ไฟไหม้รถบัสนักเรียน พยานเล่าขับผ่านเห็นมีควันขึ้นหลังคา รีบจอดช่วยก่อนเจอภาพชวนหดหู่ ด้านครูเผยนาทีหนีตาย ประตูรถเปิดไม่ได้ พร้อมเผยรายชื่อผู้เสียชีวิต เด็กแค่ ป.1 - ม.3
ภาพจาก Thai PBS
จากอุบัติเหตุสลด ไฟไหม้รถบัสนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ที่เดินทางมาทัศนศึกษาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้าที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. นนทบุรี แต่เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน ถนนวิภาวดีรังสิต (ขาเข้า) เบื้องต้นพบว่า มีผู้เสียชีวิตนับ 10 รายนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายไกรเลิศ คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนขับรถมาคู่กับรถบัสดังกล่าว รถบัสคันนี้ขับตามมาต่อกันมา 3 คัน แต่ตนสังเกตว่า รถคันที่เกิดเหตุมีควันขึ้นหลังคารถ จึงจอดรถเพื่อที่จะหาถังดับเพลิง เป็นจังหวะที่รถเมล์ขับผ่านพอดี ตนจึงโบกรถเมล์ให้จอดแล้วเอาถังดับเพลิงมาดับ ทุกคนพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่อยู่ด้านใน แต่ว่าไฟมันแรงมาก ตนจึงถอยออกมาก่อน จากนั้นก็เห็นว่าไฟมันลุกแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตนมองไม่เห็นเลยว่าจำนวนเด็กมีประมาณเท่าไหร่ และไม่ได้ยินเสียงเด็กร้องเลย เห็นเด็ก 2 คนวิ่งออกมามีไฟท่วมทั้งตัวพร้อมกับครูอีก 1 คน
ภาพจาก Thai PBS
จากการสอบถาม นักการภารโรง เล่าว่า รถบัสกำลังพานักเรียนของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ไปทัศนศึกษายังอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ส่วนกลาง มีครูและนักเรียนมาทั้งหมด 44 คน เมื่อขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุรถบัสเกิดยางหน้าซ้ายแตก จากนั้นรถได้เสียหลักไปเบียดกับแบริเออร์ที่อยู่เกาะกลางถนนวิภาวดี ก่อนจะเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นช่วยนักเรียนลงจากรถได้ 19 คน
ด้าน คุณครูที่อยู่ในเหตุการณ์
เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังไปทัศนศึกษา จากนั้นเห็นไฟมันลุกแล้ว
โดยประตูรถเปิดไม่ได้ ซึ่งในรถมีเด็กกับครูอยู่ในรถ รวมทั้งหมด 44 คน
ลงมาได้ 19 คน โดยมาจาก จ.อุทัยธานี
ภาพจาก Thai PBS
ขณะที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า รถบัสจากโรงเรียนดังกล่าวเดินทางมาพร้อมกัน 3 คัน ในจำนวนนี้มี 1 คันเกิดไฟไหม้ คาดว่า สาเหตุจากยางระเบิด และโชเฟอร์พยายามใช้แบริเออร์บริเวณเกาะกลางถนนเพื่อเบรก ประกอบกับด้านล่างมีแก๊สเป็นเชื้อเพลิง ทำให้เกิดไฟไหม้และลุกลาม ซึ่งลักษณะรถ 2 ชั้น ด้านล่างเป็นห้องโถง ด้านบนเป็นส่วนโดยสารหลัก
นักเรียนชั้น ป.1 : 3 คน
นักเรียนชั้น ป.3 : 6 คน
นักเรียนชั้น ป.4 : 6 คน
นักเรียนชั้น ม.2 : 2 คน
นักเรียนชั้น ม.3 : 3 คน
ครู : 3 คน
- คาดเหตุ ไฟไหม้รถบัส แล้วทำไมนักเรียนไปกอง เสียชีวิตท้ายรถ เห็นทางรอดแต่ไปไม่ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, ThaiPBS
ภาพจาก Thai PBS
จากอุบัติเหตุสลด ไฟไหม้รถบัสนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ที่เดินทางมาทัศนศึกษาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้าที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. นนทบุรี แต่เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน ถนนวิภาวดีรังสิต (ขาเข้า) เบื้องต้นพบว่า มีผู้เสียชีวิตนับ 10 รายนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายไกรเลิศ คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนขับรถมาคู่กับรถบัสดังกล่าว รถบัสคันนี้ขับตามมาต่อกันมา 3 คัน แต่ตนสังเกตว่า รถคันที่เกิดเหตุมีควันขึ้นหลังคารถ จึงจอดรถเพื่อที่จะหาถังดับเพลิง เป็นจังหวะที่รถเมล์ขับผ่านพอดี ตนจึงโบกรถเมล์ให้จอดแล้วเอาถังดับเพลิงมาดับ ทุกคนพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่อยู่ด้านใน แต่ว่าไฟมันแรงมาก ตนจึงถอยออกมาก่อน จากนั้นก็เห็นว่าไฟมันลุกแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตนมองไม่เห็นเลยว่าจำนวนเด็กมีประมาณเท่าไหร่ และไม่ได้ยินเสียงเด็กร้องเลย เห็นเด็ก 2 คนวิ่งออกมามีไฟท่วมทั้งตัวพร้อมกับครูอีก 1 คน
ภาพจาก Thai PBS
จากการสอบถาม นักการภารโรง เล่าว่า รถบัสกำลังพานักเรียนของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ไปทัศนศึกษายังอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ส่วนกลาง มีครูและนักเรียนมาทั้งหมด 44 คน เมื่อขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุรถบัสเกิดยางหน้าซ้ายแตก จากนั้นรถได้เสียหลักไปเบียดกับแบริเออร์ที่อยู่เกาะกลางถนนวิภาวดี ก่อนจะเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นช่วยนักเรียนลงจากรถได้ 19 คน
ภาพจาก Thai PBS
ขณะที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า รถบัสจากโรงเรียนดังกล่าวเดินทางมาพร้อมกัน 3 คัน ในจำนวนนี้มี 1 คันเกิดไฟไหม้ คาดว่า สาเหตุจากยางระเบิด และโชเฟอร์พยายามใช้แบริเออร์บริเวณเกาะกลางถนนเพื่อเบรก ประกอบกับด้านล่างมีแก๊สเป็นเชื้อเพลิง ทำให้เกิดไฟไหม้และลุกลาม ซึ่งลักษณะรถ 2 ชั้น ด้านล่างเป็นห้องโถง ด้านบนเป็นส่วนโดยสารหลัก
ด้านเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้ออกมาเผยรายชื่อของผู้เสียชีวิต ที่มี 23 คน ดังนี้
นักเรียนชั้น ป.1 : 3 คน
นักเรียนชั้น ป.3 : 6 คน
นักเรียนชั้น ป.4 : 6 คน
นักเรียนชั้น ม.2 : 2 คน
นักเรียนชั้น ม.3 : 3 คน
ครู : 3 คน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, ThaiPBS