ย้อนวันขโมยลูกชิ้นยืนกิน ผู้ต้องหายกโขยงมาทั้งครอบครัว วีรกรรมมีอีกเพียบ สรปุกขอดึงสติ

          ย้อนวันขโมยลูกชิ้นยืนกิน ผู้ต้องหายกโขยงมาทั้งครอบครัว ด้านเจ้าของร้านเสียใจกลับโดนกระแสสังคมด่าหนัก แม้ใจอ่อนจะยอมความก็ไม่ได้ เพราะเป็นคดีอาญา สรปุกดึงสติ หยุดปั้นขโมยเป็นคนดีได้แล้ว


          เป็นคดีที่เสียงแตกกันไม่น้อย สำหรับเรื่องที่นายบุญเที่ยง ขโมยลูกชิ้นยืนกินที่ จ.บุรีรัมย์ ก่อนที่จะถูกตำรวจจับกุมตัว นำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่มีใครมาประกันตัว ในมุมของตำรวจมองว่า นายบุญเที่ยงไม่มีเจตนาขโมย แต่เรื่องนี้เป็นคดีอาญา ยอมความไม่ได้ ต้องเดินหน้าต่อไป

          อ่านข่าว : จับคนขโมยลูกชิ้นยืนกิน 300 บาท พบเป็นคนยากจน เอาไปให้พ่อแม่ป่วยกิน ตร. จำใจทำคดี

          เมื่อย้อนเรื่องราวของคดีดังกล่าว พบว่า เกิดขึ้นวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 เมื่อเจ้าของโรงงานผลิตลูกชิ้นยืนกิน มาแจ้งความร้องเรียนพร้อมหลักฐานภาพวงจรปิด มีรถจักรยานยนต์พ่วงท้ายรถเข็นจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มากันทั้งครอบครัวรวม 6 คน จากนั้นมีชายคนหนึ่งวิ่งมาหยิบลูกชิ้นไป 1 ถุง แล้ววิ่งขึ้นท้ายรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

          ณ เวลานั้น นางสาวณิชชาวีณ์ ฐิติไชยรังสี ยอมรับว่า เห็นภาพในกล้องวงจรปิดแล้วรู้สึกสลดใจ เพราะมากันทั้งครอบครัว ไม่อยากให้ทำพฤติกรรมแบบนี้ เพราะเท่ากับว่าเด็ก ๆ เห็นการขโมยเป็นเรื่องปกติ ที่ผ่านมา มีคนโดนขโมยในลักษณะแบบนี้หลายครั้ง แต่ไม่ค่อยมีคนไปแจ้งความ ทำให้ผู้ก่อเหตุเคยชิน กล้าเอาเด็กมาด้วย จนนำไปสู่การแจ้งความในที่สุด

สรปุกขอดึงสติคนไทย

          ล่าสุด วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 เฟซบุ๊ก Pook Sukonta Berthebaud หรือสรปุก มีการโพสต์เรื่องราวการพูดคุยกับทนายความนางสาวณิชชาวีณ์ เจ้าของร้านลูกชิ้นยืนกิน ทำให้รับรู้เรื่องราวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่เจ้าของร้านไปแจ้งความจนเจอตัวคนร้าย ก็ไปไกล่เกลี่ยกันที่โรงพัก พอเห็นนายบุญเที่ยงก็รู้สึกสงสาร อยากถอนแจ้งความ เพราะสินค้าไม่ได้แพง แค่ 300 บาท แต่ตำรวจทำให้ไม่ได้ เพราะเป็นคดีอาญา แล้วก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมกระแสข่าวถึงพลิกไปได้ขนาดนี้ คนโดนด่ากลับเป็นเจ้าของร้านลูกชิ้นยืนกิน เจ้าตัวรู้สึกเสียใจมาก

          ส่วนมุมมองของสรปุก มองว่า เจ้าของร้านเป็นคนที่ชอบแจกอาหารให้คนในพื้นที่อยู่เรื่อย ๆ แต่ทำไมการถูกขโมยของถึงโดนสังคมถล่ม บางคนก็ประกาศว่าจะไม่มาเหยียบร้านนี้อีก จึงอยากถามว่า เขาผิดอะไร ขอเขากินกับขโมยกินมันคนละเรื่องกัน

          ขณะเดียวกัน ผู้ใหญ่บ้านก็ให้ข่าวว่า คนร้ายมีพฤติกรรมชอบลักขโมยจนเป็นนิสัย คนในพื้นที่ก็บอกว่าเห็นประจำ ฉะนั้นการที่อ้างว่าจน ก็สามารถเบียดเบียนคนอื่นได้หรือ ? หยุดปั้นขโมยเป็นคนดี ทั้งที่จริงสามารถสู้กันด้วยวิธีสุจริตได้ เช่น ขอกันกิน คนไทยใจดีจะตาย