เปิดรายละเอียดผู้ป่วยฝีดาษลิงรายแรกในไทย ยังไม่ฟันธงเป็นพันธุ์ clade 1b

           กรมควบคุมโรค แถลงรายละเอียดเจอผู้ป่วยฝีดาษลิง ยังไม่คอนเฟิร์มเป็นสายพันธุ์ clade 1b รายแรกในไทย ส่วนคนไข้เป็นชาวยุโรปวัย 66 ปี เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง แนะวิธีป้องกันโรคที่ดีที่สุดคือการล้างมือ

          วันที่ 21 สิงหาคม 2567 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค มีการแถลงข่าวเรื่องการพบผู้ป่วยสงสัยว่าเป็นฝีดาษลิง clade 1b รายแรกในไทย ซึ่งเดินทางจากทวีปแอฟริกา มีรายละเอียดดังนี้

          ผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นชายชาวยุโรปวัย 66 ปีที่ทำงานประเทศแถบแอฟริกา มีบ้านอยู่ที่ไทย เมื่อตรวจเจอโรคก็พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เบื้องต้นแพทย์สงสัยจากการซักประวัติเพราะมาจากประเทศที่มีการระบาด ปรากฏว่าผลเป็นลบ และไปตรวจสายพันธุ์ 1b ผลก็ยังบอกไม่ชัดเจน ต้องมีการไล่ยีนส์ตรวจซ้ำอีกครั้งว่าใช่สายพันธุ์ 1b หรือไม่ คาดว่าวันศุกร์นี้ (23 สิงหาคม) จะยืนยันได้ชัดเจน ถ้าหากเป็นสายพันธุ์ 1b ก็จะนับว่าเป็นผู้ป่วยรายแรกในไทย

          ตอนนี้ หน่วยงานประสานงานไปยังบริษัทสายการบินแล้ว สำหรับรายชื่อผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยทั้งหมด 43 รายบนเครื่อง เป็นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่ขออย่าเพิ่งบอกว่าเขาติดเชื้อ เพราะการที่จะติดต่อได้นั้น ผู้ป่วยต้องมีอาการ มีไข้ ผื่นขึ้น และทั้ง 43 รายไม่จำเป็นต้องกักตัว หากพวกเขารู้ว่ามีอาการจะต้องมาพบแพทย์ทันที
 
          อย่างไรก็ตามโรคนี้ไม่ได้ติดต่อง่ายเหมือนโควิด 19 จะติดได้ต้องใกล้ชิดมากจริง ๆ เช่น เพศสัมพันธุ์ ส่วนผู้ที่มีอาการหนักจนถึงเสียชีวิตมักจะมีเชื้อ HIV ร่วมด้วย

          โรคนี้สามารถหายเองได้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลา ยกเว้นเจอภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ อาจทำให้รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ส่วนอาการของโรคมีไข้ มีตุ่มขึ้น แต่ว่าขึ้นน้อยมาก

          ในตอนนี้มันมีการระบาดมากขึ้นกว่าเดิม หมอในระบบจึงต้องเฝ้าระวังมากขึ้น ถ้ามีอาการต้องสงสัยต้องตรวจทันที ส่วนวิธีการป้องกันหน้ากากอนามัยไม่ได้ช่วยป้องกันการระบาด สิ่งที่ป้องกันได้ดีสุดคือ การล้างมือ เลี่ยงการมีเพศสัมพันธุ์กับคนที่เราไม่รู้จัก

          อ่านข่าว : ฝีดาษลิง สายพันธุ์เคลด 1 บี (Clade 1B) แพร่ง่าย อยู่บ้านเดียวกัน 4 ชั่วโมง ก็เสี่ยงติดเชื้อได้