวที่อยู่กับพวกเธอมาตลอด และมันก็ยังอยู่เคียงข้างพวกเธอแม้แต่ตอนนี้ที่ทอมออกจากกองทัพ ไม่มีงานทำมานานเกือบจะ 8 เดือน
หญิงสาวยอมรับว่าก่อนหน้านี้แมวเคยปีนขึ้นรถของเธอมาแล้ว และทอมก็เคยบอกว่า หวังว่าแมวเธอจะไม่ทำแบบนั้นกับรถของเขาด้วย ตอนนั้นเธอจึงบอกว่าหากมันทำจริงก็ให้มาหาทางออกร่วมกัน เช่นหาอะไรมาคลุมรถ หรืออาจจะหาบ้านใหม่ให้แมวหากจำเป็น
"ทอม คู่หมั้นของฉัน อ้างว่าเขาเดินออกไปนอกบ้านตอนเช้าและเห็นรอยบนรถ เขารู้ว่าต้องเป็นรอยจากแมว เมื่อฉันซักว่าเขารู้ได้ยังไง ทอมก็อ้างว่าเห็นแมวผ่านกล้องวงจรปิด แต่พอฉันขอให้เขาโชว์คลิปนั้นให้ดู เขาก็ปฏิเสธ"
หญิงสาวยอมรับว่าเธอถึงกับน้ำตาไหลเมื่อรู้ว่าคู่หมั้นทำอะไรลงไป เธอรักแมวตัวนี้เหมือนลูก และรับไม่ได้ที่เขาทำแบบนี้กับแมวของเธอ เธอรีบไปตามหามันยังจุดที่เขานำไปปล่อยไว้ และยังกลับไปตรงจุดนั้นตอนตี 4 ของทุก ๆ วันตลอดช่วงเวลา 1 เดือนเต็ม ๆ
เธอพยายามทำทุกอย่างแล้ว ทั้งเดินตามหา เอาชุดที่เธอเคยสวมวันก่อนที่จะเกิดเรื่องไปกองไว้ตรงนั้น ไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างในพื้นที่ รวมถึงฝากเบอร์เธอไว้กับคนที่อาศัยอยู่ใกล้สวนที่สุด แม้แต่เพื่อนกับคนในครอบครัวของเธอก็ยังช่วยกันเดินเข้าป่าไปตามหาแมว ในขณะที่ตัวต้นเรื่องอย่างทอม ไม่เคยช่วยเหลืออะไรทั้งสิ้น
หลังจากที่เธอต้องเสียน้ำตาทุกเช้าตลอด 1 เดือนเต็ม ๆ และไม่มีคำขอโทษใด ๆ จากว่าที่สามี สุดท้ายหญิงสาวก็ตัดสินใจยกเลิกงานแต่งงาน แม้จะจ่ายค่าจัดงานไปแล้วร่วม 30,000 ปอนด์ เธอเก็บข้าวของทั้งหมดออกมา และทิ้งเขาไว้แบบนั้น
ทั้งนี้ หลังจากหญิงสาวออกมาเล่าเรื่องสุดทุกข์ใจดังกล่าว ชาวเน็ตมากมายต่างรู้สึกโกรธแค้นแทน โดยมีหลายคนชี้ว่าสิ่งที่อดีตคู่หมั้นของเธอทำ คือการทารุณกรรมสัตว์ และสิ่งที่เขาทำอาจจะฆ่ามันได้เลย
"สิ่งที่เขาทำคืออาชญากรรม"
"หมอนั่นเป็นแค่คนทารุณกรรมสัตว์ที่มาอาศัยอยู่ฟรี เขาอาจเป็นคนฆ่ามันแล้วด้วย"
"การเอาแมวไปปล่อยที่สวนก็เหมือนการฆ่ามัน ต่อให้มันรอดชีวิตจากนกฮูก จิ้งจอก และสัตว์อื่น ๆ มาได้ ก็คงจะอดตายแน่นอน"
"ไม่ว่าด้วยวิธีการใด เขาเป็นคนฆ่ามัน การเอาแมวไปทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งไม่มีบ้านคนรอบ ๆ แถมเป็นบริเวณที่มันไม่คุ้นเคย เป็นไปได้สูงที่แมวจะตายเพราะเขา"
"ฉันดีใจที่คุณเดินออกมาแล้ว แต่ก็เศร้าใจที่คุณต้องเสียแมวไป"
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุด วันที่ 6 มิถุนายน 2567 เวลา 13.14 น.
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror