ดิไอคอน รันทุกวงการ มีครบ อัยการ-ตำรวจ-ทหาร โผล่เป็นโค้ช ใช้ฮอลล์ใหญ่จัดอบรมลูกทีม พบโค้ชทหารไล่ลบชื่อลูกทีม หลังเป็นข่าว
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ยังเป็นกรณีที่สังคมตามติดสำหรับปมฉาว ดิไอคอนกรุ๊ป ที่มีมูลค่าความเสียหายมหาศาล ไม่เพียงแค่บุคคลระดับบอสที่ถูกสังคมจี้ตรวจสอบ แต่โลกออนไลน์ยังขุดเรื่องราวเบื้องหลังองค์กรมาตีแผ่อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด (15 ตุลาคม 2567) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า เครือข่ายดิไอคอนลุกลามไปถึงหลาย ๆ วงการไม่เพียงแค่วงการบันเทิง แต่มีแม้กระทั่งอัยการ ทหาร และตำรวจ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
อัยการ สามีอาจารย์มหาวิทยาลัย แม่ข่ายดิไอคอน
โดยก่อนหน้านี้ที่มีกระแสพูดถึงสามีของแม่ข่ายรายหนึ่งที่มาออกรายการโหนกระแส ว่าเป็นถึงอัยการ ทาง นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย (สคช.) ออกมายืนยันแล้วว่า ตามที่มีข่าวอาจารย์มหาวิทยาลัย มีสามีเป็นพนักงานอัยการ ร่วมเครือข่ายหลอกลวงประชาชนหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบคลิป พบว่าชายคนดังกล่าวชื่อย่อ ณ เป็นพนักงานอัยการจริง ปฏิบัติหน้าที่เป็นรองอัยการฯ ในจังหวัดมหาสารคาม
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
โค้ชนายตำรวจ ระดับดีลเลอร์ ยันไม่รู้เป็นการหลอกลวง
ขณะนี้ทางอธิบดีอัยการภาค 4 ได้แจ้งให้อัยการคนดังกล่าวชี้แจงแล้ว ส่วนจะพิสูจน์เจตนาว่าพนักงานอัยการคนดังกล่าวกระทำผิดจริง จะมีข้อพิจารณาอย่างไรนั้น บุคคลจะรับโทษทางอาญาก็ต่อเมื่อมีเจตนาประสงค์ต่อผล หรืออาจย่อมเล็งเห็นผล ซึ่งการกระทำจะพิสูจน์เจตนา
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ขณะที่กระแสข่าวเรื่องมีตำรวจยศ ส.ต.ท. ปรากฏตัวเป็นโค้ช ดิไอคอน ด้วยนั้น ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบเป็นตำรวจประจำ สภ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ซึ่งรอง ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า ได้สอบถาม ส.ต.ท. รายนี้แล้ว ทราบว่าตำรวจนายนี้เคยขายครีมมาก่อน จากนั้นเข้าสู่ธุรกิจขายตรงในปี 2563 และจึงมาเริ่มดูแผนการตลาดของดิไอคอนแล้วรู้สึกสนใจ เลยเข้าไปสมัครเรียนรู้ ปัจจุบันเป็นสมาชิกระดับดีลเลอร์
ส.ต.ท. เผยว่า สิ่งที่ตนทำมีทั้งการขายของและหาสมาชิก ซึ่งสามารถนำสินค้าที่ตัวเองเป็นตัวแทนจำหน่ายมาขายต่อแก่สมาชิกได้ และยังมีการประชาสัมพันธ์ตัวเอง ทำให้มีคนสนใจเข้ามาสมัคร อย่างไรก็ตาม ส.ต.ท. อ้างไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำเป็นการหลอกลวง หากรู้ก็จะไม่ทำ เพราะเจตนามีแค่ต้องการขายของอย่างเดียว
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ทหารยศพันตรี โผล่เป็นโค้ช ไล่ลบคอนแท็กต์ลูกทีมหลังมีข่าว
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ยังมีผู้เสียหายอีกรายออกมาแฉเรื่องที่มีนายทหารยศพันตรี จัดคอร์สอบรมสัมมนาใหญ่เกี่ยวกับแผนธุรกิจระดับดีลเลอร์ ให้กับลูกทีมที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยนายทหารสัญญาบัตรดังกล่าวใช้ชื่อว่า โค้ชเดียว อยู่ในระดับแพลตตินัม ดีลเลอร์ เดินทางมาเป็นโค้ชสอนทำธุรกิจยิงแอด
ผู้เสียหายเผยว่า ตนสนใจสมัครเข้าธุรกิจออนไลน์เพราะเห็นว่าดิไอคอนมีสอนทุกอย่าง มีคลิปคนดัง ๆ มากมาย แต่ที่ตัดสินใจควักเงินลงทุนมาจากคลิปของ กันต์ กันตถาวร จึงควักเงินลงทุนไป 25,000 บาท ในปี 2565
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ตนเองสมัครเข้าคอร์สในเดือนมกราคม 2565 จนถึงเดือนมีนาคม ปีเดียวกัน ซึ่งในระยะเวลานั้นยังหลงเชื่อ จ่ายเงินไปอีก 250,000 บาท ต้องเอารถไฟเข้าไฟแนนซ์ ขยายวงเงินบัตรเครดิตและกดเงินสดออกมา
แต่ตอนที่เป็นระดับซุปเปอร์ไวเซอร์ แม่ข่ายบอกว่าเลเวลนี้ ต้องหาลูกทีม สินค้าคือคอลลาเจนที่ได้ไปอย่าเพิ่งขาย ให้ทดลองใช้เองดูก่อน และมีครูพี่เลี้ยงคอยดูแล แต่ต่อมากลับพบว่าคอลลาเจนขึ้นรา เมื่อติดต่อไปยังบริษัทกลับอ้างว่าสินค้ามีส่วนผสมธรรมชาติ หากเก็บหรือขนส่งไม่ดีจะเสียหายได้ ทั้งที่ไม่มีใครแจ้งมาก่อน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ทั้งนี้ พบว่าหลังเกิดประเด็นข่าวในสังคม โค้ชเดียวได้ไล่ลบชื่อลูกทีมออกจากกลุ่มไลน์ แล้วเปลี่ยนชื่อไลน์ไอดีของตัวเองใหม่ จาก "Mai เดียว" เป็น 555 และตนเองก็ไม่สามารถติดต่อแม่ทีมได้อีก
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้ , เดลินิวส์, แนวหน้า
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ยังเป็นกรณีที่สังคมตามติดสำหรับปมฉาว ดิไอคอนกรุ๊ป ที่มีมูลค่าความเสียหายมหาศาล ไม่เพียงแค่บุคคลระดับบอสที่ถูกสังคมจี้ตรวจสอบ แต่โลกออนไลน์ยังขุดเรื่องราวเบื้องหลังองค์กรมาตีแผ่อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด (15 ตุลาคม 2567) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า เครือข่ายดิไอคอนลุกลามไปถึงหลาย ๆ วงการไม่เพียงแค่วงการบันเทิง แต่มีแม้กระทั่งอัยการ ทหาร และตำรวจ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
อัยการ สามีอาจารย์มหาวิทยาลัย แม่ข่ายดิไอคอน
โดยก่อนหน้านี้ที่มีกระแสพูดถึงสามีของแม่ข่ายรายหนึ่งที่มาออกรายการโหนกระแส ว่าเป็นถึงอัยการ ทาง นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย (สคช.) ออกมายืนยันแล้วว่า ตามที่มีข่าวอาจารย์มหาวิทยาลัย มีสามีเป็นพนักงานอัยการ ร่วมเครือข่ายหลอกลวงประชาชนหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบคลิป พบว่าชายคนดังกล่าวชื่อย่อ ณ เป็นพนักงานอัยการจริง ปฏิบัติหน้าที่เป็นรองอัยการฯ ในจังหวัดมหาสารคาม
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
โค้ชนายตำรวจ ระดับดีลเลอร์ ยันไม่รู้เป็นการหลอกลวง
ขณะนี้ทางอธิบดีอัยการภาค 4 ได้แจ้งให้อัยการคนดังกล่าวชี้แจงแล้ว ส่วนจะพิสูจน์เจตนาว่าพนักงานอัยการคนดังกล่าวกระทำผิดจริง จะมีข้อพิจารณาอย่างไรนั้น บุคคลจะรับโทษทางอาญาก็ต่อเมื่อมีเจตนาประสงค์ต่อผล หรืออาจย่อมเล็งเห็นผล ซึ่งการกระทำจะพิสูจน์เจตนา
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ขณะที่กระแสข่าวเรื่องมีตำรวจยศ ส.ต.ท. ปรากฏตัวเป็นโค้ช ดิไอคอน ด้วยนั้น ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบเป็นตำรวจประจำ สภ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ซึ่งรอง ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า ได้สอบถาม ส.ต.ท. รายนี้แล้ว ทราบว่าตำรวจนายนี้เคยขายครีมมาก่อน จากนั้นเข้าสู่ธุรกิจขายตรงในปี 2563 และจึงมาเริ่มดูแผนการตลาดของดิไอคอนแล้วรู้สึกสนใจ เลยเข้าไปสมัครเรียนรู้ ปัจจุบันเป็นสมาชิกระดับดีลเลอร์
ส.ต.ท. เผยว่า สิ่งที่ตนทำมีทั้งการขายของและหาสมาชิก ซึ่งสามารถนำสินค้าที่ตัวเองเป็นตัวแทนจำหน่ายมาขายต่อแก่สมาชิกได้ และยังมีการประชาสัมพันธ์ตัวเอง ทำให้มีคนสนใจเข้ามาสมัคร อย่างไรก็ตาม ส.ต.ท. อ้างไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำเป็นการหลอกลวง หากรู้ก็จะไม่ทำ เพราะเจตนามีแค่ต้องการขายของอย่างเดียว
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ทหารยศพันตรี โผล่เป็นโค้ช ไล่ลบคอนแท็กต์ลูกทีมหลังมีข่าว
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ยังมีผู้เสียหายอีกรายออกมาแฉเรื่องที่มีนายทหารยศพันตรี จัดคอร์สอบรมสัมมนาใหญ่เกี่ยวกับแผนธุรกิจระดับดีลเลอร์ ให้กับลูกทีมที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยนายทหารสัญญาบัตรดังกล่าวใช้ชื่อว่า โค้ชเดียว อยู่ในระดับแพลตตินัม ดีลเลอร์ เดินทางมาเป็นโค้ชสอนทำธุรกิจยิงแอด
ผู้เสียหายเผยว่า ตนสนใจสมัครเข้าธุรกิจออนไลน์เพราะเห็นว่าดิไอคอนมีสอนทุกอย่าง มีคลิปคนดัง ๆ มากมาย แต่ที่ตัดสินใจควักเงินลงทุนมาจากคลิปของ กันต์ กันตถาวร จึงควักเงินลงทุนไป 25,000 บาท ในปี 2565
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ตนเองสมัครเข้าคอร์สในเดือนมกราคม 2565 จนถึงเดือนมีนาคม ปีเดียวกัน ซึ่งในระยะเวลานั้นยังหลงเชื่อ จ่ายเงินไปอีก 250,000 บาท ต้องเอารถไฟเข้าไฟแนนซ์ ขยายวงเงินบัตรเครดิตและกดเงินสดออกมา
แต่ตอนที่เป็นระดับซุปเปอร์ไวเซอร์ แม่ข่ายบอกว่าเลเวลนี้ ต้องหาลูกทีม สินค้าคือคอลลาเจนที่ได้ไปอย่าเพิ่งขาย ให้ทดลองใช้เองดูก่อน และมีครูพี่เลี้ยงคอยดูแล แต่ต่อมากลับพบว่าคอลลาเจนขึ้นรา เมื่อติดต่อไปยังบริษัทกลับอ้างว่าสินค้ามีส่วนผสมธรรมชาติ หากเก็บหรือขนส่งไม่ดีจะเสียหายได้ ทั้งที่ไม่มีใครแจ้งมาก่อน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ทั้งนี้ พบว่าหลังเกิดประเด็นข่าวในสังคม โค้ชเดียวได้ไล่ลบชื่อลูกทีมออกจากกลุ่มไลน์ แล้วเปลี่ยนชื่อไลน์ไอดีของตัวเองใหม่ จาก "Mai เดียว" เป็น 555 และตนเองก็ไม่สามารถติดต่อแม่ทีมได้อีก
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้ , เดลินิวส์, แนวหน้า