ครอบครัว 4 คน ทยอยป่วยปริศนาหลังย้ายเข้าบ้านใหม่ อึ้งต้นเหตุอยู่ใกล้ตัว สุดทนบริษัทรีโนเวท เสนอชดเชยให้แค่ 6 แสน ทั้งที่ค่าเฟอร์นิเจอร์ที่มีปัญหา มูลค่าเกือบล้าน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
ครอบครัวที่กำลังตื่นเต้นกับการย้ายเข้าบ้านหลังใหม่
ต้องเผชิญฝันร้ายในเวลาไม่นาน เมื่อจู่ ๆ คนในบ้านเริ่มล้มป่วยกันทีละคน
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากอาถรรพ์ลี้ลับหรือสิ่งเหนือธรรมชาติ
แต่เกิดจากของใกล้ตัวชนิดที่คนในครอบครัวต่างนึกไม่ถึง
และกลายเป็นปัญหาปวดตับที่เจ้าของบ้านต้องจัดการ
รายงานจากเว็บไซต์เอเชียวัน เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2567 เผยว่า ซ่ง หงจุน นักธุรกิจชายวัย 52 ปี ซื้อห้องชุดขนาด 150 ตารางเมตร ที่คอนโดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ไว้เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ก่อนว่าจ้างบริษัท Far East Service Centre ให้ทำการรีโนเวทและตกแต่งห้องชุดดังกล่าว จากนั้นสมาชิกทั้ง 4 คนของครอบครัวก็ย้ายเข้ามาอยู่ที่คอนโดนี้เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2567
ปัญหาเริ่มปรากฏขึ้นในวันเดียวกันนั้น เมื่อลูกสาวอายุ 8 ขวบของเขามีอาการตาแห้งและเจ็บคอ แต่เขากับภรรยาก็ไม่ได้ฉุกคิดอะไร จนกระทั่งคนอื่น ๆ ในบ้านเริ่มมีอาการแบบเดียวกันตามมา ทำให้ภรรยาของเขาตัดสินใจไปหาหมอหลังเจ็บคอจนเสียงหายนานถึง 2 สัปดาห์
จากการตรวจร่างกาย หมอแจ้งว่าอาการของเธอน่าจะเกิดจากการได้รับพิษฟอร์มาลดีไฮด์ (formaldehyde) ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีสถานะเป็นก๊าซ ไม่มีสี มีกลิ่นฉุนรุนแรง สามารถพบได้ในชีวิตประจำวันรวมถึงวัสดุที่ใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เช่น กาว หรือไม้พลาสติก หากมีระดับฟอร์มาลดีไฮด์ในอากาศสูง อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง คอ ปอด และดวงตา หาได้รับพิษในระยะยาวอาจทำให้เสี่ยงต่อสุขภาพอื่น ๆ ตามมา
หลังรู้สาเหตุของอาการป่วย นายซ่งก็แจ้งเรื่องไปยังบริษัทรีโนเวททันที ทางบริษัทส่งพนักงานมาที่คอนโดของเขาเมื่อวันที่ 2 เมษายน เพื่อทดสอบระดับฟอร์มาลดีไฮด์ โดยพบว่าในบรรดาเฟอร์นิเจอร์ 36 ชิ้นในบ้านที่ได้รับการทดสอบ มีเพียง 5 ชิ้นเท่านั้นที่มีค่าต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย แถมในห้องของลูกชายวัย 5 ขวบ พบว่าตู้ลิ้นชักในห้องมีค่าฟอร์มาลดีไฮด์ถึง 4.8 ppm สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ถึง 60 เท่า
ต่อมาบริษัทรีโนเวทเสนอเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อขอให้ครอบครัวของนายซ่งย้ายออก แต่จำนวนเงินที่บริษัทเสนอมาไม่เพียงพอที่ครอบครัวจะย้ายไปพักที่โรงแรมหรูได้ อีกทั้งที่พักชั่วคราวที่ทางบริษัทเสนอมา ก็ไม่ตรงกับมาตรฐานของนายซ่งเช่นกัน
สุดท้ายเมื่อการเจรจามาถึงทางตัน บริษัทก็หยุดตอบคำถามใด ๆ จากนายซ่งตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน นายซ่งจึงตัดสินใจจะยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย และได้ให้ทนายส่งจดหมายไปถึงบริษัท ทำให้ทางบริษัทเสนอว่าจะยกเว้นยอดชำระเงินส่วนที่เหลืออีก 7,800 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 211,000 บาท) รวมถึงจะให้เงินชดเชยแก่นายซ่งจำนวน 23,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 624,000 บาท) และจะส่งคนไปกำจัดฟอร์มาลดีไฮด์ให้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นายซ่งปฏิเสธไม่ขอรับข้อเสนอนั้น โดยชี้ว่าเฉพาะค่าเฟอร์นิเจอร์ก็ปาเข้าไป 33,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 896,000 บาท) แล้ว แถมเขายังต้องจ้างคนมาขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ออกไปด้วย ดังนั้นข้อเสนอจากทางบริษัทจึงไม่มีความจริงใจสักนิด
"พวกเขานอนบนพื้นในห้องนั่งเล่นมาเกือบ 3 เดือนแล้ว ผมซื้อเครื่องฟอกอากาศมา 2 เครื่อง และเปิดหน้าต่างทุกบานเพื่อป้องกันผลกระทบจากฟอร์มาลดีไฮด์" นายซ่ง กล่าว และชี้ว่าเขาได้จ้างบริษัทขนย้ายมารื้อเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดออกไปจากบ้านแล้วเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา และมีแผนจะฟ้องร้องทางบริษัทรีโนเวทต่อไป
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่