สัมภาษณ์งานเจอคำถามวัดใจ ทำโอทีไม่ได้เงินจะทำไหม คำตอบฉลาดเป็นเลิศ กรรมการยกนิ้ว ได้งานทันที
คำถามสัมภาษณ์งานมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งวัดระดับความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ไหวพริบการแก้ปัญหาและความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคุณสมบัติที่จะนำมาใช้ในการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครงานที่เหมาะสมที่สุด บางคำถามอาจจะเป็นคำถามแปลก ๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการทำงาน หรือไม่มีคำตอบตายตัว และบางคำถามอาจะเรียกได้ว่าเป็นการทดสอบจิตใจ
วันที่ 11 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์ Soha เผยว่า มีกรณีของชายชาวจีนรายหนึ่งชื่อว่าเสวียน (นามสมมุติ) เขาได้ลาออกจากงานที่บริษัทเก่า และได้สมัครงานทางเว็บไซต์พร้อมทั้งส่งเรซูเม่ไปตามที่บริษัทต่าง ๆ จากนั้นไม่กี่วัน เขาก็ได้รับการติดต่อจากบริษัทแห่งหนึ่งให้เข้าไปสัมภาษณ์งานในตำแหน่งฝ่ายสื่อสาร โดยในการสัมภาษณ์ครั้งนั้น นอกจากเขาแล้วยังมีผู้สมัครที่มาแข่งขันกันอีก 2 คน
ทางผู้สัมภาษณ์งานได้ถามคำถามเฉพาะทางเกี่ยวกับงานอยู่ 2-3 คำถาม ก่อนที่หัวหน้าทีมผู้สัมภาษณ์จะถามคำถามพิเศษขึ้นมาว่า "หากคุณต้องทำงานล่วงเวลา โดยที่ไม่ได้รับค่าจ้าง คุณยินดีที่จะทำไหม ?"
หลังจากที่ได้ยินคำถามดังกล่าว ทางผู้สมัครงานทั้ง 3 คน ต่างรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เพราะไม่คาดคิดว่าจะได้รับคำถามเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม การสัมภาษณ์รอบนี้เป็นรอบสุดท้ายแล้ว แม้ว่าทางผู้สมัครจะรู้สึกกระอักกระอ่วนกับคำถาม แต่ก็พยายามที่จะตอบ
หลังจากทางผู้สัมภาษณ์ให้เวลาคิดประมาณ 2 นาที พวกเขาก็เรียกให้ผู้สมัครรายแรกตอบคำถาม ซึ่งผู้สมัครรายนี้มีท่าทางที่ไม่ค่อยยินดีเท่าไหร่นัก เขาจึงตอบออกมาอย่างรวดเร็วว่า "ฉันไปทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพ ถ้าฉันต้องทำงานล่วงเวลาเป็นประจำโดยไม่ได้รับเงินเพิ่ม ฉันก็จะไม่ทำแน่นอน"
เมื่อทางผู้สัมภาษณ์ได้ยิน พวกเขาต่างก็นิ่งเงียบและไม่ได้พูดอะไร
ต่อมาผู้สมัครคนที่สอง เขามีความคิดเห็นตรงกับผู้สมัครรายแรก แต่ก็พยายามจะขยายความให้มากขึ้น โดยตอบว่า "แน่นอนว่าฉันจะไม่มีความสุข หากต้องทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้รับเงินเพิ่ม ดังนั้นฉันจะทำงานตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น ไม่ทำล่วงเวลาโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ไม่มีเวลาให้กับตัวเอง"
ทางผู้สัมภาษณ์งานพยักหน้าเข้าใจในประเด็นเรื่องการรักษาสมดุลชีวิตกับการทำงาน แต่ก็ยังคิดว่าเขาไม่ใช่ผู้ที่เหมาะสม
กระทั่งมาถึงคิวของเสวียน เขาได้ตอบคำถามอย่างรอบคอบว่า "ตราบใดที่งานต้องการฉัน ฉันก็จะทำงานล่วงเวลา อย่างไรก็ตาม หลังจากทำงานไปแล้วนั้น ฉันมีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา หากบริษัทของคุณประสบปัญหาจริง ๆ และไม่สามารถจ่ายเงินส่วนนั้นได้ในขณะนั้น ฉันก็สามารถรอได้ชั่วคราว แต่หากหากบริษัทต้องการซื้อแรงงานราคาถูกจากพนักงาน สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และฉันจะหาทางปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของฉันอย่างแน่นอน"
หลังจากที่ได้ฟังคำตอบของผู้สมัครคนสุดท้าย ทางผู้สัมภาษณ์ต่างพากันปรบมือชื่นชม และตกลงรับจ้างเขาเข้าทำงานในทันที โดยหัวหน้าทีมผู้สัมภาษณ์ กล่าวว่า "คุณพูดได้ถูกต้อง คุณจะต้องเป็นพนักงานที่ดี และเป็นผู้จัดการที่ดีในอนาคตอย่างแน่นอน เราตกลงที่จะจ้างคุณเข้าทำงานในบริษัท"
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha
วันที่ 11 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์ Soha เผยว่า มีกรณีของชายชาวจีนรายหนึ่งชื่อว่าเสวียน (นามสมมุติ) เขาได้ลาออกจากงานที่บริษัทเก่า และได้สมัครงานทางเว็บไซต์พร้อมทั้งส่งเรซูเม่ไปตามที่บริษัทต่าง ๆ จากนั้นไม่กี่วัน เขาก็ได้รับการติดต่อจากบริษัทแห่งหนึ่งให้เข้าไปสัมภาษณ์งานในตำแหน่งฝ่ายสื่อสาร โดยในการสัมภาษณ์ครั้งนั้น นอกจากเขาแล้วยังมีผู้สมัครที่มาแข่งขันกันอีก 2 คน
ทางผู้สัมภาษณ์งานได้ถามคำถามเฉพาะทางเกี่ยวกับงานอยู่ 2-3 คำถาม ก่อนที่หัวหน้าทีมผู้สัมภาษณ์จะถามคำถามพิเศษขึ้นมาว่า "หากคุณต้องทำงานล่วงเวลา โดยที่ไม่ได้รับค่าจ้าง คุณยินดีที่จะทำไหม ?"
หลังจากที่ได้ยินคำถามดังกล่าว ทางผู้สมัครงานทั้ง 3 คน ต่างรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เพราะไม่คาดคิดว่าจะได้รับคำถามเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม การสัมภาษณ์รอบนี้เป็นรอบสุดท้ายแล้ว แม้ว่าทางผู้สมัครจะรู้สึกกระอักกระอ่วนกับคำถาม แต่ก็พยายามที่จะตอบ
หลังจากทางผู้สัมภาษณ์ให้เวลาคิดประมาณ 2 นาที พวกเขาก็เรียกให้ผู้สมัครรายแรกตอบคำถาม ซึ่งผู้สมัครรายนี้มีท่าทางที่ไม่ค่อยยินดีเท่าไหร่นัก เขาจึงตอบออกมาอย่างรวดเร็วว่า "ฉันไปทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพ ถ้าฉันต้องทำงานล่วงเวลาเป็นประจำโดยไม่ได้รับเงินเพิ่ม ฉันก็จะไม่ทำแน่นอน"
ต่อมาผู้สมัครคนที่สอง เขามีความคิดเห็นตรงกับผู้สมัครรายแรก แต่ก็พยายามจะขยายความให้มากขึ้น โดยตอบว่า "แน่นอนว่าฉันจะไม่มีความสุข หากต้องทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้รับเงินเพิ่ม ดังนั้นฉันจะทำงานตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น ไม่ทำล่วงเวลาโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ไม่มีเวลาให้กับตัวเอง"
ทางผู้สัมภาษณ์งานพยักหน้าเข้าใจในประเด็นเรื่องการรักษาสมดุลชีวิตกับการทำงาน แต่ก็ยังคิดว่าเขาไม่ใช่ผู้ที่เหมาะสม
กระทั่งมาถึงคิวของเสวียน เขาได้ตอบคำถามอย่างรอบคอบว่า "ตราบใดที่งานต้องการฉัน ฉันก็จะทำงานล่วงเวลา อย่างไรก็ตาม หลังจากทำงานไปแล้วนั้น ฉันมีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา หากบริษัทของคุณประสบปัญหาจริง ๆ และไม่สามารถจ่ายเงินส่วนนั้นได้ในขณะนั้น ฉันก็สามารถรอได้ชั่วคราว แต่หากหากบริษัทต้องการซื้อแรงงานราคาถูกจากพนักงาน สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และฉันจะหาทางปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของฉันอย่างแน่นอน"
หลังจากที่ได้ฟังคำตอบของผู้สมัครคนสุดท้าย ทางผู้สัมภาษณ์ต่างพากันปรบมือชื่นชม และตกลงรับจ้างเขาเข้าทำงานในทันที โดยหัวหน้าทีมผู้สัมภาษณ์ กล่าวว่า "คุณพูดได้ถูกต้อง คุณจะต้องเป็นพนักงานที่ดี และเป็นผู้จัดการที่ดีในอนาคตอย่างแน่นอน เราตกลงที่จะจ้างคุณเข้าทำงานในบริษัท"
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha