ธเนตร วงษา ที่ถูกหาว่าเป็นนอมินี ดิไอคอนกรุ๊ป คอยติดต่อเทวดาตาม สคบ. ยอมรับ สนิทกับพอลจนเรียก น้องพอล แต่พอล วรัตน์พล ไม่เคยมาปรึกษา พร้อมให้กำลังใจ สู้ ๆ ที่ผิดคือเรื่องการจดทะเบียน เพราะดิไอคอนมีสินค้าจริง
จากกรณีที่มีการเปิดเผยในรายการ ถกไม่เถียง ว่า นาย ธ. คือกุนซือที่แท้จริงของ ดิไอคอนกรุ๊ป ของ พอล วรันต์พล เป็นผู้คอยดูแล เป็นนอมินี และติดต่อเหล่าเทวดา ที่ดิไอคอนจะเอาเงินจากเหล่าลูกข่ายที่รับเป็นเงินสด ไม่ผ่านบริษัทแปลงเป็น USDT รวมมูลค่าหลายหมื่นล้าน ส่งต่อให้และต่อมามีการโยงว่า นาย ธ. คือ ธเนตร วงษา คนเขียนหนังสือ ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย และอดีตผู้สมัครผู้ว่า กทม.
อ่านเพิ่มเติม สรุปแฉ ธ. ลาสต์บอสตัวจริงของ ดิไอคอนกรุ๊ป รายได้จริงคือแสนล้าน เซ่นไหว้เทวดาด้วยคริปโต
ทั้งนี้ ในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ นายธเนตร ได้ออกมาเปิดเผยว่า เรื่องการเอาของเซ่นไหว้เทวดา นายธเนตรบอกว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ดิไอคอน ที่มีการพูดว่านายธเนตรเป็นนอมินี ส่งเครื่องเซ่นไหว้ให้เทวดานั้นไม่จริง ตนเคยทำที่ เจอเนส โกลบอล (บริษัทด้านขายตรง) และมีพอลเป็นทีมงาน ต่อมาพอลไปเปิดดิไอคอน ตนก็ยังทำที่เจอเนสเหมือนเดิม แต่ตนหยุดพัก
ในตอนนั้น พอลเป็นลูกทีมของตนที่เจอเนส อยู่กันมา 7 ปี ตอนนั้นก็สนิทกัน โดยที่ตนเป็นอัปไลน์ของพอล ตนเห็นแววของพอลตั้งแต่ยังไม่ร่วมงานกัน พอลก็เป็นคนเก่งคนหนึ่ง และพอลก็ออกจากเตอเนสไปเปิด ดิไอคอน และเราก็ไม่ได้เกี่ยวกันแล้ว
ภาพจาก กรรมกรข่าว คุยนอกจอ
ก่อนที่จะมาทำเจอเนส เราก็อยู่ที่เครือข่ายบริษัทหนึ่ง แต่อยู่คนละทีมกัน แต่ด้วยความพอลเห็นว่าตนทำธุรกิจประสบความสำเร็จ เลยสนใจและมาทำธุรกิจด้วยกัน หลังจากที่ตนลาออกจากการไฟฟ้าเมื่อปี 2537 ตนทำธุรกิจนี้มา 30 ปี ไปดูงานที่อเมริกาเป็น 10 รอบ และมีความรู้เรื่องธุรกิจเครือข่ายว่า คนที่สำเร็จประสบความสำเร็จเป็นอย่างไร ตนเคยทำกิฟฟารีน แอมเวย์ และไม่เคยไปเล่นมันนี่เกมเลย
ทุกคนรู้ว่าพอลแยกออกไปและไปเปิดบริษัทเอง แต่ไม่ได้ชวนตน เพราะตนเป็นเบอร์ 1 ที่เจอเนส ตนไม่ไปอยู่แล้ว ไม่มีความสัมพันธ์อื่นเลย ช่วงหลัง ๆ ไม่ได้คุย แต่มีแชตกันบ้าง หลังสุดคือเมื่อเดือนที่แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ถือว่าสนิทกัน เขาไม่เคยชวนตนไปลงทุนแต่อย่างใด แต่ไม่เคยปรึกษาเรื่องไอคอน ไม่เคยปรึกษาว่าโดนรีดไถ แต่เวลาเรียกกันจะเรียกว่า "น้องพอล" และพอลเรียกนายธเนตรว่า "ป๋า"
ทุกคนรู้ว่าพอลแยกออกไปและไปเปิดบริษัทเอง แต่ไม่ได้ชวนตน เพราะตนเป็นเบอร์ 1 ที่เจอเนส ตนไม่ไปอยู่แล้ว ไม่มีความสัมพันธ์อื่นเลย ช่วงหลัง ๆ ไม่ได้คุย แต่มีแชตกันบ้าง หลังสุดคือเมื่อเดือนที่แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ถือว่าสนิทกัน เขาไม่เคยชวนตนไปลงทุนแต่อย่างใด แต่ไม่เคยปรึกษาเรื่องไอคอน ไม่เคยปรึกษาว่าโดนรีดไถ แต่เวลาเรียกกันจะเรียกว่า "น้องพอล" และพอลเรียกนายธเนตรว่า "ป๋า"
เมื่อถามว่าทุกวันนี้รวยไหม นายธเนตรบอกว่า พอประมาณ ที่ผ่านมาตนเคยได้เงินหลายร้อยล้าน ประมาณ 500 ล้าน ถูกหลอกถูกโกงไปบ้าง ใช้จ่ายไปบ้าง ตนก็เคยโดนหลอก Forex 3D เคยหลอกลงทุนหุ้น IPO ออกโหนกระแส ที่ผ่านมาตนก็เป็นเหยื่อมาหลายที่
ส่วนที่บอกว่า ตนไปถือหุ้นของดิไอคอน 21% ไม่เป็นความจริง ตนไม่มีนอมินี และไม่เคยให้คำแนะนำกับดิไอคอน และจากนี้ตนจะได้พูดความจริงว่าเครือข่ายที่ถูกต้องเป็นอย่างไร การตลาดแบบตรง การตลาดแบบเครือข่ายเป็นยังไง ธุรกิจขายตรงที่จดกับ สคบ. มีประมาณ 638 กว่าบริษัท ส่วนการตลาดแบบตรงมีประมาณ 890 บริษัท
ส่วนจินดา แซ่ก๊อก (แม่ของบอสพอล) นายธเนตรยืนยันว่าตนไม่รู้จัก ตนไม่ทราบเรื่องเทวดา ที่ต้องเอาเงินไปให้ หรือเรื่องการเปลี่ยนเงินสดเป็นคริปโต ตนไม่รู้เรื่องเลย และที่ทนายตั้มบอกว่า ตนเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ตนไม่ใช่ ตนเป็นเพียงอดีตผู้สมัครผู้ว่า กทม. เบอร์ 14 รอบที่แล้ว ตนทำธุรกิจสีขาวมาตลอด
ภาพจาก กรรมกรข่าว คุยนอกจอ
ส่วนนักการเมือง ส. เป็นคนอยู่ในวงการเครือข่าย เพราะเขาเคยเป็นประธานปราบแชร์ลูกโซ่ และตนก็ต่อต้านแชร์ลูกโซ่มาตลอด แต่ตนไม่เคยให้เขาดูแล เราเคยคุยกัน 2-3 ครั้ง แต่ไม่สนิทด้วย ส่วนตัวเรื่องเทวดาประจำหน่วยงานต่าง ๆ ตนไม่ออกความเห็นดีกว่า แต่คิดว่าน่าจะมีอยู่จริง หากจะมีการตรวจสอบ ตนยืนยันว่าทำได้ และจะบอกพอลว่า "เป็นกำลังใจ สู้ ๆ" ส่วนที่ดีเขาก็มีเยอะ ส่วนที่ผิด เช่น การให้คนซื้อเยอะ ๆ มันก็ไม่ถูกต้อง ตนยึดหลัก ลงทุนน้อย ๆ เรียนรู้เยอะ ๆ เน้นขาย เน้นขยายธุรกิจ ถ้าไม่มีเงินทุนให้ไปขับแกร็บ ขับโบล์ทดีกว่า ไม่แนะนำให้กู้ยืมมาลงทุน
ภาพจาก โหนกระแส