กรมปศุสัตว์ เผยผลตรวจสุขภาพร่างกาย น้องสำลี แมวดำที่ถูกวางยาสลบเข้าฉากในละคร แม่หยัว เผยผู้ให้ยาไม่ใช่สัตวแพทย์ แต่เป็นโมเดลลิ่ง อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์
ภาพจาก ช่อง one31
เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก สำหรับการนำแมวเข้าฉากโดนวางยาในละคร แม่หยัว หลังถูกตั้งข้อสงสัยว่าน้องแมวตัวดังกล่าว ถูกวางยาสลบหรือเปล่า ซึ่งหากทำจริง ก็เป็นทำให้น้องแมวต้องเสี่ยงอันตราย และมองว่าเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์หรือไม่ จนเกิดกระแส #แบนแม่หยัว ก่อนจะมีการชี้แจงจากทางผู้กำกับ บอกว่าวางยาสลบแมวจริง แต่มีผู้เชี่ยวชาญดูแล ซึ่งคนก็ยังสงสัยว่าผู้เชี่ยวชาญคือใคร เจ้าของแมวหรือโมเดลลิ่งหรือเปล่า เพราะมองว่าถ้าเป็นสัตวแพทย์ ไม่น่าจะรับงานแบบนี้หรือไม่
อ่านข่าว : ช่องวัน แถลงปม แม่หยัว สัญญาจะระวังขึ้น ชี้ใช้ผู้เชี่ยวชาญนำสัตว์ถ่ายทำกว่า 10 ปี
อ่านข่าว : ย้ำชัด วางยาสลบแมว ต้องทำโดยสัตวแพทย์-เปิดความเสี่ยง ซัดผู้เชี่ยวชาญคือใคร
โดยล่าสุด (15 พฤศจิกายน 2567) สำนักข่าวไทย มีรายงานว่า นายสัตวแพทย์บุญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยว่า ได้รับรายงานจาก นายสัตวแพทย์ชัยวลัญช์ ตุนาค ผู้อำนวยการกองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ ว่า ผู้เกี่ยวข้องกับกรณีให้ยาแมวเพื่อเข้าฉากในละคร แม่หยัว ได้มาให้ถ้อยคำต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว ประกอบด้วยผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ ผู้กำกับละคร และโมเดลลิ่ง พร้อมนำ "น้องสำลี" แมวดำที่เข้าฉากมาให้ตรวจสอบด้วย
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า เป็นแมวตัวเดียวกับที่เข้าฉาก โดย "น้องสำลี" อายุ 5 ปี หนัก 5.5 กก. ทางสัตวแพทย์ ได้ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด ตรวจการทำงานของตับและไต รวมถึงเอกซเรย์ช่องอก เพื่อดูความผิดปกติของปอดและตรวจวัดขนาดของหัวใจ เอกซเรย์ช่องท้อง พบว่าน้องแข็งแรงสมบูรณ์ ผลเลือดปกติ ไม่พบความผิดปกติใด ๆ
โดยบทกำหนดโทษตามมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มีระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเจ้าของสัตว์ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตรามมาตรา 22 มาตรา 24 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
ภาพจาก ช่อง one31
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย