รร. เปิดปาก เหตุไฟช็อตนักเรียนดับ ที่จริงเกิดอะไรขึ้น แจงเป็นตู้กดน้ำเก่าไม่ได้ใช้งาน

          โรงเรียนเปิดปาก เหตุไฟช็อตนักเรียนดับ ที่จริงเกิดอะไรขึ้น โต้เรื่องครูใช้ไปกดน้ำ ยันเป็นตู้เก่าใช้งานไม่ได้แล้ว ด้าน ผอ.สพม.13 ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง

          จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ขณะที่นักเรียนชายคนหนึ่งถูกไฟช็อตเสียชีวิต หลังครูใช้ให้นักเรียนไปปิดสวิตช์น้ำ โดยเหตุเกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.ตรัง จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการช่วยเหลือที่ล่าช้านั้น

อ่านข่าว : สลด ไฟช็อต นร. คาตู้ผลิตน้ำดื่มในโรงเรียน คนยืนดูไม่กล้าเข้าช่วย สุดท้ายสิ้นใจ 

          คืบหน้าวันที่ 23 มิถุนายน 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายชัยณรงค์ ช่างเรือ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตรัง กระบี่ ต้นสังกัดของโรงเรียน เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนกันตังรัษฎาศึกษา อ.กันตัง จ.ตรัง เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยจากการสอบถาม ผอ.โรงเรียน ทราบว่าหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง (พฐ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว

          ในวันเกิดเหตุทางผู้บริหารโรงเรียนก็อยู่ในโรงเรียน และมีเจ้าหน้าที่กู้ชีพ-กู้ภัยด้วย เนื่องจากมีการจัดกิจกรรมกีฬาสี พบว่าขณะเกิดเหตุฝนตก ประกอบกับนักเรียนตัวเปียกและมีไฟรั่วบริเวณจุดดังกล่าว จึงไม่มีใครกล้าเข้าไป ต้องรีบสับสวิตช์ไฟก่อนจึงนำนักเรียนออกจากจุดเกิดเหตุได้ จากนั้นจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แต่ปรากฏว่านักเรียนเสียชีวิต
 
          ส่วนประเด็นที่บอกว่ามีครูใช้ให้ไปปิดสวิตช์และให้นักเรียนกดน้ำจากจุดนั้นยังไม่เป็นข้อเท็จจริง ผอ.โรงเรียน ยืนยันว่า ตู้กดน้ำดังกล่าวไม่ได้มีการใช้งานแล้ว เพราะเครื่องมีอายุมากกว่า 10 ปี เพียงแต่เบรกเกอร์จุดรวมไฟติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังตู้ผลิตน้ำพอดี และฝนตกหนักทำให้มีไฟฟ้ารั่วลงกราวนด์ ประกอบกับนักเรียนตัวเปียกอยู่แล้ว เนื่องจากแข่งกีฬาสี และไปเดินอยู่บริเวณนั้นจึงทำให้ไฟดูดเข้า



          อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้มาจากการสอบถามและการบอกเล่าเท่านั้น ยังสรุปไม่ได้ ซึ่งตนได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที พร้อมรายงานเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงศึกษาธิการ ทราบเรื่องแล้ว

          ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาก็ห่วงใยในเรื่องนี้ มีสั่งการกำชับให้โรงเรียนเข้าไปดูแลงานศพของนักเรียนตลอด ดูแลในส่วนของการเยียวยา เรื่องการจัดทำศพ เรื่องสภาพจิตใจ ทั้งนี้ ทราบว่าในวันเกิดเหตุผู้บริหารโรงเรียนได้ช่วยเหลือเงินเบื้องต้นไปแล้วจำนวน 20,000 บาท และได้ช่วยเหลือเงินไปอีกจำนวน 100,000 บาท

          สำหรับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมกับผลของทางพิสูจน์หลักฐาน จะทราบอย่างละเอียดชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (24 มิถุนายน) ซึ่งตนจะเดินทางไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลของนักเรียนด้วยตนเอง พร้อมจะเป็นเจ้าภาพการสวดอภิธรรมศพ หลังจากนี้คงมีมาตรการในการใช้ตู้ไฟฟ้า ตู้กดน้ำ หากหมดสภาพต้องรื้อถอนออกเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน

ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3