ลือสนั่น มิตซูบิชิ เตรียมหยุดการผลิตรุ่น แอททราจ กับ มิราจ ปิดตำนานอีก 1 ยี่ห้อ Eco Car เมืองไทย ชาวเน็ตวิเคราะห์ รถยนต์ไม่ตอบโจทย์ตลาด สาเหตุทำให้ต้องปิดตัว
ภาพจาก mitsubishi-motors.co.th
ภาพจาก mitsubishi-motors.co.th
ช่วงหลังมานี้มีข่าวการประกาศการหยุดการผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นในไทย 2 เจ้า ทั้งซูซูกิและซูบารุ แต่ยืนยันว่า ในประเทศไทยยังมีรถยี่ห้อดังกล่าวขายอยู่ โดยจะเป็นการนำเข้าจากญี่ปุ่น
อ่านข่าว : ยืนยัน ปิดโรงงานผลิตรถยนต์ซูซูกิในไทย หลังเปิดโรงงานได้ 12 ปี เผยจากนี้จะไปต่อยังไง
อ่านข่าว : ซูบารุ หยุดการผลิตในไทย 30 ธันวาคม 2567 เลิกจ้างพนักงานทั้งหมด แต่ยังมีรถขาย !
วันที่ 16 มิถุนายน 2567 เฟซบุ๊ก Bangkok EV Expo มีการโพสต์ข่าวลือว่า มิตซูบิชิเตรียมหยุดการผลิตรถยนต์รุ่น Mitsubishi Attrage และ Mitsubishi Mirage หลังจากยอดขายตก อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการปลดพนักงานออกจากบริษัท แต่จะเปลี่ยนไปทำตำแหน่งอื่นแทน
ขณะเดียวกัน ปฏิกิริยาของผู้ใช้รถ มิตซูบิชิ แอททราจ ในกลุ่ม มิตซูบิชิแอททราจคลับ (MITSUBISHI ATTRAGE CLUB) ได้บอกว่า ก่อนหน้านี้ก็เหมือนมีสัญญาณที่ไม่ดีมาก่อนหน้านี้ เพราะรถมิซูบิชิ แอททราจ ได้ลดราคาลงมาถึงหลักแสน บางคนก็แสดงความกังวลว่า หากรถที่ใช้อยู่ต้องซ่อมแล้วจะได้รับผลกระทบ หาอะไหล่ไม่ได้ ในขณะเดียวกัน ก็มีคนมาบอกว่า เรื่องอะไหล่ไม่ต้องห่วง เพราะทางโรงงานมีเก็บสต๊อกไว้หลายปี แต่จากนี้รถรุ่นนี้ จะกลายเป็นตำนานต่อไป
วิเคราะห์สาเหตุ โรงงานรถยนต์ในไทย พร้อมใจปิดเพียบ สิ้นมนต์ขลังอีโค่คาร์ ?!
ก่อนหน้านี้ โรงงานซูซูกิ ได้สั่งปิดโรงงานและหยุดสายการผลิตรถยนต์รุ่นดังอย่าง ซูซูกิ สวิฟต์ และ ซูซูกิ ซีอาซ, และซูซูกิ เซลาริโอ และหากข่าวลือเรื่องการปิดสายการผลิตของมิตซูบิชิเป็นจริง ก็จะเท่ากับว่า รถยนต์ Eco Car รุ่นฮิตอย่าง มิตซูบิชิ แอททราจ และ มิตซูบิชิ มิราจ ที่ผลิตในไทยจะหายไปด้วย และทำให้รถยนต์อีโค่คาร์ในไทยเหลือเพียงแค่ไม่กี่รุ่น เช่น Toyota Yaris Ativ, Mazda 2, Nissan Almera
ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทรถยนต์หลายแห่ง ตัดสินใจยุติสายการผลิต หรือกระทั่งปิดโรงงานรถยนต์ Eco Car อันเนื่องมาจากเมื่อ 10 ปีก่อน ได้มีนโยบายรถคันแรก สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่คืนเงินภาษี 100,000 บาท สำหรับรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ไม่เกิน 1.2 ลิตร และรวมถึงรถยนต์ซิตี้คาร์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1.5 ลิตร อันเป็นเหตุให้ค่ายรถหลายแห่ง ดันรถยนต์อีโค่คาร์ออกมาสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมาก มีการเปิดสายการผลิตอีโค่คาร์อย่างเป็นทางการ และตั้งโรงงานกันเป็นล่ำเป็นสัน ทว่าในปัจจุบัน กระแสรถยนต์ไฟฟ้าได้เริ่มเข้ามาสู่ไทย ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนก็มีมาตรการลดภาษีนำเข้า 100% ทำให้รถไฟฟ้าราคาประหยัดออกมาสู่ท้องตลาดมากขึ้น ราคาของรถ Eco Car ใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าง ๆ จึงทำให้หลายคนหันไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่าเพราะประหยัดในระยะยาว ประกอบกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูง แม้ว่าจะเป็นรถอีโค่คาร์แต่ก็ต้องมาเสียค่าน้ำมันแพง และการที่ค่ายรถญี่ปุ่นเริ่มหันไปสนใจในเทคโนโลยีไฮบริดมากขึ้น จึงทำให้รถยนต์โรงงานเครื่องสันดาปในไทย เตรียมทยอยปิดตัวไปอย่างที่เห็น